จังหวัดพระนครศรีอยุธยาเป็นจังหวัดที่อยู่ใกล้กรุงเทพฯ มาก ๆ ชนิดที่ว่านั่งรถไม่ถึง 2 ชั่วโมงก็ถึงอยุธยาแล้ว และด้วยความที่อยุธยามีสถานที่ท่องเที่ยวเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นพระราชวัง, วัด, โบราณสถาน, พิพิธภัณฑ์ และตลาดต่าง ๆ ทำให้รู้สึกว่าเที่ยวอยุธยาแบเช้าไป-เย็นกลับก็เที่ยวไม่หมด วันนี้เราเลยคัดสรรเฉพาะสถานที่ท่องเที่ยวจังหวัดพระนครศรีอยุธยาที่ต้องปักหมุดเช็กอินทั้ง 12 แห่งมาฝากกันค่ะ ว่าแต่จะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ไหนกันบ้างนั้น ตามไปดูและเตรียมปักหมุดเช็กอินในมือถือได้เลยค่ะ ^^1. วัดนิเวศธรรมประวัติ “วัดนิเวศธรรมประวัติ” เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรวิหาร ที่ตั้งอยู่บนเกาะกลางแม่น้ำเจ้าพระยา ตรงข้ามกับพระราชวังบางปะอิน ในตำบลบ้านเลน อำเภอบางปะอิน หากต้องการเที่ยวชมจะต้องนั่งเรือหรือกระเช้าไฟฟ้าลอยน้ำเข้ามายังวัดเท่านั้นค่ะ ซึ่งจุดเด่นหรือไฮไลต์ของวัดแห่งนี้คือพระอุโบสถที่ตกแต่งสถาปัตยกรรมแบบโกธิกและประดับกระจกสีอย่างสวยงาม ทำให้ดูคล้ายโบสถ์ฝรั่งของศาสนาคริสต์ค่ะ ภายในพระอุโบสถเป็นที่ประดิษฐานของพระประธาน “พระพุทธนฤมลธรรโมภาส” ที่มีลักษณะการตกแต่งผสมผสานระหว่างศิลปะแบบประเพณีนิยมและแบบตะวันตกเข้าด้วยกันค่ะ นอกจากจะมีพระอุโบสถให้เที่ยวชมแล้ว วัดแห่งนี้ยังมีสุสานสวนหิน, พิพิธภัณฑ์, พระตำหนัก, อนุสาวรีย์คุณปลัดเสงี่ยม, พระคันธราฎขอฝน และสิ่งอื่น ๆ ที่น่าสนใจให้ได้เดินเที่ยวชมกันอีกด้วยค่ะ📍 ปักหมุดได้ที่: วัดนิเวศธรรมประวัติราชวรวิหาร ต.บ้านเลน อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา 13160🚘 GPS: https://goo.gl/maps/qeAva46ZPSTquReV7 📞 โทร. 035-262-139⏰ เปิด: ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 09.00 - 17.00 น. / วันเสาร์ - อาทิตย์ เวลา 08.00 - 18.00 น.2. พระราชวังบางปะอิน “พระราชวังบางปะอิน” ตั้งอยู่ในตำบลบ้านเลน อำเภอบางปะอิน ใกล้กับวัดนิเวศธรรมประวัติ ซึ่งพระราชวังบางปะอิน เป็นพระราชวังเก่าแก่ที่สร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยา เพื่อใช้เป็นสถานที่พักแรมหรือพระราชวังฤดูร้อนของพระมหากษัตริย์ในสมัยกรุงศรีอยุธยาจนกระทั่งเสียกรุงศรีอยุธยาให้แก่พม่า ทำให้ที่นี่ถูกปล่อยให้รกร้าง ต่อมามีการบูรณะขึ้นใหม่ด้วยการสร้างพระที่นั่งกับพระตำหนักต่าง ๆ ปัจจุบันอยู่ในความดูแลของสำนักพระราชวัง สำหรับใช้เป็นสถานที่แปรพระราชฐานของพระมหากษัตริย์และพระบรมวงศานุวงศ์ รวมถึงประกอบพระราชพิธีสังเวยพระป้าย แต่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวชมได้ค่ะ ภายในพระราชวังบางปะอินแบ่งออกเป็นเขตพระราชฐานชั้นนอกและเขตพระราชฐานชั้นใน ซึ่งเขตพระราชฐานชั้นนอก ได้แก่ หอเหมมณเฑียรเทวราช, พระที่นั่งไอศวรรย์ทิพยอาสน์, พระที่นั่งวโรภาษพิมาน, สภาคารราชประยูร, กระโจมแตร และเรือนแพพระที่นั่งค่ะ ส่วนเขตพระราชฐานชั้นใน ได้แก่ พระที่นั่งอุทยานภูมิเสถียร, พระที่นั่งเวหาสน์จำรูญ, หอวิฑูรทัศนา, เก๋งบุปผาประพาส, หมู่พระตำหนักฝ่ายใน, อนุสาวรีย์สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์, อนุสาวรีย์ราชานุสรณ์ และประตูเทวราชครรไล โดยสถานที่ภายในพระราชวังแต่ละแห่งจะมีสถาปัตยกรรมแบบผสมผสานไทย-ยุโรปไว้อย่างสวยงามค่ะ📍 ปักหมุดได้ที่: พระราชวังบางปะอิน ถ.ปราสาททอง ต.บ้านเลน อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา 13160🚘 GPS: https://goo.gl/maps/jEmDo1987tctp3fC8 📞 โทร. 035-261-548, 035-261-044⏰ เปิด: ทุกวันเวลา 08.00 - 17.00 น.💸 เสียค่าเข้าชม: เด็ก / นักเรียน / นักศึกษา 20 บาท, ผู้ใหญ่ 30 บาท, นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ 20 บาท 3. หมู่บ้านญี่ปุ่น “หมู่บ้านญี่ปุ่น” ตั้งอยู่บนฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา ตรงข้ามหมู่บ้านโปรตุเกส แต่เดิมเป็นเพียงชุมชนเล็ก ๆ ของพ่อค้าเรือสำเภาชาวญี่ปุ่น ซึ่งจะมีชาวญี่ปุ่นเข้ามาอาศัยในหมู่บ้านอยู่ 3 กลุ่มด้วยกันคือ พ่อค้า, ซามูไรหรือทหารอาสาในสมัยอยุธยา และชาวญี่ปุ่นที่ต้องการนับถือศาสนาคริสต์ได้อย่างเสรีค่ะ ปัจจุบันได้รับการจัดตั้งให้เป็นพิพิธภัณฑ์หมู่บ้านญี่ปุ่น ส่วนหนึ่งของศูนย์ศึกษาประวัติศาสตร์อยุธยาที่จัดตั้งโดยสมาคมไทย - ญี่ปุ่น เพื่อรำลึกถึง “ยามาดะ นางามาซะ” ผู้นำหรือหัวหน้าหมู่บ้านญี่ปุ่นที่ต่อมากลายเป็นขุนนางในราชสำนักอยุธยา อีกทั้งยังใช้เป็นอนุสรณ์แห่งหมู่บ้านญี่ปุ่นเดิมด้วยค่ะ ภายในหมู่บ้านญี่ปุ่นมีอาคารจัดแสดงอยู่ในอาคารที่ 1 และอาคารที่ 2 ซึ่งอาคารที่ 1 จัดแสดงเรื่องราวต่าง ๆ ของชุมชนชาวญี่ปุ่นและชุมชนชาวต่างชาติในสมัยอยุธยา เช่น การเข้ามาของชาวญี่ปุ่น, วิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชุมชนญี่ปุ่นในอยุธยา, เส้นทางการเดินเรือ, การติดต่อค้าขาย และความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-ญี่ปุ่นที่อ้างอิงจากประวัติศาสตร์ให้ศึกษาค่ะ ส่วนอาคารที่ 2 จัดแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับบุคคลสำคัญในสมัยอยุธยาอย่าง “ยามาดะ นางามาซะ” และ “ท้าวทองกีบม้า” ราชินีแห่งขนมไทยค่ะ นอกจากนั้นยังมีโซนสวนญี่ปุ่นที่มีบรรยากาศแบบญี่ปุ่นแท้ ๆ โดยมีศาลาญี่ปุ่นให้นั่งชมวิวแม่น้ำเจ้าพระยาค่ะ📍 ปักหมุดได้ที่: หมู่บ้านญี่ปุ่น ต.เกาะเรียน อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา 13000🚘 GPS: https://goo.gl/maps/NcFpEfamvpkrvcHv8📞 โทร. 03-525-9867⏰ เปิด: ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 09.30 - 18.00 น. / วันเสาร์ – อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 08.30 - 18.00 น.💸เสียค่าเข้าชม: เด็ก / นักเรียน / นักศึกษา 20 บาท, ผู้ใหญ่ / ชาวต่างชาติ 50 บาท 4. วัดใหญ่ชัยมงคล “วัดใหญ่ชัยมงคล” ตั้งอยู่ในคลองสวนพลู อำเภอพระนครศรีอยุธยา ถือเป็นวัดเก่าแก่ที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ในสมัยกรุงศรีอยุธยา ซึ่งวัดใหญ่ชัยมงคลสร้างขึ้นมาในสมัยอยุธยาตอนต้น แต่เดิมชื่อว่า “วัดป่าแก้ว” ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็น “วัดใหญ่ชัยมงคล” เพื่อเฉลิมพระเกียรติยศจากการได้รับชัยชนะในสงครามยุทธหัตถี และวัดแห่งนี้ได้รับการบูรณะเรื่อยมา แต่เมื่อครั้งเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 กลับถูกปล่อยให้ทิ้งร้าง จนกระทั่งในสมัยรัตนโกสินทร์ก็ได้มีการบูรณปฏิสังขรณ์ขึ้นใหม่ค่ะ จุดเด่นของวัดใหญ่ชัยมงคลคือ “เจดีย์ชัยมงคล” ที่เป็นเจดีย์องค์ใหญ่และถือว่าเป็นเจดีย์ที่สูงที่สุดในอยุธยาเลยทีเดียวค่ะ ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่มักเรียกกันว่า “พระเจดีย์ใหญ่” จึงทำให้เชื่อกันว่าเป็นที่มาของชื่อวัดใหญ่ชัยมงคลนั่นเองค่ะ นอกจากนั้นภายในวัดยังมีสิ่งน่าสนใจอื่น ๆ อีก ไม่ว่าจะเป็น “พระพุทธชัยมงคล” พระประธานภายในพระอุโบสถ, “พระพุทธไสยาสน์” พระนอนสีขาวห่มคลุมจีวรตลอดทั้งร่าง และพระตำหนักที่มีพระบรมราชานุสาวรีย์ให้กราบไหว้สักการะค่ะ📍 ปักหมุดได้ที่: 40/3 หมู่ที่ 3 ต.คลองสวนพลู อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา 13000🚘 GPS: https://goo.gl/maps/PdTxx23ZYHJ3g29o6📞 โทร. 035-242-640⏰ เปิด: ทุกวัน เวลา 08.00 - 17.00 น.5. วัดมหาธาตุ “วัดมหาธาตุ” เป็นพระอารามหลวงที่ตั้งอยู่ในอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา บริเวณเชิงสะพานป่าถ่าน ซึ่งวัดมหาธาตุถือเป็นวัดที่เก่าแก่และสำคัญยิ่งในสมัยกรุงศรีอยุธยา เนื่องจากเป็นวัดที่ประดิษฐานพระบรมธาตุใจกลางพระนคร และยังเป็นที่พำนักของสมเด็จพระสังฆราช รวมถึงเป็นศูนย์กลางทางศาสนาที่สำคัญที่สุดตลอดจนถึงสิ้นกรุงศรีอยุธยากันเลยทีเดียว หลังจากเสียกรุงฯ ครั้งที่ 2 วัดแห่งนี้ถูกทำลายลงเหลือเพียงซากปรักหักพังและปล่อยทิ้งร้างไว้นานหลายร้อยปีค่ะ จุดเด่นของวัดมหาธาตุคือ “เศียรพระพุทธรูปในรากต้นโพธิ์” ที่สวยงามแปลกตาและน่าอัศจรรย์จนโด่งดังไปทั่วโลก ถึงขนาดมีนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกต่างแวะมาถ่ายรูปกันไม่ขาดสายค่ะ ซึ่งเศียรพระพุทธรูปดังกล่าวเป็นเศียรพระพุทธรูปที่แตกหักจากองค์พระลงมายังโคนต้นโพธิ์และรากต้นโพธิ์ขยายโอบล้อมพระเศียรไว้จนเหมือนเป็นเนื้อเดียวกัน นอกจากนั้นภายในวัดแห่งนี้ยังมีสิ่งน่าสนใจอื่น ๆ อีก เช่น พระปรางค์ประธาน, เจดีย์แปดเหลี่ยม, วิหาร, ตำหนักพระสังฆราช เป็นต้น📍 ปักหมุดได้ที่: วัดมหาธาตุ ถ.