สวัสดีค่ะ จากครั้งที่แล้วเราพาทุกคนไปพิชิตถ้ำนาคาและชมความมหัศจรรย์ภายในถ้ำนาคากันแล้ว คราวนี้เราจะไปเที่ยวชมจุดไฮไลท์ต่างๆรอบๆถ้ำนาคาด้วยการเดินตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติที่เจ้าหน้าที่จัดไว้ให้บนยอดภูลังกา ซึ่งถ้าขึ้นมาพิชิตถ้ำนาคาแล้วไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง จะมีที่ไหนบ้างเราไปกันต่อเลยค่ะ พวกเราขึ้นมาจากถ้ำนาคาก็บ่ายโมงกว่าแล้ว ไกด์บอกว่าเราจะต้องลงถึงด้านล่างก่อน 17.00น.ซึ่งดูจากเวลาแล้วพวกเราน่าจะมีเวลาเดินเที่ยวกันประมาณหนึ่งชั่วโมงเผื่อเวลาเดินลงอีกสองชั่วโมงกว่าๆจึงตกลงว่าเราจะไปให้ครบทุกจุดบนภูลังกา เพราะกว่าจะขึ้นมาถึงจุดนี้ไม่ได้ง่าย ว่าแล้วก็คว้ากระเป๋าเดินเท้าไปตามลานหินซันแครกเลาะหน้าผาฝ่าแสงแดดยามบ่ายให้ความรู้สึกเหมือนเดินอยู่บนหลังพญานาคที่กว้างใหญ่ เดินไม่ไกลก็มาถึงทิวไม้มีร่มเงาให้ได้หลบแดดเป็นระยะ มีหน้าผาให้เราได้แวะชมวิวบึงโขงโหลงและประเทศเพื่อนบ้าน ถ้าเป็นช่วงที่มีหมอกปกคลุมคงจะสวยงามมากๆ แล้วเราก็มาหยุดกันที่ "บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์" มีน้ำอยู่พอดีกับปากบ่อล้อมรอบด้วยหินที่มีลวดลายชัดเจนคล้ายผิวหนังที่ขรุขระมีชื่อเรียกอีกอย่างว่า สะดือภูลังกา หรือ ดวงตาพญานาค ซึ่งโดยส่วนตัวในเวลานี้เรามองว่าเหมือนดวงตาพญานาคมากๆเลย แล้วไกด์ก็พาเดินต่อไปตามทางผ่านป่าและก้อนหินสีน้ำตาลเข้มกว่าที่เห็นในถ้ำนาคา บางจุดมีเชือกกั้นไว้ไม่ให้เข้าไปสัมผัสเพราะจะทำให้ลวดลายของหินลบค่ะเมื่อเดินพ้นป่ามาถึงหน้าผาหินกว้างสีเข้มจนเกือบดำนูนเป็นปุ่มขนาดต่างๆ จากจุดนี้มองไปด้านหน้าจะเห็นเจดีย์สำคัญทั้งสามองค์ คือ เจดีย์กองข้าวศรีบุญเนาว์ เจดีย์หลวงปู่วัง และเจดีย์หลวงปู่เสาร์ ถ้าเรายืนขอพรตรงจุดนี้ก็เหมือนได้สักการะขอพรจากเจดีย์ศักดิ์สิทธิ์ทั้งสามองค์ ขอพรเสร็จเดินลงจากหน้าผาผ่านหน้าเจดีย์หลวงปู่วังตรงไปสักการะ "เจดีย์หลวงปู่เสาร์" เป็นเจดีย์ที่ภายในบรรจุทันตธาตุของ “หลวงปู่เสาร์ กันตสีโล” มีสีทองเหลืองอร่ามตั้งอยู่ติดริมหน้าผา สร้างโดยหลวงปู่วัง ฐิติสาโร ครอบเจดีย์องค์เดิมไว้ รอบๆจะมีเจดีย์เล็กๆรายล้อมอีก 4 องค์มีรูปปั้นเสมือนของหลวงปู่เสาร์อยู่ด้านหน้าข้างๆ เจดีย์มีองค์พระพุทธรูปสีขาวขนาดใหญ่ประดิษฐานหันหน้าออกไปที่ริมหน้าผา ด้านล่างเป็นจุดชมวิว"ผาใจขาด" ที่สามารถมองเห็นทัศนีย์ภาพของเทือกเขาภูลังกาที่ทอดยาวตามแนวแม่น้ำโขง เห็นเกาะดอนโพธิ์กลางบึงโขลงโหลง และป่าไม้ที่เขียวขจีของประเทศเพื่อนบ้าน คุ้มค่าเหนื่อยที่ได้มากราบขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์และได้ชมวิวสวยๆ บนเขาอีกด้วย เราเดินย้อนกลับทางเดิมที่มีต้นไม้ดอกไม้ป่าขึ้นสลับกับลานหินทรายที่มีลวดลายริ้วๆคล้ายคลื่น จนมาถึงบันไดพญานาคที่เรียกว่าบันไดสวรรค์นำเราขึ้นสู่ "เจดีย์หลวงปู่วัง" และ "จุดสูงสุดภูลังกา" ที่ความสูงประมาณ 545 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง เจดีย์สีเหลืองทองอร่ามภายในบรรจุพระธาตุของหลวงปู่วัง ฐิติสาโร เกจิชื่อดังแห่งภูลังกา และจุดนี้ยังถือว่าเป็นจุดสูงสุดของภูลังกาอีกด้วย เมื่อกราบสักการะหลวงปู่วังและพระสีวลีแล้ว ก็พักรับลมชมวิวที่สวยงามของจ.บึงกาฬที่สวยงามได้อีกด้วย เมื่อเดินลงจากบันไดสวรรค์เราก็จะเริ่มเดินลงจากเทือกเขาภูลังกาลัดเลาะผ่านหน้าผาหินที่มีลวดลายสวยงามบางจุดมีมอส เฟิร์น กล้วยไม้เล็กๆขึ้นแทรกตามซอกหินดูสวยแปลกตา จนลงมาถึง "ถ้ำชัยมงคล หรือ ถ้ำหลวงปู่วัง" ที่มีก้อนหินใหญ่มหึมายื่นออกมาเป็นเหมือนหลังคาและมีพื้นไม้อยู่ด้านล่าง ซึ่งจุดนี้เคยเป็นที่สำหรับปฏิบัติธรรมกรรมฐานของนักแสวงบุญ แม่ชี และพระภิกษุสงฆ์ ซึ่งเมื่อเข้าไปถึงเราจะสัมผัสได้ถึงความร่มรื่นเงียบสงบเหมาะกับการประกอบกิจพิธีต่างๆ และนั่งสมาธิ นักท่องเที่ยวที่ขึ้นมาถ้ำนาคาส่วนใหญ่จะเข้ามากราบพระเพื่อความเป็นสิริมงคลและทำพิธีขอพรเปิดทรัพย์กับรูปปั้นพญานาคในจุดนี้ ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นการเบิกทรัพย์จากโลกบาดาลมาใช้ในโลกมนุษย์เพื่อจะได้มีทรัพย์สินเงินทองใช้ไม่ขัดสน ใกล้กับถ้ำหลวงปู่วังจะพบกับ "เศียรที่ 1" อีกจุดไฮไลท์สำคัญ เป็นหินที่มีรูปร่างคล้ายหัวงูขนาดใหญ่ที่สุดที่เจอบนภูลังกา สามารถไปกราบขอพรและถ่ายรูปเป็นที่ระลึกได้ ซึ่งช่วงที่เราไปนั้นที่น้ำสายเล็กๆไหลลงมาด้วยดูขลังมากๆ จากจุดนี้เดินเลาะทางเดินป่าตามเส้นทางลงจากภูลังกาไม่นานก็เจอกับ "เศียรที่ 3" ซึ่งเป็นหินที่มีลักษณะเหมือนหังงูอีกจุดหนึ่งที่มีขนาดเล็กกว่าที่เคยเจอมา เหมือนหัวที่ลืมตาพาดเอียงลงมา เป็นความมหัศจรรย์ที่ธรรมชาติสร้างไว้เชื่อมโยงกับตำนานภูลังกาจนทำให้ผู้ที่มาเยือนได้รับรู้เรื่องราวต่างๆผ่านสิ่งที่เห็นด้วยตาและสัมผัสได้ขณะเดินทางอยู่บนดินแดนภูลังกาแห่งนี้ จากจุดนี้เส้นทางการเดินลงจากภูลังกาเริ่มมีบันไดชันตลอดเส้นทางมาบรรจบกับจุด J ซึ่งไกด์บอกว่าบันไดเหล่านี้เป็นที่เดียวกับที่เราขึ้น แต่ทำไมเรารู้สึกว่ามีความสูงชันกว่าตอนขึ้นมาล่ะ ค่อยๆเดินลงบันไดด้วยความระมัดระวังใช้เวลาเกือบ 2 ชั่วโมงเราก็ลงมาถึงจุดเริ่มต้นเส้นทางศึกษาธรรมชาติถ้ำนาคากันแล้ว ณ เวลานี้กระเป๋าเดินทางของไกด์ผู้น่ารักคงเบาลงเยอะเพราะเราเอาทุกอย่างออกมาใช้หมดแล้วเหลือแค่ขวดเปล่าเป็นขยะที่ต้องเก็บลงมา และชุดปฐมพยาบาลที่ไม่ได้ใช้ และทั้งหมดนี้คือประสบการขึ้นถ้ำนาคา อุทยานแห่งชาติภูลังกา จ.บึงกาฬ ทั้งเหนื่อย สนุก ตื่นตาประทับใจ พวกเราใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมงในการเดินขึ้น-ลง รอคิวถ่ายรูป ขอพรและท่องเที่ยวครบทุกจุดบนเส้นทางศึกษาธรรมชาติถ้ำนาคา ยกเว้นน้ำตกตาดวิมานทิพย์ ต้องขอบคุณไกด์มากๆที่ดูแลดี ให้คำแนะนำโดยละเอียดตั้งแต่เราออกเดินทางจากกทม.เลย ถ้าใครมีแพลนจะมาเที่ยวภูลังกาแนะนำให้วางแผนและเตรียมร่างกายให้พร้อมค่ะ จะได้เที่ยวสนุก พิกัด : https://maps.app.goo.gl/2K5YQHkbSib4Pk6z8 เวลาทำการ : เปิดให้ขึ้นทุกวันตั้งแต่เวลา 06.00 - 14.00 น. รูปหน้าปกและภาพประกอบทั้งหมดถ่ายทำโดย Noonee อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !