บรรยากาศในสวนภายในมหาวิทยาลัยมหิดลและความโรแมนติกของมหิดลที่ใครๆ ก็สามารถมาได้ใกล้ๆในกรุงเทพ การได้มีโอกาสไปเดินเล่นภายในมหาวิทยาลัยมหิดลถือเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่น่าประทับใจและน่าจดจำอย่างยิ่ง สำหรับใครที่เคยได้ไปเยี่ยมชมมหาวิทยาลัยแห่งนี้คงจะรู้ดีว่าที่นี่ไม่ได้เป็นเพียงสถานที่เรียนหรือทำงานเท่านั้น แต่ยังเป็นพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยธรรมชาติ ต้นไม้ สวน และบรรยากาศที่สงบเงียบ เหมาะสำหรับการพักผ่อนหย่อนใจอย่างแท้จริง วันที่ฉันได้ไปเดินชมบรรยากาศในสวนของมหาวิทยาลัยมหิดลนั้น อากาศค่อนข้างเย็นสบาย ไม่ร้อนจัดเหมือนวันอื่น ๆ ของสัปดาห์ ฟ้าครึ้มเล็กน้อยแต่ไม่ถึงกับมืด ฝนไม่ตก ลมพัดเบา ๆ ตลอดเวลา ทำให้รู้สึกผ่อนคลายตั้งแต่ก้าวแรกที่เดินเข้ามาในพื้นที่ของมหาวิทยาลัย ความรู้สึกแรกที่เกิดขึ้นคือ “ที่นี่ช่างร่มรื่นและสงบเหลือเกิน” ต้นไม้ใหญ่เรียงรายอยู่สองข้างทาง มีทั้งไม้ดอกไม้ประดับหลากสีสันที่ได้รับการดูแลอย่างดี เมื่อเดินไปตามทางเดินปูนที่สะอาดสะอ้านก็จะได้กลิ่นหอมอ่อน ๆ ของดอกไม้ที่ลอยมาตามสายลม เสียงนกร้องเบา ๆ ประกอบกับเสียงใบไม้ไหวตามแรงลม ทำให้บรรยากาศโดยรอบดูมีชีวิตชีวาแต่ก็ยังคงความสงบอยู่ในตัวเอง บางมุมของสวนมีเก้าอี้ไม้และโต๊ะให้นั่งพัก บางจุดมีศาลาเล็ก ๆ สำหรับให้นักศึกษาหรือคนทั่วไปมานั่งอ่านหนังสือหรือพูดคุยกันอย่างเงียบ ๆ ฉันเลือกนั่งพักบริเวณใกล้สระน้ำกลางสวน ซึ่งเป็นจุดที่มีลมพัดผ่านเกือบตลอดเวลา มองเห็นเงาของต้นไม้สะท้อนอยู่บนผิวน้ำ สิ่งที่ทำให้ฉันประทับใจมากที่สุดในวันนั้นคือ “บรรยากาศดีและไม่ได้ร้อนมาก” เพราะโดยปกติการเดินในช่วงกลางวันมักจะรู้สึกร้อนอบอ้าว แต่ภายในมหาวิทยาลัยมหิดลกลับต่างออกไป ต้นไม้จำนวนมากช่วยให้ร่มเงาและลดความร้อนจากแสงแดดได้เป็นอย่างดี อุณหภูมิรอบ ๆ ดูเย็นกว่าพื้นที่ภายนอกมหาวิทยาลัยอย่างเห็นได้ชัด การเดินช้า ๆ ท่ามกลางทางเดินที่รายล้อมด้วยสีเขียวของต้นไม้และสนามหญ้าทำให้รู้สึกสดชื่นทั้งกายและใจ นอกจากบรรยากาศทางธรรมชาติแล้ว สิ่งที่ฉันรู้สึกประทับใจอีกอย่างคือการจัดวางภูมิทัศน์ของสวนในมหาวิทยาลัย ทุกอย่างดูเป็นระเบียบและสะอาดสะอ้าน ทางเดินถูกออกแบบให้กว้างพอสำหรับการเดินหรือปั่นจักรยาน มีป้ายบอกเส้นทางอย่างชัดเจน มีจุดพักผ่อนเป็นระยะ ๆ รวมถึงพื้นที่ออกกำลังกายกลางแจ้งให้คนที่ชอบสุขภาพได้มาใช้บริการ บางคนพาสุนัขมาเดินเล่น บางคนมาวิ่งตอนเช้าหรือเย็น สะท้อนให้เห็นว่าที่นี่ไม่ได้เป็นเพียงสถานศึกษา แต่ยังเป็นพื้นที่ที่เปิดโอกาสให้ทุกคนได้ใกล้ชิดธรรมชาติ ในระหว่างที่เดินชมสวน ฉันสังเกตเห็นนักศึกษาหลายกลุ่มกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ บางคนยิ้มทักทายกันอย่างเป็นมิตร บางคนถ่ายรูปกับเพื่อน ๆ บริเวณสวนดอกไม้ที่อยู่ใกล้สระน้ำ ภาพเหล่านี้ทำให้ฉันรู้สึกถึงความอบอุ่นและความเป็นชุมชนในรั้วมหาวิทยาลัย บรรยากาศโดยรวมเต็มไปด้วยพลังบวกที่ทำให้รู้สึกอยากอยู่ต่ออีกนาน ๆ ช่วงสายของวัน ลมเริ่มพัดแรงขึ้นเล็กน้อย แสงแดดยังคงอ่อน ไม่ร้อนแรง ฉันเดินต่อไปจนถึงสวนบริเวณใกล้ศูนย์การเรียนรู้ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ได้รับความนิยมมาก เพราะมีทั้งต้นไม้ใหญ่ สนามหญ้า และบ่อบัว บัวหลวงสีชมพูบานอยู่เต็มบ่อ สะท้อนกับแสงแดดระยิบระยับ เป็นภาพที่งดงามและสงบในเวลาเดียวกัน ฉันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายภาพไว้หลายรูป เพราะรู้สึกอยากเก็บความประทับใจนี้ไว้ให้นานที่สุด ระหว่างเดินกลับ ฉันสังเกตเห็นพนักงานของมหาวิทยาลัยกำลังรดน้ำต้นไม้และกวาดใบไม้ที่ร่วงอยู่ตามทาง ความใส่ใจของคนดูแลทำให้เข้าใจได้ว่าทำไมสถานที่แห่งนี้ถึงยังคงร่มรื่นและน่าอยู่เสมอ ความสะอาดและความเป็นระเบียบทำให้ผู้มาเยือนรู้สึกถึงความเอาใจใส่ในรายละเอียด ซึ่งเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ฉันรู้สึกประทับใจมาก อีกสิ่งหนึ่งที่สังเกตได้คือระบบการจัดการพื้นที่สีเขียวของมหาวิทยาลัยมหิดลนั้นมีความยั่งยืน ไม่ว่าจะเป็นการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ในบางจุด การติดตั้งถังขยะสำหรับแยกประเภทอย่างชัดเจน หรือการมีป้ายให้ความรู้เกี่ยวกับต้นไม้แต่ละชนิด สิ่งเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงแนวคิด “มหาวิทยาลัยสีเขียว” ที่มุ่งเน้นการอยู่ร่วมกับธรรมชาติอย่างสมดุล ฉันรู้สึกชื่นชมในแนวคิดนี้มาก เพราะมันไม่เพียงทำให้สถานที่ดูสวยงาม แต่ยังช่วยปลูกฝังจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อมให้กับผู้คนที่มาเยือนด้วย หลังจากเดินมาหลายชั่วโมง ฉันเลือกไปนั่งพักที่ม้านั่งใต้ต้นไม้ใหญ่บริเวณใกล้บ่อน้ำอีกครั้ง ตอนนั้นเป็นช่วงบ่ายแก่ ๆ แสงแดดเริ่มส่องผ่านใบไม้ลงมาเป็นลำ ๆ ให้ความรู้สึกอบอุ่นแต่ไม่ร้อนเกินไป เสียงน้ำจากบ่อเล็ก ๆ ที่ไหลผ่านข้างทางให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในสวนธรรมชาติจริง ๆ ฉันหลับตาและสูดอากาศเข้าลึก ๆ ความเย็นของลมและกลิ่นหอมของหญ้าทำให้รู้สึกผ่อนคลายอย่างบอกไม่ถูก เหมือนความเหนื่อยล้าที่สะสมจากการเรียนหรือการทำงานค่อย ๆ หายไปทีละน้อย สิ่งที่ฉันได้จากการเดินชมบรรยากาศในสวนภายในมหิดล ไม่ได้มีเพียงความประทับใจในธรรมชาติเท่านั้น แต่ยังเป็นการได้ใช้เวลาอยู่กับตัวเอง ได้ทบทวนความคิดและความรู้สึกในใจ การได้เดินช้า ๆ ท่ามกลางความสงบทำให้ได้เรียนรู้ที่จะอยู่กับปัจจุบันมากขึ้น รู้สึกถึงคุณค่าของธรรมชาติและความเรียบง่ายที่มักถูกมองข้ามในชีวิตประจำวัน ก่อนกลับ ฉันแวะไปซื้อเครื่องดื่มเย็น ๆ ที่ร้านกาแฟเล็ก ๆ ในบริเวณใกล้สวน นั่งจิบกาแฟพร้อมมองวิวต้นไม้และผู้คนที่เดินผ่านไปมา ภาพนักศึกษาที่เดินคุยกันอย่างร่าเริง เสียงหัวเราะเบา ๆ และแสงแดดยามบ่ายที่ลอดผ่านใบไม้เป็นประกาย—all of these ทำให้รู้สึกว่ามหาวิทยาลัยมหิดลเป็นสถานที่ที่อบอุ่น มีชีวิตชีวา และเต็มไปด้วยพลังบวกที่หาได้ยากในเมืองใหญ่ การได้ไปเดินในสวนของมหาวิทยาลัยมหิดลในวันนั้นจึงกลายเป็นประสบการณ์ที่ฉันจะไม่มีวันลืม เพราะมันไม่ได้เป็นเพียงการเดินชมธรรมชาติเท่านั้น แต่เป็นช่วงเวลาที่ทำให้รู้สึกถึงความสงบ ความสุข และการเชื่อมโยงกับสิ่งรอบตัวอย่างแท้จริง บรรยากาศที่ดี อากาศไม่ร้อนมาก และธรรมชาติที่ร่มรื่นกลายเป็นสิ่งที่ประทับใจของฉัน เครดิต : นางสาวธิรดา ช้างเผือก(ครีเอเตอร์) อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !