สวัสดีค่ะ อากาศกำลังจะหนาวเราขอพาทุกคนไปเที่ยวรับลมหนาวแดนอีสาน สัมผัสอากาศเย็นบนดินแดนมหัศจรรย์และชมจุดท่องเที่ยวสุดอันซีน หินสามวาฬ ณ ป่าภูสิงห์ บึงกาฬ ที่บอกได้เลยว่าคุณจะไม่ได้เห็นสิ่งต่างๆเหล่านี้ได้จากที่ไหนอีกแน่นอน เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เราออกเดินทางกันเลยค่ะหินสามวาฬ ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่อนุรักษ์เขตป่าสงวนแห่งชาติป่าดงดิบกะลา ป่าภูสิงห์ และป่าดงสีชมพูในพื้นที่ของป่าภูสิงห์ ต.โคกก่อง อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ มีลักษณะเป็นหน้าผาหินขนาดใหญ่ 3 ก้อน เรียงตัวอยู่กลางป่าภูสิงห์ ซึ่งหากมองจากระยะไกลแล้วจะเห็นเป็นรูปร่างคล้ายปลาวาฬสามตัวว่ายน้ำมาด้วยกันเป็นครอบครัวท่ามกลางแมกไม้เขียวขจี เป็นศิลปะที่ธรรมชาติสร้างสรรค์ได้อย่างสวยงาม ให้เป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในภาคอีสาน โดยหินทั้งสามก้อนนี้เป็นหินทรายที่นักธรณีวิทยาได้ประมาณการว่าน่าจะมีอายุมากถึง 75 ล้านปี ซึ่งหากใครได้มาเยือนบึงกาฬแล้วไม่ควรพลาดจุดท่องเที่ยวสุดอันซีนนี้เป็นอย่างยิ่ง การเดินทางเข้าชมหินสามวาฬนั้นก็ไม่ยากเลย เมื่อเรามาถึงก็ติดต่อเจ้าหน้าที่จ่ายค่าเข้าคนละ 20 บาท และเหมารถท้องถิ่นบริการนำเที่ยวคันละ 500 บาทนั่งได้ไม่เกิน 10 คน ถ้าไปกันน้อยคนก็สามารถแชร์กรุ๊ปกันได้ค่ะหรือต้องการเหมาเป็นการส่วนตัวก็ทำได้เช่นกัน และถ้าต้องการไกด์ช่วยแนะนำถ่ายรูปให้ก็มีน้องๆนักเรียนในพื้นที่คอยให้บริการเราก็ให้ค่าขนมน้องเป็นการตอบแทนได้ แต่หากเป็นสายคอนเทนต์อยากได้รูปและวีดีโอสวยๆ ก็จ้างโดรนถ่ายเก็บเป็นที่ระลึกได้อีกด้วยค่ะ เมื่อไปถึง เดินไปตามอุโมงค์ทางเข้าระยะทางประมาณ 200 เมตร ปลายทางเป็นหลังของวาฬพ่อที่มีทางกว้างพอให้เดินเล่นชมวิวได้อย่างสบายๆ แต่จะมีแนวเส้นเหลืองเป็นขอบไม่ให้เราเดินออกนอกเส้นเด็ดขาด เพราะอาจพลาดพลั้งเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ ซึ่งหน้าผาหินวาฬพ่อนี้มีความสูงมาก ทัศนียภาพเบื้องหน้าเป็นผืนป่าสีเขียวขจีอุดมสมบูรณ์ของป่าภูวัว ห้วยบังบาตร แก่งสะดอก หาดทรายแม่น้ำโขงและภูเขาเมืองปากกระดิ่ง ประเทศลาว ซึ่งหากมองดูให้ดีๆอาจจะเห็นแม่น้ำโขงอยู่ไกลๆ ข้างบนลมเย็นและค่อนข้างแรงซึ่งน้องไกด์เล่าให้ฟังว่าในฤดูหนาวบางครั้งลมแรงจนต้องคลานบนหลังวาฬกันเลยทีเดียว จากวาฬพ่อเราจะเดินย้อนกลับมาแล้วเลี้ยวไปชมวิวบนหลังของวาฬแม่กันบ้าง ซึ่งความกว้างของทางเดินบนหลังอาจไม่เท่าวาฬพ่อ แต่หน้าจะยื่นล้ำออกมามากกว่า ทำให้เวลายืนอยู่บนหลังวาฬแม่ก็จะเห็นหัววาฬพ่อ ซึ่งมีลักษณะเหมือนปากวาฬมากๆ มีร่องรอยของน้ำที่เคยไหลลงจากหน้าผาเกิดเป็นลวดลายคล้ายวาฬอ้าปาก ช่างมหัศจรรย์สวยงามแปลกตามากๆ ส่วนวาฬลูกนั้นมีขนาดเล็กไม่สามารถลงไปเดินได้แต่มองเห็นหลังวาฬลูกได้ชัดเจนเมื่อยืนอยู่บนหลังวาฬแม่ เมื่อขึ้นมาอยู่บนหน้าผาหินสามวาฬ เราจะได้สัมผัสกับอากาศที่สดชื่นเย็นสบาย ถ้ามาถึงเช้าๆก็จะได้ชมแสงแรกของวันยามพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงามที่สุดในบึงกาฬ บางครั้งอาจมีทะเลหมอกให้ได้ชื่นชมกันอีกด้วย ซึ่งนอกจากหินสามวาฬที่เป็นจุดท่องเที่ยวไฮไลท์สุดอันซีนแล้ว ณ ป่าภูสิงห์แห่งนี้ยังมีจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกหลายจุด สามารถให้รถนำเที่ยวและน้องไกด์พาเที่ยวชมได้ตลอดเส้นทางเลยค่ะ ไว้ครั้งหน้าเราจะมาเล่าให้ฟังอีกนะคะ ขอให้ทุกท่านมีความสุขกับทุกการเดินทางค่ะพิกัด : https://maps.app.goo.gl/2EVUPd7XdPutA2z49 เวลาเปิดให้บริการ : เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 05.00 - 17.00 น. ค่าบริการ : ค่าเข้าชม คนไทย 20 บาท, ต่างชาติ 100 บาท, ค่าบริการเหมารถคันละ 500 บาท (นั่งได้ไม่เกิน 10 คน) รูปหน้าปกและภาพประกอบทั้งหมดถ่ายทำโดย Noonee เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !