วันนั้นเมื่อเดินทางมาถึงตัวอำเภอเขมราฐเป็นเวลาเย็นแล้ว แถมท้องฟ้าที่ไล่หลังมายังมีเมฆดำทะมึนลอยต่ำ ฝนคงตกในไม่ช้า เร่งหาที่พักเข้าหลบฝนและพักผ่อน พรุ่งนี้ค่อยลุยกันต่อไป ค่ำคืนนี้คงหลับอย่างอบอุ่น โรแมนติก ที่ อ้อมกอดเขมราฐ จ.อุบลราชธานี วันรุ่งขึ้นร่องรอยของฝนยังคงมีให้เห็นร่องน้ำ รอยน้ำไหลที่พื้นดิน บางแห่งยังมีน้ำขังเฉอะแฉะอยู่อากาศเย็นสบาย อาบน้ำแต่งตัว เก็บเสื้อผ้าสิ่งของ ตรวจสภาพพื้นฐานของรถ ได้แก่ ยาง น้ำมันเครื่อง น้ำในหม้อระบายความร้อน โอเครพร้อม !!! ออกเดินทาง อาหารเช้าหรืออาจจะเป็นอาหารสายหรือสายมากไปหารับประทานข้างหน้า ร้านอาหารตามสั่งคงพอมีให้สั่งได้ มุ่งหน้าตามเส้นทาง เขมราฐ – สามพันโบก เป็นถนนลาดยางสองช่องจราจรค่อนข้างแคบไม่มีไหล่ทาง สภาพถนนดีแต่มีบางช่วงที่เป็นหลุมเป็นบ่อ สองข้างทางร่มรื่นมีต้นไม้ครึ้มทั้งสองข้างทาง กิ่งก้านของต้นไม้ที่สูงขึ้นแผ่ปกคลุมมายังถนน บางครั้งเหมือนถนนตรงเข้าไปในอุโมงค์ต้นไม้อย่างไรอย่างนั้น มีรถสัญจรไม่มาก ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงกว่า ๆ มาถึง สามพันโบก บ้านโป่งเป้า บ้านสองคอน อำเภอโพธิ์ไทร จังหวัดอุบลราชธานี... ที่จอดรถเป็นลานกว้าง ต้องเดินไปยังบริเวณจุดชมวิวริมฝั่งแม่น้ำโขง ซึ่งจะมีร้านขายของที่ระลึก อาหาร น้ำ ขนม ผลไม้ต่าง ๆ บริเวณนั้น รวมถึงเป็นคิวรถสองแถวที่จะนำนักท่องเที่ยวลงไปยังสามพันโบก ซึ่งสามพันโบกจะอยู่ต่ำลงไปกลางแม่น้ำ ถ้าจะเดินลงไปได้เองได้ไหม? ได้แต่จะใช้เวลามากและเหนื่อย สภาพพื้นที่สูงต่ำ เป็นลานหิน บางแห่งเป็นทรายเดินลำบาก บางแห่งเป็นแอ่งหินมีน้ำขัง นั่งรถสองแถวลงไปใช้เวลาประมาณเกือบ 30 นาที เมื่อลงจากรถสองแถวสามารถเดินเที่ยวชม ถ่ายภาพตามมุมที่แต่ละคนสนใจ. สามพันโบก เป็นแก่งหินกลางแม่น้ำโขงจะผุดขึ้นมาเมื่อระดับน้ำในแม่น้ำโขงลดลง ซึ่งช่วงที่ระดับน้ำในแม่น้ำโขงลดจะอยู่ในช่วงหน้าแล้ง ประมาณเดือนพฤศจิกายน ถึง เดือนพฤษภาคม มีลักษณะเป็นหินที่ถูกน้ำกัดเซาะเป็นแอ่งใหญ่บ้าง แอ่งเล็กบ้าง จำนวนมากมีประมาณ 3,000 แอ่ง ใช่แล้ว !!! มีคนนับจำนวนแอ่ง ส่วนจะเป็นใครไม่มีข้อมูลยืนยัน แต่ผลจากการนับจำนวนแอ่งนี้เองที่เป็นที่มาของชื่อ ในภาษาท้องถิ่นคนแถบนี้จะเรียกแอ่งว่า “โบก” จึงเป็นที่มาของชื่อสถานที่นี้ว่า “สามพันโบก” ... นอกจากจะมีแอ่งหินจำนวนมากแล้วยังมีหินรูปร่างต่าง ๆ บ้างคล้ายรูปหัวใจ บ้างคล้ายรูปวงรี คล้ายรูปดาว คล้ายรูปมิกกี้เมาส์อันนี้อิมพอร์ตจากต่างประเทศ จริง ๆ รูปร่างของหินคงเป็นไปตามความคิดจินตนาการ ประสบการณ์ของแต่ละคนมากว่า ไม่จำเป็นต้องเห็นหรือมองเป็นอย่างเดียวกัน บางแห่งจะเป็นเนินทราย มีน้ำขังอยู่เป็นบางช่วง เมื่อมองไปยังฝั่งตรงข้ามเป็นอีกประเทศหนึ่ง มีแม่น้ำกั้นกลางระหว่างไทยกับลาว... สำหรับผู้เขียน นี้ !!! เป็นครั้งแรกที่ได้มาสัมผัสสามพันโบกด้วยตนเอง อุทานในใจดัง ๆ โอ้โฮ !!! มโหฬารมาก ลานหิน แก่งหิน เวิ้งว้างกว้างใหญ่ รู้สึกอย่างจริงจังเลยว่า เราเป็นเพียงเม็ดทรายเม็ดเล็ก ๆ ในท่ามกลางเวิ้งหินที่สามพันโบกแห่งนี้ ยามลมพัดมาเหมือนจะล่องลอยหายไปกับสายลมได้ ล่องลอยไปที่ สามพันโบก...แห่ง...ความทรงจำ... ภาพโดย : ผู้เขียน