เครดิตภาพจากผู้เขียน (ดร.อาบแสงจันทร์ ต.) วันนี้ผู้เขียนสายบุญมีสถานที่ท่องเที่ยวมานำเสนอนักเที่ยวสายบุญ สายวัฒนธรรมที่ชื่นชอบการทำบุญและการเปิดหูเปิดตากับสถานที่แปลก ๆ อีกแห่งหนึ่ง แน่นอนครับวันนี้ขอนำเสนอวัดที่เป็นทั้งสถานที่ท่องเที่ยว สถานศึกษา และเป็นสถานที่เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ทางพระพุทธศาสนาอีกแห่งหนึ่งในล้านนาก็ว่าได้ นั้นก็คือ “วัดบุพผาราม” หรือ“วัดสวนดอกไม้พะยอม” ครับซึ่งตามประวัติพระเจ้ากือนา ธรรมิกราชเป็นผู้ทรงพระราชทานอุทยานสวนดอกไม้ให้สร้างเป็นวัดเป็นที่สร้างวัดพร้อมกับพระราชทานนามวัดนี้ว่า “วัดบุปผาราม” ซึ่งหมายถึง วัดแห่งสวนดอกไม้ นั่นเองครับ แน่นอนครับว่าสองชื่อแรกนี้หลายท่านคงยังไม่ค่อยคุ้นหูแน่นอน แต่ถ้าผู้เขียนบอกว่า “วัดสวนดอก” คงจะพอนึกภาพกันออกใช่ไหมครับ (ต่อมานิยมเรียกว่าสัดสวนดอกจนมีชื่อว่าวัดสวนดอกมาจนปัจจุบัน) วัดสวนดอกนี้ตั้งอยู่ที่ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ ห่างจากประตูสวนดอกไปทาง ทิศตะวันตกประมาณ 1 กิโลเมตร ตรงกันข้ามกับคณะทันตแพทย์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ สำหรับการเดินทางนั้นไม่ยากเพราะหากนักเที่ยวไม่มีรถส่วนตัวหรือเดินทางแบบแบ็คแพ็ค ท่านสามารถใช้บริการรถสองล้อแดง (รถแดง) ประมาณ 20 บาทและแจ้งความประสงค์ว่าจะไปวัดสวนดอก ก็จะมีบริการส่งถึงหน้าวัดอย่างแน่นอน เครดิตภาพจากผู้เขียน (ดร.อาบแสงจันทร์ ต.) สิ่งแรกเมื่อนักเที่ยวเข้ามาในวัดด้านซ้ายจะพบกับสถานที่บรรจุอัฐิสีขาว (กู่เจ้าหลวง) ตั้งแต่ปฐมกษัตริย์ถึงพระองค์สุดท้าย พระประยูรญาติ ในตระกูล ณ เชียงใหม่ และผู้สืบเชื้อสายสกุลเจ้าเจ็ดตน ตั้งเรียกรายกันอย่างสะดุดตาสวยงามมากซึ่งจากที่ผู้เขียนเคยเห็นมาหลายที่แต่คาดว่าที่นี้คงจะมีกู่บรรจุอัฐิมากที่สุดก็น่าจะว่าได้ เครดิตภาพจากผู้เขียน (ดร.อาบแสงจันทร์ ต.) ต่อมาจะพบกับพระวิหารที่มีขนาดใหญ่ (วิหารหลวง มีขนาดใหญ่ที่สุดในภาคเหนือ) ถือว่าเป็นโบราณสถานที่มีความสำคัญอีกอย่างหนึ่งภายในวัดเหตุเพราะพระวิหารหลวงแห่งนี้ตามประวัติสร้างเมื่อพ.ศ.2474-2475 โดยครูบาเจ้าศรีวิชัยกับเจ้าแก้วนวรัฐเป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็กไม่มีผนังปิดทึบเหมือนวิหารแห่งอื่น ๆ มีเพียงแค่เหล็กดัดเป็นรูปลายแบบศิลปะล้านนาดูแล้วสวยงามมากทั้งบนพระวิหารได้ประดิษฐานพระประธานเป็นพระพุทธรูปปั้นแบบปางมารวิชัย ซึ่งเป็นพระพุทธรูปเก่าแก่มาก มีพระยืนที่สร้างขึ้นในสมัยครูบาศรีวิชัยนักบุญแห่งล้านนา พระเจ้าค่าคิงสร้างขึ้นในสมัยพระเจ้ากือนา ต่อมาด้านหลังพระวิหารมีพระเจดีย์ใหญ่ทรงลังกาบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ สร้างขึ้น ในสมัยพระเจ้ากือนาอีกเช่นกันครับซึ่งได้ประดิษฐานพระบรมธาตุเจ้าให้ประชาชน นักท่องเที่ยวทั่วไปได้เข้าสักการะกราบไว้ได้อีกด้วย เครดิตภาพจากผู้เขียน (ดร.อาบแสงจันทร์ ต.) ภายในวัดนักท่องเที่ยวจะพบกับวิหารหลังเล็กอีกหลังหนึ่งได้แก่ “วิหารพระเจ้าเก้าตื้อ” ซึ่งเป็นที่ประดิษฐาน “พระเจ้าเก้าตื้อ” ซึ่งเป็นพระพุทธรูปเก่าแก่หล่อด้วยทองสำริด ศิลปะแบบเชียงแสนฝีมือช่างล้านนาและสุโขทัย ปางมารวิชัย วิหารพระเจ้าเก้าตื้อนี้จะอยู่ข้าง ๆ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตเชียงใหม่นะครับ ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยที่เปิดทำการสอนในระดับปริญญาตรี-เอก สำหรับฆราวาสและพระภิกษุ-สามเณร เครดิตภาพจากผู้เขียน (ดร.อาบแสงจันทร์ ต.) นอกจากนี้ภายในวัดยังเป็นสถานที่ศึกษาที่เปิดสอนสายปริยัติธรรมแผนกสามัญ และบาลีตั้งแต่ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-6 อย่าลืมนะครับหากใครมีโอกาสผ่านไป ผ่านมาก็อย่าลืมมาแวะกันนาเพราะวัดสวนดอกนี้เป็นหนึ่งในวัดที่ต้องห้าม (พลาด) อีกหนึ่งวัดในจังหวัดเชียงใหม่นะครับ....