หากคุณต้องการเรียนรู้หรือสัมผัสคุณค่าความเป็นไทย แต่ก็รู้สึกเบื่อกับรูปแบบนิทรรศการแบบเดิม ๆ ล่ะก็... ต้องแวะมาเที่ยวชม “นิทรรศน์รัตนโกสินทร์” ย่านเกาะรัตนโกสินทร์เลยค่ะ เพราะที่นี่เป็นนิทรรศการความรู้ที่นำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับความเป็นไทยต่าง ๆ ด้วยเทคโนโลยีสุดไฮเทคและล้ำสมัยกว่าพิพิธภัณฑ์แห่งอื่น ๆ รับรองว่าเมื่อได้มาเที่ยวชมแล้วจะต้องกลับมาเที่ยวชมหลายครั้งแน่นอนค่ะ “นิทรรศน์รัตนโกสินทร์” ตั้งอยู่บนถนนราชดำเนินกลาง ใกล้ ๆ วัดราชนัดดารามและลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ เป็นนิทรรศการที่บอกเล่าเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ของความเป็นชาติไทยในช่วงสมัยรัตนโกสินทร์นี้เองค่ะ โดยนำเสนอผ่านสื่อเทคโนโลยีทันสมัยหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นสื่อผสม 4 มิติเสมือนจริง, สื่อมัลติทัช และสื่อมัลติมีเดียแอนิเมชัน ซึ่งแบ่งห้องจัดแสดงออกเป็น 9 ห้อง ในเส้นทางเข้าชม 2 เส้นทาง ใช้เวลาในการเข้าชมเส้นทางละประมาณ 2 ชั่วโมง โดยแต่ละห้องจัดแสดงจะมีการตั้งชื่อไว้อย่างคล้องจองกันดังนี้ค่ะเส้นทางที่ 1 เข้าชม 7 ห้องจัดแสดงแรก ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 45 นาทีห้องที่ 1 รัตนโกสินทร์เรืองโรจน์ ห้องที่ 5 สง่าศรีสถาปัตยกรรมห้องที่ 2 เกียรติยศแผ่นดินสยาม ห้องที่ 6 ดื่มด่ำย่านชุมชนห้องที่ 3 เรืองนามมหรสพศิลป์ ห้องที่ 7 เยี่ยมยลถิ่นกรุงห้องที่ 4 ลือระบิลพระราชพิธีเส้นทางที่ 2 เข้าชม 2 ห้องจัดแสดงสุดท้าย ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงห้องที่ 8 เรืองรุ่งวิถีไทย ห้องที่ 9 ดวงใจปวงประชา ถ้าจะให้ดี เราแนะนำว่าให้เข้าชมทั้ง 2 เส้นทาง ใช้เวลาทั้งหมด 4 ชั่วโมง จะคุ้มกว่าค่ะ เสียเงินทั้งทีนี่เนอะ ต้องเที่ยวชมให้คุ้มหน่อย และหากใครมีสัมภาระที่ต้องการฝากของไว้สามารถนำไปฝากที่ตู้ฝากของได้ฟรีค่ะ เพียงแค่นำบัตรประชาชนไปแลกกับกุญแจตรงเคาน์เตอร์ฝั่งตรงข้ามค่ะ หลังจากเสียค่าเข้าชมและฝากสัมภาระที่ตู้ฝากของแล้วก็ถึงเวลาเที่ยวชมเส้นทางเข้าชมกันค่ะ โดยเริ่มจากเส้นทางที่ 1 ก่อนแล้วตามด้วยเส้นทางที่ 2 ค่ะ ^^ เส้นทางที่ 1 เริ่มจากห้อง “ดื่มด่ำย่านชุมชน” ซึ่งจัดแสดงเกี่ยวกับงานหัตถศิลป์หายากที่เป็นภูมิปัญญาสืบทอดมาจากบรรพบุรุษและสะท้อนถึงเอกลักษณ์ของแต่ละชุมชนทั้ง 12 ชุมชนในย่านเกาะรัตนโกสินทร์ เช่น ทองคำเปลว - บ้านช่างทอง แยกคอกวัว, บาตรพระ - ชุมชนบ้านบาตร, ดินสอพอง - บ้านดินสอ ฯลฯ โดยห้องนี้จะมีความพิเศษอยู่ตรงที่มีแผนที่เป็นจุดเซนเซอร์บริเวณพื้น เมื่อเหยียบที่จุดไหนก็จะมีภาพกราฟิกแสดงขึ้นและชี้ไปที่จอแสดงของชุมชนนั้นค่ะ ถัดมาเป็นห้อง “รัตนโกสินทร์เรืองโรจน์” ซึ่งจัดแสดงด้วยรูปแบบวีดิทัศน์ 4 มิติที่ชัดเจนทั้งภาพ เสียง และสัมผัสได้อย่างสมจริง บรรยากาศในห้องจัดแสดงจะคล้ายกับโรงภาพยนตร์เลยค่ะ โดยห้องนี้จัดแสดงเรื่องราวตั้งแต่การสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์และการวางผังพระนครหรือลงเสาหลักเมืองในแบบฉบับผังเมืองตามจารีตประเพณีโบราณค่ะ ที่สำคัญห้ามถ่ายรูปและถ่ายวิดีโอในห้องนี้เด็ดขาดนะคะ ต้องเข้าไปสัมผัสเองเท่านั้นค่ะ ตามมาด้วยห้อง “เกียรติยศแผ่นดินสยาม” ซึ่งจัดแสดงโมเดลจำลองของพระบรมมหาราชวังทั้งหมดได้อย่างสมบูรณ์แบบที่ค่อนข้างละเอียดและมีความสมจริงมาก ๆ เลยค่ะ โดยจำลองทั้งพระราชวังชั้นนอก, พระราชวังชั้นกลาง และพระราชวังชั้นใน อีกทั้งยังสอดแทรกความรู้ที่แฝงความหมายอันยิ่งใหญ่เกี่ยวกับองค์ประกอบของสถาปัตยกรรมต่าง ๆ ของพระราชวังอีกด้วย เช่น ช่อฟ้า ใบระกา หางหงส์ หน้าบัน เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีพระแก้วมรกตในเครื่องทรงครบทั้ง 3 ฤดูให้ได้ชมกันค่ะ หลังจากชมโมเดลจำลองของพระบรมมหาราชวังกันแล้วก็ลัดเลาะประตูย่ำค่ำเข้ามาสู่เขตพระราชฐานชั้นในกันค่ะ ซึ่งเขตพระราชฐานชั้นในเป็นเขตต้องห้ามสำหรับผู้ชายและเป็นแหล่งอบรมกุลสตรีไทยที่เจ้านายและข้าราชการชั้นสูงมักนิยมส่งธิดาและบุตรีมาเล่าเรียนเขียนอ่าน รวมถึงอบรมความรู้ให้มีคุณสมบัติเป็นกุลสตรีที่งดงามที่เพียบพร้อมด้วยกิริยา มารยาท และความสามารถในการครองเรือนค่ะ ถัดมาที่ห้อง “เรืองนามมหรสพศิลป์” กันค่ะ เมื่อเข้าห้องนี้แล้วก็จะย้อนยุคเข้าไปชมบรรยากาศมหรสพสมโภชที่ถ่ายทอดเรื่องรามเกียรติ์ในเวลาเพียง 3 นาทีด้วยมุมมอง 360 องศา หลังจากชมวีดิทัศน์เสร็จก็เดินมาชมอีกห้อง เพื่อเรียนรู้เรื่องราวเกี่ยวกับมหรสพและศิลปะการแสดงต่าง ๆ ของไทย เช่น หนังใหญ่, โขน, หุ่นละครเล็ก และหุ่นกระบอกใหญ่ เป็นต้น พร้อมทั้งเรียนรู้ภาษาโขนที่แฝงความหมายและความละเอียดอ่อนในทุกกิริยาค่ะ จากนั้นมาต่อกันที่ห้อง “เยี่ยมยลถิ่นกรุง” ก็จัดแสดงเป็นวีดิทัศน์หนังสั้นในรูปแบบแอนิเมชันเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในย่านต่าง ๆ บนเกาะรัตนโกสินทร์ ที่แต่ละสถานที่จะมีบรรยากาศและเสน่ห์ในแบบฉบับของตัวเองค่ะ ซึ่งความพิเศษของห้องนี้อยู่ตรงที่ผู้เข้าชมได้มีส่วนร่วมเป็นหนึ่งในตัวละครของแอนิเมชันอีกด้วยค่ะ รับรองว่าเมื่อชมแอนิเมชันแล้วจะต้องเพลิดเพลินกับตัวละครที่เป็นใบหน้าของตัวเองอย่างแน่นอนค่ะ ต่อจากนั้นเข้าชมห้อง “ลือระบิลพระราชพิธี” ซึ่งจัดแสดงและบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับพระราชพิธีต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน แม้ว่าบางพระราชพิธีจะยกเลิกแล้วในปัจจุบัน เช่น พิธีโล้ชิงช้า นอกจากนี้ยังสอดแทรกเกร็ดความรู้ต่าง ๆ ที่อาจไม่เคยรู้มาก่อน เช่น พระราชพิธีมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ, การดูลักษณะช้างดีตามตำราคชลักษณ์ และพระราชพิธีเสด็จพระราชดำเนินโดยกระบวนพระยุหยาตราทางชลมารค เป็นต้น ในที่สุดก็มาถึงห้องสุดท้ายของเส้นทางแรก นั่นก็คือห้อง “สง่าศรีสถาปัตยกรรม” ค่ะ ซึ่งภายในห้องนี้จัดแสดงเกี่ยวกับสถาปัตยกรรมอันโดดเด่นสวยงามและหลากหลายของกรุงรัตนโกสินทร์ที่มีการเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา โดยมีการจำลองวัด วัง และสภาพบ้านเรือนในแต่ละยุคแต่ละสมัยค่ะ หลังจากชมเส้นทางแรกจนครบทุกห้องแล้วก็มาถึงเส้นทางที่ 2 กันบ้าง ซึ่งเส้นทางนี้มีเพียงแค่ 2 ห้องเท่านั้น แต่ก็สนุกเพลิดเพลินไม่แพ้กันเลยค่ะ ว่าแล้วเราก็มาเที่ยวชมกันต่อเลยดีกว่าค่ะ ^^ ห้องแรกของเส้นทางที่ 2 คือห้อง “เรืองรุ่งวิถีไทย” ซึ่งจัดแสดงโมเดลจำลองเรือนไทยที่สะท้อนถึงวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของคนไทยและวัฒนธรรมประเพณีในช่วงสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น ตั้งแต่เกิดจนกระทั่งเสียชีวิตค่ะ จากนั้นก็มาล่องเรือชมวิถีชีวิตของผู้คนริมแม่น้ำกันค่ะ ซึ่งเรือที่ใช้ล่องนั้นโยกไปมาได้เสมือนจริง โดยระหว่างที่ล่องเรือก็จะมีเพลงฉ่อยบรรยายวิถีชีวิตริมสองฝั่งแม่น้ำ พร้อมทั้งมีภาพเคลื่อนไหวสองมิติ ทำให้รู้สึกว่าได้เป็นส่วนหนึ่งของผู้คนในสมัยนั้นค่ะ ล่องเรือเสร็จแล้วก็มานั่งรถรางเพื่อชมวิถีชีวิตของผู้คนบนสองฝั่งของถนนเจริญกรุง ซึ่งเป็นถนนสายแรกของไทย ตามต่อด้วยการเที่ยวชมร้านค้าจำลองต่าง ๆ เช่น ธนาคารแห่งแรก, ไปรษณีย์, ห้างขายของฝรั่ง และร้านขายยาไทย รวมถึงยังมีการจำลองหลุมหลบภัยในอดีตที่ให้เรียนรู้ภาพเหตุการณ์เสมือนจริงอีกด้วยค่ะ จากนั้นก็เข้ามาสู่ยุค 80 หรือยุคโก๋หลังวังที่รับวัฒนธรรมของอเมริกันชนเข้ามา โดยจำลองร้านค้าต่าง ๆ เช่น ร้านกาแฟ, ร้านทำผม, ร้านตัดเสื้อ, ร้านหนังสือ จนมาสิ้นสุดด้วยการนั่งรถไฟฟ้า BTS ในยุคปัจจุบันค่ะ หลังจากชมห้องเรืองรุ่งวิถีไทยกันไปแล้วก็มาถึงห้องสุดท้ายของเส้นทางที่สอง นั่นก็คือห้อง “ดวงใจปวงประชา” ค่ะ ซึ่งห้องนี้จัดแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจที่สำคัญของพระมหากษัตริย์แห่งราชจักรีวงศ์ในสมัยรัตนโกสินทร์ทั้ง 