ถ้าเพื่อน ๆ ไม่รู้จะไปเที่ยวไหนดี เราขอแนะนำจังหวัดเล็กๆ ทางภาคเหนือ ที่โอบล้อมไปด้วยธรรมชาติภูเขา ไปใช้ชีวิตสโลว์ไลฟ์ที่จังหวัดน่านกัน ที่เต็มไปด้วยเสน์หของธรรมชาติ วิว สถานที่ท่องเที่ยววัฒนธรรมอันสวยงาม ที่ต้องยกให้จังหวัดน่านเลย การเดินทางไปจังหวัดน่านครั้งแรกของเรา 4 วัน 3 คืน ที่อำเภอปัวอำเภอบ่อเกลือจังหวัดน่าน ด้วยความที่เราจะเดินทางไปเที่ยวจังหวัดน่าน ในช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา ทำให้เราจองที่พักไว้เรียบร้อยแล้ว เพราะถ้าไม่รีบจองคงเต็มหมดแล้วแน่ ๆ ขนาดเราจองช่วงเดือนพฤจิกายนนะ เกือบจะเต็มหมดแล้วเลย เราออกเดินทางโดยรถส่วนตัว ช่วงเวลาประมาณ 1 ทุ่มครึ้ง จากกรุงเทพมหานครเพื่อออกเดินทางไปสู่จังหวัดน่าน และเราคิดไว้แล้วว่ารถจะต้องติด แล้วมันก็ติดจริง ๆ ด้วย เพราะเราออกเดินทางในช่วงวันหยุดยาวปีใหม่พอดี เราถึงจังหวัดน่านประมาณ 9 โมงเช้า ที่เที่ยวที่แรกของเราก็คือวัดพระธาตุเข้าน้อย เพื่อมากราบไหว้เอาฤกษ์เอาชัยก่อนการเดินทางในทริปนี้ ต้องยอมรับเลยว่าวิวสวยมาก ขนาดอยู่ในตัวเมืองน่านสามารถมองเห็นทิวทัศน์ โดยรอบของตัวเมืองน่านได้อย่างชัดเจน พอเราไหว้พระขอพรกันเสร็จเรียบร้อย เราออกเดินทางไปกันต่อที่วัดภูมินทร์ เป็นวัดที่ขึ้นชื่อของจังหวัดน่าน เกี่ยวกับภาพจิตรกรรมฝาหนังในวิหาร ในวัดภูมินทร์เป็นชาดกในพุทธศาสนา ภาพที่ทุกคนต้องสนใจคือ "ภาพปู่ม่านย่ามาน" ซึ่งเป็นคำเรียกผู้ชายผู้หญิงชาวไทลื้อในสมัยโบราณ กระซิบสนทนากัน ภาพนนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นภาพที่งามเป็นเยี่ยมของวัดภูมินทร์ และเป็นภาพที่ขึ้นชื่อของจังหวัดน่านที่ทุกคนต้องรู้จัก มาถึงจังหวัดน่านแล้วถ้าไม่ได้มาชมคงเสียดายสุด ๆ เลย เราออกเดินทางกันทางกันต่อจากตัวเมืองน่าน เพื่อมุ่งหน้าไปที่อำเภอปัวเป็นอีกหนึ่งอำเภอที่วิวสวยสถานที่เที่ยวเยอะ เราเดินทางไปกันที่ฟาร์มเห็ดบ้านหัวน้ำ ที่เค้ารีวิวกันมาว่าอร่อย น่าตาอาหารและบรรยากาศของวิวทุ่งนาภูเขาสีเขียวๆ เราไม่พลาดแน่ ๆ ที่จะไปลอง ทางร้านส่วนใหญ่จะเน้นเมนูที่ทำด้วยเห็ด เนื่องจากที่นี้คือฟาร์มเห็ดที่ผลิตเชื้อเห็ดที่ใหญ่ และไม่ควรพลาดเลยกับเมนูขึ้นชื่อของที่เลย พิซซ่าแสนอร่อย ก็อร่อยจริง ๆ แต่บอกก่อนนะที่นี่ตอนเรามาคนเยอะมาก ต้องจองคิวกันเลยทีเดียว เมื่อเรากินเสร็จ เราได้เดินทางไปเช็คอินที่พักที่หินผาโฮมสเตย์ อำเภอปัวจังหวัดน่าน เราได้ตัดสินใจเลือกพักที่นี้ 