“ดอยอินทนนท์ จุดชมวิวกิ่วแม่ปาน” น้อยคนที่จะไม่รู้จัก พี่เราคนหนึ่งบอกว่า ในช่วงเทศกาลท่องเที่ยวแห่งปี โดยเฉพาะในช่วงปีใหม่ “ดอยอินทนนท์” คือด่านที่เก็บค่าเข้าชมได้เป็นอันดับต้น ๆ ของอุทยานในประเทศไทย จริงแท้อย่างไรอันนี้เราก็ไม่ทราบได้ รู้แต่ว่าที่แห่งนี้ จะเป็นข่าวอยู่เสมอ เพราะนักท่องเที่ยวเรียกได้ว่า “ล้นดอย” กันทุกปี … เพราะทุกคนอยากเห็นแสงแรก บนยอดดอยที่สูงที่สุดในประเทศไทย นั่นเอง ทีมของเราเดินทางจากจังหวัดลำพูน ยิงตรงขึ้นดอยอินทนนท์ในถนนหมายเลข 108 และ 1009 ตามลำดับ โดยเลือกที่จะไม่ผ่านเข้าไปตัวเมืองเชียงใหม่ เพราะรถติดอย่างมากจึงต้องเลี่ยง และเข้าที่พักราว ๆ บ่าย 3 โมงเย็น ณ รีสอร์ทชัวร์ญ่า สังสรรค์กันเล็กน้อย ก็รีบเข้านอน เพราะตั้งใจว่าจะไปดูแสงแรกที่ จุดชมวิวกิ่วแม่ปานแต่เช้ามืด ปลุกกันตั้งแต่ตี 4 นิด ๆ เพราะทีมเรามีกันทั้งหมด 6 คน กับ 1 ห้องน้ำ ดังนั้นต้องจัดระเบียบกันหน่อย ประมาณตี 5 รถสองแถวที่เหมาเอาไว้ก็มาตามนัด จากนั้นประมาณ 20 นาที ทีมเราก็ถึงจุดหมายด้วยความมืด โดยอาศัยแสงสว่างจากไฟหน้ารถของนักท่องเที่ยว จากที่คิดว่าเรามากันเร็ว แต่เพื่อน ๆ ทีมอื่นมาเร็วกว่ามาก สังเกตได้จากที่จอดรถแทบหาไม่ได้เลย ทั้งมืดและหนาวจับใจ กับการรอคอยแสงแรก แต่ทุกคนก็ไม่ท้อ นั่งเฝ้ากันไปท่ามกลางความหนาวเย็น ราว ๆ 06.20 นาที เราเริ่มเห็นเส้นขอบฟ้าสีแดงอมส้มกันก่อน แต่พระอาทิตย์ยังไม่เคลื่อนตัวขึ้นมา จากนั้นไม่เกิน 20 นาที พวกเราก็เริ่มเห็นดอยหัวเสือชัดเจนขึ้น พร้อมดวงตะวันที่รอคอย และเสียงกดชัตเตอร์ดังรัว ๆ อยู่บนหัวเรา เพราะเราเตี้ยและเพื่อนมันสูง ก็เลยเอากล้องมาเทริน์เล่นบนหัวซะงั้น (^_^) จากขอบถนนที่เรายืนเฝ้าดวงตะวันมาพักใหญ่ ก็ขยับตัวออกมาข้างนอก เพื่อให้คนอื่นได้เข้าไปถ่ายภาพสวย ๆ กันบ้าง เพื่อนเราหลายคนไปหาของกินกันแล้ว แต่เรายังไม่ไปไหน ยังเฝ้าเก็บภาพแสงและเงาของคนอื่นไปเรื่อย ๆ พลางคิดในใจว่า พวกเค้าเหล่านี้ ช่างเป็นพร็อบถ่ายภาพที่สวยงามจริง ๆ (ขอบคุณนะ) ณ กิ่วแม่ปาน ยังไม่ใช่จุดสูงสุดของดอยอินทนนท์ ถนนข้างหน้าเป็นเส้นทางขึ้นไปสู่ยอดดอย เราสังเกตว่าบางคนอยู่ที่นี่ไม่นาน พอเริ่มมีแสงสว่าง ก็เคลื่อนตัวไปยังจุดสูงสุดอีกที คาดว่าผู้คนคงล้นหลามไม่น้อย เพราะด้านบนก็มีจุดเที่ยวสวย ๆ อยู่ด้วย แถมมีป่าให้เดินอีกเล็กน้อย แต่พวกเรามีนัดเดินป่าใหญ่กันที่นี่ จึงไม่ได้รีบเร่งไปที่อื่น ศาลาร้านอาหารแห่งนี้ อยู่ตรงกันข้ามกับที่เรายืนเฝ้าดวงตะวัน ดังนั้นจึงเป็นแหล่งรองท้องของนักท่องเที่ยว รวมถึงพวกเราด้วย จำได้ว่าข้าวต้มอร่อยม๊าก..มาก เพราะอากาศหนาว -1 องศา พอได้ข้าวต้มร้อน ๆ เข้าไปเท่านั้นแหละ ทำให้เราไม่คิดถึงข้าวเหนียวที่กินมาแต่เล็กแต่น้อยอีกเลย เพราะรู้สึกว่าร่างกายอบอุ่นขึ้นมาอย่างมาก บริการฟรี “กองไฟคลายหนาว” บอกได้เลยว่าประทับใจมาก ไม่รู้ว่าเป็นเจ้าหน้าที่หรือร้านค้า ที่ก่อไฟกองนี้ขึ้นมา บอกได้เลยว่ามันขายดีมากจริง ๆ เพราะทุกคนจะต้องมายืนอ้อมไปอ้อมมากันพักหนึ่ง แล้วก็จากไปกินข้าว แล้วก็กลับมาใหม่ วนกันอยู่อย่างนี้ไปเรื่อย ๆ รวมถึงทีมของพวกเราด้วย พี่คนขับรถสี่ล้อที่เราเหมามา ส่งสัญญาณว่าได้เวลาเดินป่าแล้ว ประจวบเหมาะกับที่พวกเราอิ่มท้องกันพอดี ต้องบอกก่อนว่า คนขับรถเช่าของพื้นที่ คือไกด์ที่สามารถพานักท่องเที่ยวเดินป่าได้ด้วย หมายความว่าได้รับการรับรองจากอุทยานมาแล้วอย่างถูกต้อง ดังนั้นพวกเราไม่ต้องห่วงว่าจะหลงป่าหรือมีอันตรายใด ๆ เพราะพี่เค้ามีประสบการณ์ด้านนี้กว่า 10 ปีมาแล้ว … พวกเราวิ่งไปถ่ายภาพอีก 1 แชะ เพื่อเป็นการบอกลาแสงแรงอีกครั้ง เราถามเพื่อนว่า อีกสัก 5 ปีมากันใหม่เนาะ เพื่อนบอกว่าไม่ติด!! (เราทำหน้างง) ... ไม่ติดลบ 1 องศา ไม่มาเด็ดขาด เพราะหนาวสะใจดีเหลือเกิน ที่บ้านไม่มี (ฮา..) ณ ที่แห่งนี้อยู่เหนือระดับน้ำทะเลถึง 2,565 เมตร คือยอดเขาที่สูงที่สุดในประเทศไทย ตั้งอยู่ในเขต อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ พระเจ้าอินทวิชยานนท์ เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ ท่านรักและห่วงใยผืนป่าแห่งนี้อย่างมาก หากเพื่อน ๆ มีโอกาส เราอยากชวนมาเที่ยว “ดอยอินทนนท์ จุดชมวิวกิ่วแม่ปาน” นะคะ อยากบอกว่า แสงแรงบนยอดดอยสวยงามมากจริง เที่ยวเชียงใหม่ กันต่อเลย (คลิก) : - มหกรรมกางเต็นท์แห่งปี สีสันแห่งดอยอินทนนท์ - พาเที่ยว Unseen เชียงใหม่ วัดศรีสุพรรณ “อุโบสถเงิน หลังแรกของโลก” - ที่เที่ยวปีใหม่: สร้างบุญ หนุนนำชีวิตที่ วัดเด่นสะหลีศรีเมืองแกน เชียงใหม่ - ที่เที่ยวปีใหม่: พิกัดเด็ดที่ไม่ควรพลาด “อุทยานหลวงราชพฤกษ์” @เชียงใหม่