9 พระองค์ผ่านวีดิทัศน์ที่ถ่ายทอดเรื่องราวแตกต่างกันไป ทำให้เข้าใจง่ายและได้รับความรู้เพิ่มเติมนอกเหนือจากในห้องเรียนอีกด้วยค่ะ หากมีเวลาว่างเหลือพอ ลองขึ้นไปชมวิวทิวทัศน์ในมุมสูงรอบเกาะรัตนโกสินทร์บนถนนราชดำเนินกันค่ะ เพราะจะได้เห็นสถาปัตยกรรมอันงดงามในสถานที่ต่าง ๆ ที่สำคัญโดยรอบ ไม่ว่าจะเป็นโลหะปราสาทของวัดราชนัดดารามวรวิหาร, เจดีย์ภูเขาทองของวัดสระเกศฯ และป้อมมหากาฬค่ะ หลังจากอ่านบทความนี้แล้วอย่าลืมแวะมาเที่ยวชม “นิทรรศน์รัตนโกสินทร์” กันนะคะ บอกเลยว่าคุ้มค่าแก่การมาเที่ยวชมสุด ๆ เพราะนอกจากจะได้รับความรู้เกี่ยวกับความเป็นชาติไทยในสมัยรัตนโกสินทร์แล้ว ยังสนุกเพลิดเพลินจนลืมเวลาอีกด้วยค่ะ 📍 ปักหมุดได้ที่: นิทรรศน์รัตนโกสินทร์ 100 ถนนราชดำเนินกลาง แขวงบวรนิเวศ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200🚘 GPS: https://goo.gl/maps/6MUJjPJpaZXpmfTL6✉ Email: rtks2010@gmail.com💻 เว็บไซต์: http://www.nitasrattanakosin.com📞 โทร: 02-621-0044📠 โทรสาร: 02-621-0043💸 เสียค่าเข้าชม: ผู้ใหญ่ (ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ) 100 บาท ส่วนเด็กที่สูงไม่เกิน 120 เซนติเมตร, นักเรียน / นักศึกษาระดับไม่เกินปริญญาตรี ในเครื่องแบบ หรือแสดงบัตรนักเรียน นักศึกษา, นักบวช / พระภิกษุ / สามเณร, ผู้สูงอายุ (60 ปีขึ้นไป) และผู้พิการ เข้าชมฟรี!🏡 เปิดทุกวันอังคาร-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ตั้งแต่เวลา 09.00 - 17.00 น. หยุดทุกวันจันทร์ (มีรอบเข้าชมทุก 20 นาที ตั้งแต่ 09.20 - 15.00 น. ทั้งหมด 18 รอบต่อวัน โดยรอบสุดท้ายคือเวลา 15.00 น. กรณีที่ชมทั้ง 2 เส้นทาง รอบสุดท้ายคือเวลา 13.00 น.)***Note: ห้องรัตนโกสินทร์เรืองโรจน์, ห้องเรืองรุ่งวิถีไทย และห้องดวงใจปวงประชา เป็นห้องที่สงวนสิทธิ์ให้เข้าชมเฉพาะรอบเวลาที่ระบุไว้ในบัตรเข้าชมเท่านั้น***เครดิตหน้าปกและภาพโดย: ผู้เขียน (Windy_55) *STAR COVER"อย่ามัวแต่ดูมาดังกัน"*ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ขอชวนทุกคนมาสนุกโคฟเวอร์ พร้อมลุ้นรับเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า 7,000 บาท (5 รางวัล) โคฟคนที่ใช่ ไลค์คนที่ชอบ`ร่วมสนุกได้ที่ ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ห้อง cover บนแอปทรูไอดี`คลิกเลย >> https://ttid.co/UAnK/7y9jfqkqอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://bit.ly/3O1cmUQร่วมสนุกตั้งแต่วันที่ 10 มิถุนายน 2565 - วันที่ 3 สิงหาคม 2565