2 คืนเลย เพราะที่อื่นคงจะเต็มหมดแล้ว บอกเลยเราก็เกือบจองที่นี้ไม่ทันหมือนกัน เพราะที่นี้ก็กำลังจะเต็มแล้วเหมือนกัน ถือว่าเป็นความโชคดีของเราจริงๆ เมื่อเราเข้าไปถึงที่พัก โอโห! สวยมาก วิวดี อากาศดี ทุ่งนา ภูเขา สวนดอกไม้ที่ทางรีสอร์ทปลูกเอาไว้ คุ้มค่ามากที่ได้มาเจอที่พักอันนี้ เราเข้าที่พักประมาณ 4 โมงเย็นแล้ว เจ้าของรีสอร์ทตอนรับดีมาก ค่อยสอบถามเราตลอดว่าขาดเหลืออะไรไหม พูดจาดี บริการดี ใครกำลังหาที่พักแนะนะที่นี่เลยนะคะครบสุด ๆเจ้าของรีสอร์ทแนะนำให้เราไปเดินเที่ยวที่ตลาดคนเดินของอำเภอปัว ที่อยู่ไม่ไกลจากรีสอร์ทมากเท่าไร เราตัดสินใจไปอย่างไปรอช้า แต่เราต้องนอนพักกันก่อน เพราะเดินทางมาทั้งวันเหนื่อยสุด ๆ ตื่นมาอีกทีก็ 6 โมงเย็น เราเลยออกไปที่ตลาดคนเดินอำเภอปัว เพื่อไปหาของกินเอากลับไปกินที่รีสอร์ท ตลาดที่นี้ไม่ค่อยใหญ่มาก มีที่นั่งให้นักท่องเที่ยวได้นั่งกินอาหาร พร้อมทั้งได้ดูการแสดงของคนในหมู่บ้านด้วย (นั่งฟรีไม่เสียตังค์นะคะ) เกือบลืมเลยว่าที่นี้เปิดแค่วันศุกร์กับวันเสาร์นะ 17.30 - 21.30 น. เราซื้อของกินมานั่งกินกันที่รีสอร์ท นั่งชมวิวลมเย็น ๆ กินเสร็จเราก็สลบเลย ด้วยความที่เดินทางมาเหนื่อยและเพลียมาก เช้าอีกวันเรารีบตื่นมาดูวิวและบรรยากาศก่อนเลย ไม่ผิดหวังเลยที่ตื่นแต่เช้าเพื่อมาสูทบรรยากาศดี ๆ มาไม่เสียเที่ยวเลย ถ้ามีบ้านอยู่ที่นี้ก็คงจะดีพอประมาน 10 โมง เรารีบกินข้าวที่ทางรีสอร์ทเตรียมไว้ให้ แล้วรีบออกเดินทางไปกันต่อที่อำเภอบ่อเกลือ เป็นอำเภอที่ขึ้นชื่อของความสวยงามธรรมชาติของภูเขา เราเลือกที่จะขับรถไปทางถนนลอยฟ้า 1715 อำเภอปัว-อำเภอบ่อเกลือเพื่อชมความสวยงามของวิวที่ขึ้นชื่อว่า เป็นถนนที่สวยมากของจังหวัดน่าน แต่เราบอกก่อนว่ามันสวยจริง ๆ ถ้าใครมีโอกาศมาที่นี้ก็มาลืมแวะมาชมธรรมชาติตลอดทางของถนนสายนี้นะค่ะ เราแวะมาถ่ายรูปกันที่จุดชมวิว 1715 เป็นจุดถ่ายภาพที่คนขี่รถผ่านถนนลอยฟ้า 1715 ต้องแวะถ่ายภาพกัน เพราะวิวสวย เห็นภูเขาหลายๆลูกเรียงกัน อย่าลืมแวะมากินเผือกของชาวบ้านตรงนี้กันนะ เราว่ามันอร่อยดี พอเรามาถึงอำเภอบ่อเกลือ เราได้เข้าไปดูบ่อเกลือที่มีมาแต่โบราณมาอย่างยาวนานว่าเขาทำกันอย่างไร? มีมาตั้งแต่สมัยไหน ชาวบ้านที่นี้น่ารักมาก ถามอะไรไปแกตอบหมดเลย เรามาถึงที่นี้ก็ประมาณเที่ยง ๆ พอดีก็เลยแวะกินกินข้าวที่นี่ไปเลยแล้วกันและเดินถ่ายภาพชมความสวยงามของธรรมชาตินี้ ที่พักที่อำเภอบ่อเกลือนี้สวยมามีที่พักไม่ค่อยเยอะ เราจองไม่ทันสักที่ดันเต็มหมดแล้ว เสียใจมาก ๆ ใครจะมาช่วงมันหยุดยาว ให้รีบจองที่พักของอำเภอบ่อเกลือนะ เพราะมันจะเต็มเร็วมาก ๆ และเราได้เดินทางไปกันต่อที่หมูบ้านสะปันและด้วยเวลาอันน้อยนิด เพราะเรามาถึงที่นี้ก็เกือบๆ 14.00 น.