หลังจากที่เราไปร่วมงานวิ่งมาราธอนที่บุรีรัมย์เรียบร้อยแล้ว เย็นวันนั้นเลยพากันเข้านอนตั้งแต่สองทุ่มเพราะเหนื่อยมากประกอบกับตื่นเช้าขั้นสุด หนังตาเลยหย่อนเร็วไปหน่อย เช้าวันถัดมาก็เตรียมตัวกลับบ้านที่กรุงเทพฯ แต่บังเอิญคุณเพื่อนอยากไปเที่ยวต่อ เธอเสนอว่าไหน ๆ ทุกคนลางานกันต่อแล้ว แล้วทำไมถึงไม่ไปเที่ยวอีกนิดแล้วค่อยกลับ สรุปที่ที่เราเลือกกันก็ “วนอุทยานเขากระโดง” ซึ่งอยู่ใกล้ที่พักแค่ 20 กม. ใช้เวลาเดินทางไปถึง 30 นาทีก็ถึงอุทยาน เครดิตภาพ : เจ้าของบทความ sakanaj. เอาเป็นว่าแค่เข้าเขตอุทยาน เราก็เห็นบันไดขั้นถี่ยิบและสูงมากมาแต่ไกล พูดกันเป็นเสียงเดียวว่า จะไหวใช่ไหม ที่ต้องถามกันเพราะเมื่อวานเพิ่งจบ Full marathon กันไป แล้ววันนี้คือต้องเดินขึ้นอุทยาน มันใช่จริงเหรอ พวกเราจะไหวนะ แต่สุดท้ายก็เป็นอันตกลงกันว่า ได้ อดทน ท่องไว้ เดินขึ้นก็แล้วกัน เครดิตภาพ : เจ้าของบทความ sakanaj. เราพาร่างหนาพร้อมเสียงหอบขึ้นไปด้านบน พอไปถึงได้เราก็ไปพักเหนื่อยกันที่ร้านค้าสวัสดิการก่อน จากนั้นก็พากันเดินสำรวจพื้นที่ จุดแรกที่เดินสำรวจก็เป็นรอยพระพุทธบาท เราไหว้สักการะ และในที่เดียวกันก็คือ ปราสาทขอมพันปี เราว่าเหมือนเป็นซากปรักหักพังซึ่งก็มีคนมาดูแล แต่เราชอบตรงที่ว่า เค้ายังรักษาความเป็นอารยธรรมดั้งเดิมไว้ ไม่ได้สร้างทับเลยดูขลังแบบบอกไม่ถูก อันนี้เราชอบจริงจังมาก เครดิตภาพ : เจ้าของบทความ sakanaj. แล้วจุดที่น่าสนใจอีกหนึ่งก็คือ โยนีปิศาจ หรือ มะกอกโคก ของทางอิสาน ต้นโยนีใหญ่มาก ซึ่งชื่อนี้มาจากตำนานพื้นบ้านของบุรีรัมย์ เรื่องคือ ผู้หญิงขอกลายร่างเป็นชาย จนกระทั่งบวช และขอกลายร่างกลับมาเป็นหญิงดังเดิม พออ่านประวัติต้นโยนีปิศาจเรียบร้อย เราก็ไปต่อที่ลานกว้างเพื่อไหว้ขอพรพระ เราไปยืนได้ไม่เกิน 5 นาที เหงื่อท่วมตัวเลย มันร้อนมาก จากนั้นก็เดินต่อไปจนถึงปากปล่องภูเขาไฟซึ่งที่เราเห็น มันเหมือนบ่อน้ำไม่ใหญ่มาก แต่ความลึกเราไม่แน่ใจ แต่เราตัดสินใจไม่เดินไปถึงสะพานเพราะร้อนมากและขาสั่นหมดแล้ว เครดิตภาพ : เจ้าของบทความ sakanaj. ทีนี้จุดสนใจอีกหนึ่งจุดคือ หินrock เราว่าบริเวณหินrock เหมือนเป็นเมืองโบราณอีกเมือง ลักษณะเหมือนล้อมรอบไปด้วยหินศิลาที่ก่อขึ้นมาสูง แต่ก่อนหน้านี้จะสูงขนาดไหนไม่แน่ใจ แล้วตรงกลางก็เป็นหินภูเขาไฟทั้งหมด ส่วนป่าโดยรอบก็แห้ง ๆ แต่แห้งแบบเป็นสีเหลืองทอง เราว่าบรรยากาศมันดูสวยมากกว่าแห้งแล้ง เครดิตภาพ : เจ้าของบทความ sakanaj. วนอุทยานเขากระโดง ถ้าใครได้มาช่วงฤดูฝนหรือฤดูหนาวน่าจะดีกว่า เพราะอาจไม่ร้อนมาก และป่าน่าจะเขียวกว่านี้ และที่สำคัญไม่น่าเชื่อว่า กลางเมืองบุรีรัมย์ จะมีป่าภูเขาไฟที่น่าเดินมาก ๆ ต้อนรับนักท่องเที่ยวอยู่ด้วย เครดิตภาพปก : เจ้าของบทความ sakanaj.