นเรศวร ต.ท่าวาสุกรี อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา 13000🚘 GPS: https://goo.gl/maps/in4JajuKyvZdaVai8📞 โทร. องค์การบริหารส่วนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา 0-3579-6447⏰ เปิด: ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.30 - 17.00 น.💸 เสียค่าเข้าชม: คนไทย >> เด็ก, นักเรียน, นักศึกษา ไม่เสียค่าเข้าชม / ผู้ใหญ่ ราคา 10 บาท / บัตรรวม 40 บาท ชาวต่างชาติ >> เด็ก ราคา 30 บาท / ผู้ใหญ่ ราคา 50 บาท / บัตรรวม 220 บาท*บัตรรวม สามารถเข้าชมโบราณสถานในอยุธยา 6 วัด ได้แก่ วัดมหาธาตุ, วัดราชบูรณะ, พระราชวังโบราณและวัดพระศรีสรรเพชญ์, วัดพระราม, วัดไชยวัฒนาราม และวัดมเหยงคณ์ (ใช้ได้ภายใน 30 วัน)6. วัดราชบูรณะ “วัดราชบูรณะ” เป็นพระอารามหลวงในสมัยอยุธยา ตั้งอยู่ในอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ติดกับวัดมหาธาตุ ซึ่งจุดเด่นภายในวัดคือ “พระปรางค์ประธาน” ที่ก่อด้วยศิลาแลงขนาดสูงใหญ่บนฐานสี่เหลี่ยม มีเจดีย์ทั้งสี่ทิศและบันไดขึ้นสู่องค์พระปรางค์ โดยหน้าปรางค์เป็นมุขใหญ่ยื่นออกมาเป็นห้องคูหา ส่วนยอดสูงเรียวคล้ายฝักข้าวโพดและมีฝักเพกาให้เห็นค่ะ เมื่อเข้าไปในองค์พระปรางค์ก็จะมีห้องกรุลับชั้นใต้ดิน 3 ห้องใหญ่เรียงตามลำดับในแนวดิ่ง เพื่อใช้เก็บทรัพย์สมบัติและสิ่งของมีค่าต่าง ๆ ในสมัยนั้น ปัจจุบันได้เปิดให้นักท่องเที่ยวลงไปชมภาพจิตรกรรมฝาผนังสมัยอยุธยาตอนต้นอีกด้วยค่ะ ส่วนโบราณสถานที่น่าสนใจอีกจุดหนึ่งคือ “วิหารหลวง” ตั้งอยู่ด้านหน้าทางเข้าวัด ซึ่งวิหารหลวงเป็นห้องสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ก่อด้วยอิฐที่ยังคงหลงเหลือซากเสาและฐานชุกชีของพระพุทธรูป ส่วนหลังคาได้พังหมดแล้วค่ะ เมื่อมองจากข้างนอกจะเห็นพระปรางค์อยู่ในกรอบประตูพอดีและเห็นเจดีย์บางองค์อยู่ในกรอบหน้าต่าง โดยการสร้างวัดราชบูรณะเป็นแบบที่นิยมสร้างกันในสมัยอยุธยาตอนต้น คือ ด้านหน้าเป็นพระวิหาร ถัดไปเป็นพระปรางค์ประธาน และด้านหลังเป็นพระอุโบสถค่ะ📍 ปักหมุดได้ที่: วัดราชบูรณะ ถ.ชีกุน ต.ท่าวาสุกรี อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา 13000🚘 GPS: https://goo.gl/maps/74xAcuQKFbthG6dh9 📞 โทร. 035-246-076-7⏰ เปิด: ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 - 16.30 น.💸 เสียค่าเข้าชม: คนไทย >> เด็ก, นักเรียน, นักศึกษา ไม่เสียค่าเข้าชม / ผู้ใหญ่ ราคา 10 บาท / บัตรรวม (6 วัด) 40 บาท ชาวต่างชาติ >> เด็ก ราคา 30 บาท / ผู้ใหญ่ ราคา 50 บาท / บัตรรวม (6 วัด) 220 บาท*บัตรรวม สามารถเข้าชมโบราณสถานในอยุธยา 6 วัด ได้แก่ วัดมหาธาตุ, วัดราชบูรณะ, พระราชวังโบราณและวัดพระศรีสรรเพชญ์, วัดพระราม, วัดไชยวัฒนาราม และวัดมเหยงคณ์ (ใช้ได้ภายใน 30 วัน)7. พระราชวังโบราณและวัดพระศรีสรรเพชญ์ “พระราชวังโบราณและวัดพระศรีสรรเพชญ์” ตั้งอยู่ในอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา บนถนนศรีสรรเพชญ์ ตำบลประตูชัย อำเภอพระนครศรีอยุธยา ใกล้กับวิหารพระมงคลบพิตรค่ะ ซึ่งวัดแห่งนี้เป็นวัดที่สำคัญมากที่สุดในสมัยอยุธยา เนื่องจากเป็นอดีตวัดหลวงประจำพระราชวังโบราณที่ไม่มีพระสงฆ์จำพรรษาภายในวัด เทียบได้กับวัดพระแก้วในกรุงเทพฯ และวัดมหาธาตุในจังหวัดสุโขทัย อีกทั้งยังเป็นต้นแบบของวัดพระแก้วในปัจจุบันอีกด้วยค่ะ โดยในอดีตนั้นเป็นสถานที่ที่พระมหากษัตริย์ทรงใช้ประกอบพระราชพิธีต่าง ๆ และยังเป็นที่เก็บพระบรมอัฐิของพระมหากษัตริย์บางพระองค์ค่ะ จุดเด่นที่น่าสนใจของวัดพระศรีสรรเพชญ์คือ “พระเจดีย์ใหญ่จำนวน 3 องค์” ที่มีลักษณะเป็นเจดีย์ทรงลังกาหรือทรงระฆังคว่ำวางเรียงรายกันจากทิศตะวันออกไปยังทิศตะวันตกเป็นสัญลักษณ์อย่างสวยงามค่ะ นอกจากพระเจดีย์ใหญ่ทั้ง 3 องค์แล้ว ยังมีสิ่งน่าสนใจอื่น ๆ อย่างซากปรักหักพังของพระวิหาร หอระฆัง พระอุโบสถ ฯลฯ ที่คงความเก่าแก่สวยงามอย่างยิ่งทำให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเข้ามาเที่ยวชมกันอย่างไม่ขาดสายค่ะ📍 ปักหมุดได้ที่: วัดพระศรีสรรเพชญ์ ถ.ศรีสรรเพชญ์ ต.ประตูชัย อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา 13000🚘 GPS: https://goo.gl/maps/tbawdAbAY1ncPu4GA📞 โทร. 035-242-501, 035-242-448⏰ เปิด: ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30 - 16.30 น.💸 เสียค่าเข้าชม: คนไทย >> เด็ก, นักเรียน, นักศึกษา ไม่เสียค่าเข้าชม / ผู้ใหญ่ ราคา 10 บาท / บัตรรวม 40 บาท ชาวต่างชาติ >> เด็ก ราคา 30 บาท / ผู้ใหญ่ ราคา 50 บาท / บัตรรวม 220 บาท*บัตรรวม สามารถเข้าชมโบราณสถานในอยุธยา 6 วัด ได้แก่ วัดมหาธาตุ, วัดราชบูรณะ, พระราชวังโบราณและวัดพระศรีสรรเพชญ์, วัดพระราม, วัดไชยวัฒนาราม และวัดมเหยงคณ์ (ใช้ได้ภายใน 30 วัน)8. พิพิธภัณฑ์ล้านของเล่น เกริก ยุ้นพันธ์ “พิพิธภัณฑ์ล้านของเล่น เกริก ยุ้นพันธ์” ตั้งอยู่บริเวณแยกโรงเรียนประตูชัย บนถนนอู่ทอง ตำบลท่าวาสุกรี อำเภอพระนครศรีอยุธยา เป็นพิพิธภัณฑ์ของเล่นของ รศ.เกริก ยุ้นพันธ์ อดีตอาจารย์ประจำสาขาวิชาเอกวรรณกรรมสำหรับเด็ก คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ซึ่งครูเกริกได้รับแรงบันดาลใจจากการไปเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์ของเล่นคีตาฮาราที่ประเทศญี่ปุ่น เมื่อครูเกริกกลับมาเมืองไทยจึงเริ่มเก็บสะสมของเล่นมาเรื่อย ๆ มานานกว่า 20 ปี และค่อย ๆ สร้างพิพิธภัณฑ์ขึ้นมาจนเกิดเป็นพิพิธภัณฑ์ล้านของเล่นเกริก ยุ้นพันธ์ถึงทุกวันนี้ค่ะ พิพิธภัณฑ์ล้านของเล่น เกริก ยุ้นพันธ์ แบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 ส่วนด้วยกันคือ ส่วนที่จัดแสดงภายในอาคาร กับส่วนพักผ่อนกลางแจ้งค่ะ ซึ่งอาคารที่จัดแสดงเป็นอาคารหลังใหญ่สีขาว 2 ชั้น ภายในกว้างขวางโปร่งสบาย โดยชั้นล่างจัดแสดงของเล่นไทยยุคเก่า ตั้งแต่สมัยสุโขทัยจนถึงสมัยรัตนโกสินทร์ อีกทั้งยังมีสิ่งของเครื่องใช้โบราณต่าง ๆ และกรอบภาพวาดฝีมือครูเกริกอีกด้วยค่ะ ส่วนชั้นบนจัดแสดงของเล่นเก่าต่าง ๆ จากทั่วโลกที่เป็นของเล่นสากลและเป็นที่นิยมชมชอบของเด็กทุกยุคทุกสมัยค่ะ ยิ่งไปกว่านั้นยังมีโมเดลการ์ตูนขนาดใหญ่และภาพวาดของครูเกริกที่เล่าเรื่องราวของอยุธยาบนกำแพงยาวสีขาวค่ะ📍 ปักหมุดได้ที่: 45 หมู่ 2 ถ.อู่ทอง ต.ท่าวาสุกรี อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา อยู่ตรงแยกโรงเรียนประตูชัย🚘 GPS: https://goo.gl/maps/qH7nyxqtYqBHTLpMA 💻 เว็บไซต์: http://www.milliontoymuseum.com/📞 โทร. 035-328-949- 50, 081-890-5782, 086-334-4581⏰ เปิด: ตั้งแต่เวลา 09.00 - 16.00 น. หยุดทุกวันจันทร์ แต่หากวันจันทร์เป็นวันหยุดนักขัตฤกษ์และวันหยุดราชการจะเปิดทำการเป็นปกติ💸 เสียค่าเข้าชม: เด็ก 20 บาท ผู้ใหญ่ 50 บาท และชาวต่างชาติ 100 บาท 9. วัดหน้าพระเมรุราชิการาม “วัดหน้าพระเมรุราชิการาม” หรือ “วัดหน้าพระเมรุ” เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ ตั้งอยู่ริมคลองสระบัวในตำบลท่าวาสกุรี อำเภอพระนครศรีอยุธยา ตรงข้ามกับพระราชวังหลวง ซึ่งวัดแห่งนี้เป็นวัดโบราณเพียงวัดเดียวในอยุธยาที่ยังคงสภาพสถาปัตยกรรมแบบอยุธยาที่สมบูรณ์มากที่สุด เนื่องจากพม่าใช้เป็นที่ตั้งค่ายหรือกองบัญชาการรบในช่วงศึกสงคราม จึงไม่ได้ถูกพม่าเผาทำลายค่ะ จุดเด่นที่น่าสนใจภายในวัดหน้าพระเมรุคือ “พระพุทธรูปนิมิตรวิชิตมารโมลีศรีสรรเพชญบรมไตรโลกนาถ” ที่เป็นพระประธานขนาดใหญ่ในพระอุโบสถ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปทรงเครื่องหล่อสำริดแบบเหมือนกษัตริย์ ประทับนั่งปางมารวิชัย ถือได้ว่าเป็นพระพุทธรูปทรงเครื่องสมัยอยุธยาที่ใหญ่และงดงามสมบูรณ์ที่สุดจนถึงปัจจุบันค่ะ นอกจากนั้นยังมีจุดเด่นที่น่าสนใจอีกอย่างหนึ่งคือ “องค์พระคันธารราฐ” พระประธานในพระวิหารน้อยที่อยู่ข้างพระอุโบสถ เป็นพระพุทธรูปปางปฐมเทศนา ศิลปะทวาราวดี แกะสลักด้วยศิลาเขียว ถือได้ว่าเป็นพระพุทธรูปศิลาที่ใหญ่ที่สุดและงดงามองค์หนึ่งในโลกค่ะ📍 ปักหมุดได้ที่: 76 หมู่ 4 ต.ลุมพลี อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา 13000🚘 GPS: https://goo.gl/maps/QNo7N9m6rDEuKC727 📞 โทร. 035-328-709, 080-668-1070⏰ เปิด: ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30 - 16.30 น.10. วัดไชยวัฒนาราม “วัดไชยวัฒนาราม” เป็นวัดเก่าแก่สมัยอยุธยาตอนปลาย ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาทางตะวันตกนอกเกาะเมือง ตำบลบ้านป้อม อำเภอพระนครศรีอยุธยา ซึ่งวัดแห่งนี้จำลองแบบมาจากปราสาทนครวัด ถือเป็นวัดหลวงที่สำคัญมาก ๆ เนื่องจากพระมหากษัตริย์ทุกพระองค์ทรงใช้เป็นสถานที่สำหรับบำเพ็ญพระราชกุศลและถวายพระเพลิงพระศพทั้งของพระมหากษัตริย์และพระบรมวงศานุวงศ์เกือบทุกพระองค์ ทำให้วัดแห่งนี้ได้รับการปฏิสังขรณ์สืบต่อมาทุกรัชสมัยค่ะ จุดเด่นที่น่าสนใจภายในวัดไชยวัฒนารามคือ “พระปรางค์ศรีรัตนมหาธาตุ” ที่เป็นพระปรางค์ประธาน ซึ่งมีรูปแบบคล้ายกับพระปรางค์ในสมัยอยุธยาตอนต้นค่ะ ส่วนสิ่งน่าสนใจอีกอย่างหนึ่งภายในวัดคือ “ระเบียงคต” ที่เชื่อมต่อเมรุทั้ง 4 ทิศเข้าด้วยกัน ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปปูนปั้นปางมารวิชัยเคยลงรักปิดทองจำนวน 120 องค์ เปรียบเหมือนกำแพงเขตศักดิ์สิทธิ์ แต่ในปัจจุบันเหลือพระพุทธรูปที่ยังมีพระเศียรอยู่เพียง 2 องค์เท่านั้นค่ะ📍 ปักหมุดได้ที่: วัดไชยวัฒนาราม ต.บ้านป้อม อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา 13000🚘 GPS: https://goo.gl/maps/rSRFGVT6qucXGwHV6📞 โทร. อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา 0-3524-2286⏰ เปิด: ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30 - 16.30 น.💸 เสียค่าเข้าชม: คนไทย >> เด็ก, นักเรียน, นักศึกษา ไม่เสียค่าเข้าชม / ผู้ใหญ่ ราคา 10 บาท / บัตรรวม 40 บาท ชาวต่างชาติ >> เด็ก ราคา 30 บาท / ผู้ใหญ่ ราคา 50 บาท / บัตรรวม 220 บาท*บัตรรวม สามารถเข้าชมโบราณสถานในอยุธยา 6 วัด ได้แก่ วัดมหาธาตุ, วัดราชบูรณะ, พระราชวังโบราณและวัดพระศรีสรรเพชญ์, วัดพระราม, วัดไชยวัฒนาราม และวัดมเหยงคณ์ (ใช้ได้ภายใน 30 วัน)11. วัดธรรมิกราช “วัดธรรมิกราช” ตั้งอยู่ที่ตำบลท่าวาสุกรี อำเภอพระนครศรีอยุธยา ติดกับพระราชวังโบราณและวัดพระศรีสรรเพชญ์ แต่เดิมชื่อว่า “วัดมุขราช” เป็นอดีตพระอารามหลวงในสมัยกรุงศรีอยุธยา ซึ่งวัดแห่งนี้เป็นวัดหลวงที่สร้างขึ้นก่อนสถาปนากรุงศรีอยุธยาโดยพระยามิกราช พระราชโอรสของพระเจ้าสายน้ำผึ้ง และเป็นวัดสงฆ์มหานิกาย จึงถือได้วัดธรรมิกราชว่าเป็นจุดกำเนิดของกรุงศรีอยุธยา ในปัจจุบันยังมีพระภิกษุสงฆ์จำพรรษาและปฏิบัติธรรมอยู่ค่ะ จุดเด่นที่สำคัญของวัดธรรมมิกราชคือ “เศียรพระธรรมิกราช” ซึ่งมีลักษณะเป็นเศียรพระพุทธรูปหล่อสำริดศิลปะสมัยอู่ทองที่มีขนาดใหญ่มาก ปัจจุบันกรมศิลปากรนำไปเก็บรักษาไว้และจัดแสดงที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา และทางวัดได้สร้างพระเศียรจำลองขึ้นประดิษฐานไว้บริเวณหน้าวัดแทนค่ะ นอกจากนั้นภายในวัดยังมีสิ่งที่น่าสนใจอื่น ๆ อีก เช่น “เจดีย์สิงห์ล้อม” เจดีย์ประธานหรือเจดีย์ทรงกลมแบบองค์ระฆังคว่ำที่มีสิงห์ปูนปั้นล้อมรอบจำนวน 52 ตัว, “วิหารพระพุทธไสยาสน์” ภายในประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์, “ซากของสระน้ำและประตูวัง” และ “พระธรรมิกราชจำลอง” ค่ะ 📍 ปักหมุดได้ที่: วัดธรรมิกราช ถนนอู่ทอง ตำบลท่าวาสุกรี อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 13000🚘 GPS: https://goo.gl/maps/WvufHoNuRxTFED3e7 📞 โทร. 082-238-2999, 035-328-555⏰ เปิด: ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30 - 16.30 น.12. วัดพนัญเชิงวรวิหาร “วัดพนัญเชิงวรวิหาร” เป็นพระอารามหลวงชั้นโท ชนิดวรวิหาร แบบมหานิกาย ตั้งอยู่นอกเกาะเมืองอยุธยา ในตำบลคลองสวนพลู อำเภอพระนครศรีอยุธยา ไม่ไกลจากวัดใหญ่ชัยมงคลมากนัก ซึ่งวัดแห่งนี้เป็นวัดเก่าแก่ที่สร้างขึ้นก่อนสถาปนากรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี และมีการบูรณปฏิสังขรณ์อย่างดีเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน ถือได้ว่าเป็นวัดสวยและสำคัญยิ่งในอยุธยาที่ต้องแวะมาให้ได้สักครั้งในชีวิตเลยทีเดียวค่ะ จุดเด่นของวัดพนัญเชิงวรวิหาร คือ “พระพุทธไตรรัตนนายก” (หลวงพ่อโต หรือเจ้าพ่อซำปอกง) ที่ประดิษฐานภายในพระอุโบสถ ซึ่งมีลักษณะเป็นพระพุทธรูปขนาดใหญ่ศิลปะอู่ทองตอนปลาย ปางมารวิชัยที่นับได้ว่าใหญ่ที่สุดและมีชื่อเสียงที่สุดในอยุธยา และยังเป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองอยุธยาที่คนไทยและคนจีนให้ความเคารพบูชามาอย่างยาวนานเลยทีเดียวค่ะ นอกจากนั้นภายในพระอุโบสถ (ข้างห้องหลวงพ่อโต) ยังมีพระพุทธรูปสำคัญ 3 องค์ตั้งประดิษฐานอยู่ ได้แก่ พระพุทธรูปทองคำสมัยสุโขทัย, พระพุทธรูปปูนปั้นสมัยอยุธยา และพระพุทธรูปนาคสมัยสุโขทัยค่ะ📍 ปักหมุดได้ที่: ตำบลคลองสวนพลู อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 13000🚘 GPS: https://goo.gl/maps/zx5Dso3GY9hwBxBi7📞 โทร. -⏰ เปิด: ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.00-17.00 น. นอกจากอยุธยาจะมีสถานที่ท่องเที่ยวเด็ด ๆ ที่เราคัดสรรมาทั้งหมด 12 แห่งแล้วยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ อีกตั้งหลายแห่งให้เพื่อน ๆ ได้เที่ยวชมกันค่ะ เรียกได้ว่าเที่ยวทั้งวันก็เที่ยวไม่หมดอย่างแน่นอน และหากมีที่เที่ยวไหนเปิดใหม่ในอยุธยาจะรีบมาแนะนำให้เพื่อน ๆ ได้รู้จักทันทีเลยค่ะ เครดิตภาพทั้งหมดโดย : ผู้เขียน (Windy_55)7-11 Community ห้องลับเมาท์มอยของกินของใช้ในเซเว่น อะไรดีอะไรใหม่ ต้องรู้ ต้องคุย ต้องแชร์