แล้ว เราเลยเลือกที่จะไปเที่ยวที่น้ำตกสะปันแล้วกัน เป็นน้ำตกขนาดกลางมีน้ำไหลตลอดปี แต่มากน้อยตามฤดูกาล มีทั้งหมด 3 ชั้น แต่ละชั้นไม่สูงมากเท่าไร เราใช้เวลาเดินแค่แป๊ปเดียว ก็ดินมาถึงชั้นที่ 3 น้ำตกเงียบสงบไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกอะไรเลย เรามาเพื่อมาถ่ายรูปกับน้ำตก แล้วก็ชมธรรมชาติที่สมบูรณ์ของที่นี้ มองไปทางไหนก็เป็นสีเขียว ๆ ถ้าใครอยากได้รูปสวย ๆ แนะนำมาถ่ายรูปที่น้ำตกสะปันไม่ผิดหวังแน่นอน เราออกเดินทางจากอำเภอบ่อเกลือเพื่อกลับไปพักที่รีสอร์ทในอำเภอปัวเหมือนเดิม เพราะว่าเราจองที่พักในอำเภอบ่อเกลือไม่ทัน ถ้าใครชอบความสโลว์ไลฟ์เราแนะนำที่อำเภอบ่อเกลือกับหมู่บ้านสะปันเลย ถ้าได้พักที่นี้ไม่ผิดหวังแน่ ๆ ต้องกลับกรุงเทพฯ แล้วสินะ ยังไม่อยากกลับเลย ทำไมเวลามันเดินเร็วจัง ก่อนกลับเราได้แวะไปไหว้พระขอพรกันที่วัดภูเก็ตและได้ไปกินกาแฟที่ตูบนาไทลื้อ&ตูบนากาแฟน่านที่อยู่ติดกับวัดภูเก็ต ที่ไม่ไกลจากรีสอร์ทเรามากเท่าไรวัดและร้านกาแฟนี้เป็นที่ขึ้นชื่อของจังหวัดน่านเลยนะ ไม่มาก็ขอพรกับกินกาแฟก็ไม่ได้แล้วล่ะ วิวสวยมาก ๆ อย่าลืมแวะมาขอพรกับชิมกาแฟที่นี้กันนะ และเราก็เดินทางกลับกรุงเทพมหานครกันเลย.... จังหวัดน่านยังมีที่เที่ยวอีกมากมาย ที่เราเองก็ยังไม่ได้ไป เพราะด้วยเวลาที่เรานั้นมีกำจัด แต่เราต้องบอกเลยว่า จังหวัดน่านเป็นจังหวัดที่เราอยากจะกลับมาเที่ยวอีกอย่างแน่นอน ด้วยความเป็นธรรมชาติที่อุดสมบูรณ์ ที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน ถึงจะเป็นจังหวัดเล็ก ๆ แต่วิวระดับล้าน ต้องบอกเลยว่าคุ้มค่ามาก ๆ เป็นการพักผ่อนสำหรับเราที่ดีสุด ๆ ที่ได้มาเที่ยวในจังหวัดน่าน สูดบรรยากาศที่บริสุทธิ์ เห็นธรรมชาติที่สมบูรณ์แบบ แบบที่เราต้องการ ขอบคุณการเดินทางในครั้งนี้และเราจะกลับมารีวิวที่นี้อีกครั้งอย่างแน่นอน ค่าใช้จ่ายในทริปนี้ อย่างคร่าว ๆ ทริปนี้เราไปกันทั้งหมด 8 คนนะคะ) ค่าน้ำมัน 3,200 บาท ค่าที่พักคืนละ 2,500 บาท 2 คืน 5000 บาท ค่าอาหารที่ฟาร์มเห็ดบ้านหัวน้ำ 1,250 บาท ค่ากินข้าว น้ำ ขนม อื่นๆ และจิปาถะ ประมาณ 1,000 บาทค่ะ