5 เส้นทางตามรอยพระบาท ดินแดนถิ่นอีสาน

ตลอด 70 ปีที่ผ่านมา ไม่มีแผ่นดินไทยที่ไหนที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวไม่เคยเสด็จไป ทั่วทุกพื้นที่ไม่ว่าจะเป็นเหนือ ใต้ ออก ตก พระองค์เสด็จทรงงานเพื่อประชาชนอย่างหนัก เพื่อให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น วันนี้เรามี 5 เส้นทางตามรอยพระบาท ในดินแดนถิ่นอีสาน มาให้คนไทยได้ออกไปสัมผัสและเรียนรู้ ตามรอยพ่อ
1.พิพิธภัณฑ์สิริธร จ.กาฬสินธุ์
หลังจากได้รับพระราชทานพระนามจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ภูกุ้มข้าว จึงมีชื่ออย่างเป็นทางการว่า พิพิธภัณฑ์สิรินธร พิพิธภัณฑ์ที่มีชีวิตชีวาด้วยการให้ความรู้ที่สนุกสนานเกี่ยวกับโลกดึกดำบรรพ์ การกำเนิดของสิ่งมีชีวิต และการสูญสิ้นเผ่าพันธุ์ไดโนเสาร์
ใครที่ได้มาเยี่ยมเยือนพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ จะได้เห็นการทำงานของกลุ่มเจ้าหน้าที่กรมทรัพยากรธรณีทุกคนอย่างใกล้ชิด ไม่ว่าจะเป็นนักธรณีวิทยาที่กำลังขุดแซะซากโครงกระดูกไดโนเสาร์ของจริงขนาดใหญ่เกือบเต็มตัว ส่งต่อไปสู่ผู้เชี่ยวชาญในห้องปฏิบัติการ ที่กำลังวิจัยหาเผ่าพันธุ์ที่แท้จริงของโครงกระดูกเหล่านั้น
Yuttapol Phetkong / Shutterstock.com
นอกจากความรู้และสาระประโยชน์ด้านธรณีวิทยา ทุกคนยังได้รับความสนุกสนานจากนิทรรศการถาวรที่นำเสนอได้อย่างมีลูกเล่น มีอินโฟกราฟิกสวยงามเข้าใจง่าย มีรูปภาพประกอบที่ดูทันสมัย ไม่ว่าจะเป็นทฤษฎีการเกิดระเบิดครั้งใหญ่ (Big Bang Theory) หรือการพุ่งชนของอุกกาบาต รับรองได้ว่าทั้งเด็กและผู้ใหญ่ จะจับมือกันร่วมศึกษาเรียนรู้เคียงข้างกันไปได้ตลอดทั้งวัน
อ่านเพิ่มเติม-ท่องโลกดึกดำบรรพ์ พิพิธภัณฑ์ ไดโนเสาร์ ภูกุ้มข้าว จังหวัดกาฬสินธุ์
2.ศูนย์วิจัยพืชสวนเลย (ภูเรือ) จ.เลย
ด้วยความที่จังหวัดเลยมีสภาพภูมิประเทศเป็นภูเขาสูงมีอากาศเย็นสบายตลอดปี นอกจากจะเหมาะแก่การท่องเที่ยวตากอากาศ ชมธรรมชาติบริสุทธิ์แล้ว ยังเหมาะสำหรับการทำการเกษตรบนพื้นที่สูงอีกเช่นกัน
ภายหลังกรมวิชาการเกษตรได้มอบหมายให้คุณวิฑูรย์ รัตนา หัวหน้าสถานีทดลองเกษตรที่สูงแม่จอนหลวง บุกเบิกพื้นที่ป่าสงวนเสื่อมโทรม พร้อมได้จัดตั้งสถานีทดลองเกษตรที่สูงภูเรือขึ้น เพื่อดำเนินการปลูกเมล็ดพันธุ์และทดลองพันธุ์พืชต่างๆ ที่เหมาะสมกับการทำเกษตรบนพื้นที่สูง เช่น ท้อ พลับ เกาลัดจีน สาลี่ สตรอว์เบอร์รี และแมคคาเดเมีย เป็นต้น ต่อมาในปี พ.ศ. 2552 จึงเปลี่ยนชื่อจากสถานีทดลองเกษตรที่สูงภูเรือ เป็นศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรที่สูงเลย และจากนั้นก็เปลี่ยนมาเป็น ศูนย์วิจัยพืชสวนเลย จนถึงปัจจุบัน
ศูนย์วิจัยพืชสวนเลย เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดเลย ซึ่งในฤดูหนาวบางปีที่มีอากาศเย็นจัดก็จะเกิดปรากฏการณ์น้ำค้างแข็งหรือแม่คะนิ้ง ในช่วงเดือนธันวาคม–มกราคม มีเทศกาลไม้ดอกเมืองหนาวและเทศกาลกินผักเมืองหนาว แม้ในช่วงเดือนเมษายน-สิงหาคม ก็ยังมีดอกดาหลา หน้าวัว และปทุมมาให้ชม หรือจะชิมไม้ผลเมืองหนาว เช่น พลับ สาลี่ เกาลัดจีนหน่อไม้ไผ่หวาน ก็มากันได้ในช่วงนี้ เรียกว่าที่เดียว เที่ยวได้ตลอดปีก็ว่าได้
อ่านเพิ่มเติม-สูดอากาศดี สถานีทดลองเกษตรที่สูงภูเรือ พักปอด กอดดอกไม้เมืองหนาว
3.หมู่บ้านทอผ้าไหม บ้านท่าสว่าง จ.สุรินทร์
ผู้ที่ชื่นชอบงานผ้าไหมไทยชั้นดี คงไม่มีใครไม่รู้จักผ้าไหมยกทองโบราณ ผ้าไหมไทยระดับเอคลาสที่มีวิธีการทออันเป็นเอกลักษณ์ ภูมิปัญญาที่ได้รับการสืบทอดต่อกันมานับแต่สมัยโบราณ วัตถุดิบที่เลือกสรรมาล้วนเลอค่า ผ่านการทอที่ประณีต เลื่องลือกันว่าแต่ละวันช่างผู้เชี่ยวชาญก็ยังคงทอผ้าได้แค่ความยาว 4-5 เซนติเมตรต่อผืนเท่านั้น ใครที่อยากชื่นชมงานหัตถกรรมไทยอันทรงคุณค่า ต้องแวะมาเยี่ยมเยือนที่บ้านท่าสว่าง
บ้านท่าสว่าง เป็นหมู่บ้านเก่าแก่ในจังหวัดสุรินทร์ ชาวบ้านมีอาชีพหลักคือการเกษตร แต่อาชีพรองอย่างการทอผ้าไหม กลับทำให้หมู่บ้านมีชื่อเสียงโด่งดังระดับนานาชาติ เพราะช่างทอผ้าของที่นี่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นผู้ทอผ้าไหมยกทองโบราณ เพื่อมอบให้ผู้นำเอเปค ทุกวันนี้นักท่องเที่ยวจำนวนไม่น้อยจึงมุ่งหน้าไปเยี่ยมชมการทอผ้าไหมด้วยกี่โบราณ วิธีการถักทอลวดลายไทยอันแสนงดงาม และเข้าชมกรรมวิธีการย้อมผ้าด้วยสีธรรมชาติ
Pentium5 / Shutterstock.com
นอกจากจะได้เข้าชมวิถีชีวิตชาวบ้านและงานถักทออันเป็นเอกลักษณ์ของบ้านท่าสว่างแล้ว อย่าลืมปิดท้ายด้วยการอุดหนุนผลิตภัณฑ์ฝีมือชาวบ้านสไตล์ OTOP ที่ตลาดชุมชน ซึ่งนำเสนอสารพันงานทอผ้าไหม ตัดเย็บเป็นเสื้อผ้าและข้าวของเครื่องใช้ที่ทำจากผ้าไหมคุณภาพดี
4.ศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพาน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.สกลนคร
จุดหมายของนักท่องเที่ยวที่มาเยือนสกลนคร ย่อมหลีกไม่พ้นการมาสูดไอดินกลิ่นธรรมชาติที่อุทยานแห่งชาติภูพาน แต่สำหรับแหล่งท่องเที่ยวอีกหนึ่งแห่งที่เหมาะแก่การเรียนรู้วิถีพอเพียงตามพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในเขตอำเภอเดียวกันนี้ นั่นก็คือศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพาน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ
ในปี พ.ศ. 2525 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำริให้จัดตั้งศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานขึ้นเพื่อเป็นสถานศึกษา ทดลอง และพัฒนาอาชีพด้านเกษตรกรรมและอุตสาหกรรมทางการเกษตรอย่างเต็มรูปแบบ เพื่อให้ชุมชนยืนได้ด้วยการพึ่งพาตนเอง ทั้งยังช่วยฟื้นฟูและพัฒนาป่าไม้ด้วยระบบชลประทาน เป็นต้น ที่ทำการของศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานฯ ตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2527 ประกอบไปด้วยพื้นที่สาธิตเพื่อพัฒนาเกษตรกรรมและพื้นที่พัฒนาป่าไม้ จนกลายมาเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่น่าสนใจของจังหวัดสกลนครไปแล้ว
การมาเยือนศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพาน สิ่งที่ได้กลับไปไม่ได้มีเพียงแค่ความรู้และความประทับใจเท่านั้น ผลผลิตทางการเกษตรและสินค้าแปรรูปคือของฝากขึ้นชื่อของที่นี่ อย่าลืมอุดหนุนช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้ชุมชนยั่งยืนต่อไป
5.โครงการชลประทาน อ่างเก็บน้ำบึงโขงหลง จ.บึงกาฬ
ขึ้นชื่อว่าบึงกาฬ แน่นอนว่าที่นี่ย่อมมีบึงน้ำที่กว้างใหญ่ไพศาล เป็นวิวทิวทัศน์ที่งดงามอยู่หลายบึงด้วยกัน ที่บึงโขงหลงนี้ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติของจังหวัดบึงกาฬที่ยิ่งใหญ่ไม่แพ้บึงน้ำแห่งไหนและมีน้ำตลอดปีไม่เคยแห้งแล้ง นำมาซึ่งความหลากหลายทางชีวภาพและมีระบบนิเวศที่ยิ่งใหญ่
ในปีพ.ศ. 2520 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำริกับอธิบดีกรมชลประทานและผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคายให้พิจารณาวางโครงการพัฒนาบึงโขงหลงเพื่อนำน้ำจากบึงโขงหลงไปพัฒนาการเกษตรได้อย่างเต็มที่ โครงการชลประทานอ่างเก็บน้ำบึงโขงหลงจึงได้สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2523 และแล้วเสร็จในปีเดียวกัน
ในวันนี้เกษตรกรสามารถทำการเกษตรได้หลากหลายและมีผลผลิตที่สูงขึ้น ยังมาซึ่งรายได้ที่มากขึ้นตามลำดับผลพลอยได้ในการท่องเที่ยวนั้น เป็นสิ่งที่ทำให้ชาวบ้านในท้องที่มีรายได้มากขึ้นเช่นกัน เพราะบึงโขงหลงเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจที่มีเสน่ห์ไม่เหมือนใคร และมีชื่อเล่นที่เรียกกันอย่างคุ้นหูว่าทะเลอีสาน
เส้นทางตามรอยพระบาทยังไม่หมดเพียงเท่านี้ แต่ยังมีถึง 70 เส้นทางด้วยกัน สามารถเข้าไปอ่านเพิ่มเติมได้ที่ http://70waysofking.tourismthailand.org/
ติดตาม travel.truelife.com อีกช่องทางที่
ทุกเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับการท่องเที่ยว อาหาร และที่พัก คลิกที่ http://travel.truelife.com