หลาย ๆ ครั้งและหลาย ๆ โอกาสไม่ว่าจะเป็นช่วงปลายปีไปจนถึงต้นปีที่เราได้พาตัวเองไปดื่มดำกับบรรยากาศของทะเลหมอก อากาศที่หนาวเย็น ๆ ในบริเวณภาคเหนือของประเทศไทยและผมก็เป็นอีกคนที่หลงรักการเดินทางเพราะเชื่อว่า “การเดินทางคือการเรียนรู้” และเปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ และได้รู้กับผู้คนใหม่ ๆ อีกด้วย วันนี้ผมจะพาคุณไปยังสถานที่แห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ ผมเชื่อว่าหลาย ๆ คนคงเคยได้ยินชื่อเสียงอันโด่งดังของสถานที่แห่งนี้กันมากมายอยู่แล้ว นั้นก็คือ สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ ตั้งอยู่ที่อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถในรัชกาลที่ 9 ให้ใช้ชื่อสวนพฤกษศาสตร์แห่งนี้ว่า “สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์” เป็นสถานที่อนุรักษ์และรวบรวมพรรณไม้ชนิดพันธุ์ต่าง ๆ ไว้เยอะแยะมากมาย โดยจะมีการแบ่งเป็นโซนไว้อย่างดี ๆ บอกได้เลยว่าทั้งสวยงามและได้สัมผัสกับธรรมชาติที่แสนจะชื่นตา ชื่นใจกันเลยที่เดียว เมื่อเราเดินทางมาถึงสวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์แล้วเราสามารถใช้รถส่วนตัวหรือจะใช้รถที่ทางสวนสวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์มีให้บริการก็ได้ สำหรับสถานที่ภายในสวนพฤษศาสตร์ฯ ก็มีอยู่หลาย ๆ มุมด้วยกันไม่ว่าจะเป็นจุดชมวิว ทางเดินลอยฟ้า และเรือนกระจกที่สวยหรู ที่เก็บพันธุ์พืชหลากหลาย ๆ ชนิดไว้ ในบล๊อกนี้ผมจะพาทุกคนไปเที่ยวที่เรือนกระจก สถานที่ที่สุดแสนจะตื่นตา ตื่นใจ กับการรวบรวมพันธุ์ไม้หลากหลาย ๆ วงศ์ หลายตระกูล แต่สิ่งที่ผมเชื่อว่าคนที่เยือนที่แห่งนี้อยากไปมากที่สุด คงหนีไม่พ้นเรือนของพวกกระบองเพชร ที่มีหลากหลายรูปแบบและที่สำคัญ มันใหญ่มาก จุดที่ผมจะพาไปดูในวันนี้เรือนกระจกของพื้นทนแล้งนั้นคือพวกกระบองเพชรนั้นเอง กระบองเพรชอันใหญ่โต และสวยงามถูกรวบรวมไว้ ณ ที่แห่งนี้ พร้อมกับแสงที่สาดผ่าน ๆ เรือนกระจกเข้ามา บอกเลยคุณจะถ่ายภาพมุมไหนก็สวย ๆ และดูชินๆ ไปหมด จริง ๆ ผมอยากจะบรรยายลักษณะของกระบองเพชรแต่ละสายพันธ์ุ แต่ความรู้ ๆ ที่มีคงไม่พอ ฮ่า ๆ เลยขอแค่พาไปดูภาพที่ผมได้เก็บไว้ ซึ่งบางจุด บางมุม ผมก็ลืมถ่ายไว้เหมือนกันเพราะมั่วแต่ ๆ หลงใหลในความสวย และยอมรับเลยว่าผมไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้ กระบองเพชรมันโตและสวยงามมาก ๆ มันจะมีทางเชื่อมไปยังเรือนกระจกที่มีจุดแสดงกระบองเพชรไปเรื่อย ๆ สามารถเดินทะลุกันได้ ถ้าผมจำไม่ผิดสำหรับกระบองเพชรมีประมาณ 3-4 เรือน ผมบอกได้เลยว่าคุณจะเพลินกับสิ่งที่คุณได้เห็นได้สัมผัสแน่ ๆ จริง ๆ แล้วบริเวณเรือนกระจกนี้ยังมีจุดแสดงมุมสวนดอกไม้ พวกกุหลาบสีแดง สีชมพู สีขาว อีกด้วยแต่ผมไม่ได้เก็บบรรยากาศมาฝากเพราะแบตกล้องมันหมดมีแค่รูปเดียวที่ผมได้ถ่ายไว้ ก็คือภาพนี้ หลังจากนั้นกล้องก็ได้ลาผมไปเลย แง่ ๆ เสียใจ ☹️ สำหรับสวนพฤษศาสตร์ฯแห่งนี้ยังมีหลาย ๆ มุมให้คุณได้สัมผัส ไม่ว่าจะทางเดินลอยฟ้าที่ขึ้นไปเลยคุณจะเห็นวิวธรรมชาติของที่แห่งนี้. บริเวณซุ้มขายของที่บอกได้เลยว่าของกินเยอะมาก ๆ หากคุณผมอยากแนะนำให้คุณไปสัมผัสมันสักครั้ง โดนเฉพาะหากคุณเป็นสายกระบองเพชรผมบอกได้เลยว่าคุณต้องไป และต้องไปจริง ๆ ข้อมูลเพิ่มเติม (เผื่อจะเป็นประโยชน์) เปิดให้เข้าชมทุกวันตั้งแต่เวลา 8.30-17.00 น. โดยเสียค่าธรรมเนียม ผู้ใหญ่ 40 บาท นักเรียน นักศึกษา คนละ 20 บาท โทรศัพท์ 053-841-000