สวัสดีครับ ผม "เอ็มห้าร้อย" หลังจากบทความที่แล้ว ผมได้ไปกางเต็นท์เป็นครั้งแรก ที่ "อ่างเก็บน้ำวังบอน" บรรยากาศที่นั่นดีมาก ใครที่อยากรู้ว่าเป็นยังไง? สามารถไปดูได้ที่ กางเต็นท์ครั้งแรกที่ "อ่างเก็บน้ำวังบอน" และ วันนี้ ผมจะพาทุกคนไปกางเต็นท์ที่ "อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่" เราไปกันเลย >>> รูปนี้ ถ่ายโดย เจ้าของบทความ หลังจากที่เราเก็บเต็นท์ เราก็นั่งรถไปยังอุทยาน ตอนนั้น เราไปช่วงปลายหนาวแล้ว คิดว่าคนน่าจะน้อย แต่เมื่อมาถึง ผมนี่อึ้งไปเลย คนมาจากไหนเนี่ย!!! หาที่กางเต็นท์แทบไม่มี แต่เราไม่ยอมแพ้ ซึ่งตอนนั้นเป็นเวลา ประมาณ 9 โมงเช้า ผมก็เดินหาที่กางเต็นท์ไปเรื่อยๆ ที่คิดไว้คือ อยากได้ที่กางเต็นท์ ที่ติดกับลำธาร เพื่อให้เห็นวิวตอนเช้า และแล้ว ฟ้าก็ดลบันดาล มีที่โล่งอยู่ติดลำธารเลย แต่!!! มันก็อยู่ด้านหน้าศาลพระภูมิด้วยสิ ท่านจงใจให้มาหรือเปล่า? ด้วยความที่กลัว ไม่ใช่กลัวผีนะ แต่กลัวไม่มีที่กางเต็นท์ ผมจึงไม่รอช้า รีบกางเต็นท์ตรงนั้นเลย เพราะวันนี้ มีอะไรให้ผมทำเยอะแยะ เมื่อกางเต็นท์เสร็จ ผมก็ไปอาบน้ำอาบท่า ที่นี่น้ำเย็นมาก นึกว่าเอาน้ำแข็งมาใส่ให้อาบ แต่สดชื่นดี ทีนี้ผมก็พร้อมเดินทางเพื่อไปเที่ยวสถานที่ต่างๆ ในอุทยานแล้ว บอกก่อนนะ ว่าทริปนี้ ผมไม่ได้มาคนเดียว ผมมากับพี่ที่ทำงานอีก 2 คน ผมก็เลยขอมาด้วย พูดเหมือนตัวเองเป็นเจ้าของทริป แต่มาเป็นตากล้องเฉยๆ ฮ่าๆ ก่อนอื่น เราไปหาอะไรกินกันก่อนดีกว่า เพราะท้องเริ่มร้องแล้วสิ ผมจำไม่ได้แล้วว่าเราไปกินที่ไหน แต่ที่นั่นจะคล้ายๆ โรงอาหารบนอุทยาน ผมกินอิ่มแล้ว เราไปเที่ยวกันเลย >>> รูปนี้ ถ่ายโดย เจ้าของบทความ ที่แรกที่ผมไป คือ "อ่างเก็บน้ำสายศรเขาใหญ่" ซึ่งตรงนี้ เป็นมุมมหาชนเลยล่ะ ใครที่มาเขาใหญ่ต้องมา เดี๋ยวคนอื่น จะหาว่าเรามาไม่ถึง ผมเคยมารอบนึงแล้ว แต่มากับเพื่อน วันนี้ผมก็เลยอาสาเป็นตากล้องให้พี่ที่ทำงาน ถือว่ามาถ่ายรูป portrait พัฒนาฝีมือแล้วกัน เพราะส่วนตัวผม เป็นคนชอบถ่ายรูป แต่ไม่มีนางแบบ ทำให้ส่วนใหญ่ ผมก็ถ่ายวิว, ถ่ายหมา, ถ่ายแมว ตรงนี้ เป็นพื้นที่โล่งและมีอ่างเก็บน้ำบนเขาด้วย รูปนี้ ถ่ายโดย เจ้าของบทความ ตอนนี้เราก็ลงจากเขา เพื่อไปซื้อของมาทำอาหารในตอนเย็น เพราะกลัวว่า ถ้าถึงตอนเย็นแล้ว จะเดินทางลำบาก สถานที่ที่เราไปซื้อก็ไม่ใช่ที่ไหน Tesco Lotus Express นี่แหละสะดวกสุด สิ่งที่ได้มาก็มี หมูสามชั้น, น่องไก่, กระหล่ำปลีและอีกหลายอย่าง พอพูดถึงของกิน อย่ารีบหิวกันนะ!!! เมื่อซื้อของเสร็จ เราไปเที่ยวกันต่อ โดยสถานที่ต่อไป คือ "ผาเดียวดาย" ซึ่งห่างจากที่แรกพอสมควร และระหว่างทางเข้า เป็นทางแคบ และขึ้นเขาอีกต่างหาก ข้างทางมีแต่ต้นไม้สูง ตรงนี้จะเป็นหน้าผาไม่กว้างเท่าไหร่ แต่สูงมาก ผมไปยืนตรงขอบหน้าผากก็รู้สึกเสียวๆ หน่อย ผมถ่ายรูปเล่นไปเรื่อยๆ ก็ถึงเวลาตอนเย็นแล้ว เรากลับเต็นท์ ไปทำอาหารกันดีกว่า รูปนี้ ถ่ายโดย เจ้าของบทความ ผมเป็นคนนึงที่ทำอาหารไม่เป็น ทำเป็นก็ไข่ดาวและไข่เจียว วันนี้เหมือนจะต้องทำเอง แต่ก็สนุกดีนะ ทำผิดๆ ถูกๆ ได้กินฝีมือตัวเองแล้วชื่นใจ ซึ่งวันนี้เราก็จะทำสุกี้กิน ก็คล้ายกับกินชาบู แบบนั้นเลย ตกกลางคืน แสงดวงอาทิตย์หมดไป เรากินอาหารใต้แสงจากหลอดไฟเล็กๆ อากาศเริ่มหนาว วันนี้ฟ้าเปิด เห็นดาวเยอะแยะเลย ผมอิ่มแล้ว ก็ไปล้างจาน ในระหว่างนั้น ผมก็ชวนคนที่ล้างจานข้างๆ ผมคุยด้วย ทั้งที่ไม่รู้จักกันมาก่อน มันแปลกดี ผมก็ถามว่า "มากางเต็นท์บ่อยมั้ยครับ?" ประมาณนี้ หลังจากนั้น ผมก็ชวนคุยยาว ผมว่าดีนะ เหมือนเราได้รู้จักคนเพิ่มอีกหนึ่งคน ดึกแล้ว ผมก็รีบเข้านอน ฝันดีครับ!!! รูปนี้ ถ่ายโดย เจ้าของบทความ สวัสดีตอนเช้าครับทุกคน เมื่อคืนหนาวมาก (ก.ไก่ ล้านตัว) แถมเสื้อกันหนาวก็ไม่ได้เตรียมมา ผมออกมาจากเต็นท์ เห็นหมอก, แสงแดดอ่อนๆ พร้อมควันออกปาก ผมชงกาแฟ แล้วไปนั่งแช่น้ำที่ลำธาร บรรยากาศตอนนั้น คือ ผมมีความสุขสุดๆ เหมือนได้หนีทุกอย่างจากเมืองกรุง เพื่อมาสัมผัสธรรมชาติจริงๆ มีผู้คนออกมารับอากาศหนาว ถ่ายรูปเล่น ซึ่งส่วนใหญ่จะมากันเป็นคู่และมาเป็นครอบครัว ดูแล้วอบอุ่น แต่ถ้าจะมาคนเดียว ก็มาได้นะ มาแบบคนโสด บอกก่อนนะ เมื่อคืนผมไม่ได้อาบน้ำ ลองคิดดูว่า เมื่อวานตอนเช้าน้ำยังเย็นเหมือนแช่น้ำแข็ง ตอนกลางคืนสงสัยผมกลายเป็นรูปปั้นแน่เลย อันนี้ผมพูดหยอกๆ พอสายสักนิด ผมก็ทำอาหารกิน แล้วเริ่มเก็บเต็นท์ เพื่อจะไปเที่ยวต่ออีกที่นึงก่อนกลับ รูปนี้ ถ่ายโดย เจ้าของบทความ ตอนนี้ผมพร้อมที่จะเดินทางไปยังสถานที่สุดท้าย ที่นั่น คือ "น้ำตกเหวสุวัต" โดยสามารถไปได้ 2 ทาง คือ ทางเข้าด้านหน้าน้ำตก หรือ อยากเดินป่าเพื่อไปน้ำตก โถ่ว!!! มาถึงเขาใหญ่ทั้งที ต้องเดินป่าสิ ต้องสัมผัสธรรมชาติให้ถึงที่สุด เราเริ่มเดิน ตั้งแต่ประมาณ 10 โมง แล้วถึงหน้าน้ำตก ประมาณ บ่าย 2 มั้งนะ ถ้าจำไม่ผิด ถามความรู้สึกว่าเหนื่อยมั้ย ก็เหนื่อยนะ แต่คุ้ม!!! ในระหว่างทางผมเจออะไรมากมาย แวะถ่ายรูปไปเรื่อย ถ้าให้ผมบรรยาย ผมคิดว่าบทความจะยาวเกินไป คนอ่านจะเบื่อเอาได้ ดูจากรูปเลยแล้วกัน ฮ่าๆ รูปนี้ ถ่ายโดย เจ้าของบทความ สุดท้ายนี้ ผมลองสรุป ในการเดินทางมากางเต็นท์ครั้งนี้ ทั้งที่ "อ่างเก็บน้ำวังบอน" และ "อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่" ก่อนที่ผมจะมาก็สองจิตสองใจ นอนอยู่ห้องตากแอร์ สบายๆ ไม่เอา มาลำบากเพื่ออะไร? แต่เมื่อผมได้มา ความคิดมันกลับคนละขั้วเลย ถ้าไม่มา ผมจะเสียใจมาก ผมได้ออกมาเจอธรรมชาติ ได้มาเจอความอบอุ่นระหว่างผู้คน หลุดออกมาจากความเบื่อหน่าย เหมือนคำพูดที่คนอื่นพูดว่า "ชีวิตเราต้องออกมาจากจุด Safe Zone บ้าง" ตอนนี้ผมเข้าใจแล้ว ผมมีความสุขและมีพลังที่จะกลับไปสู้ต่อแล้วครับ << ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านและติดตามผมนะครับ >>