ช่วงวันหยุดยาวที่ผ่านมา รู้สึกว่าตัวเองเหน็ดเหนื่อยจากการทำงาน หรือ หนักหน่วงกับความคิดมาก เลยตัดสินใจไปเที่ยวผ่อนคลายสมอง ให้ตัวเองได้รู้สึกถึงความสดชื่น แจ่มใส ตอนแรกติสท์วางแผนว่าจะไปเที่ยวที่กาญจนบุรี แต่เนื่องจากฝนตกหนัก ทำให้เกิดน้ำท่วม จึงตัดสินใจไปเที่ยวที่อื่นแทน ซึ่งปัจจัยของพื้นที่ท่องเที่ยวที่เราอยากจะไปคือ1.ใกล้กรุงเทพมหานคร ไม่ต้องเดินทางไกล หรือ ใช้เวลาหลายชั่วโมง2.ต้องมีความเป็นธรรมชาติ เขาว่ากันว่า ถ้ารู้สึกเครียดให้มองอะไรสีเขียวๆ โทนเย็นๆ 3.นอกจากธรรมชาติแล้ว ก็อยากจะเที่ยวชมจุดอื่นๆ บ้าง เลขที่ออกจึงปรากฏเป็น จังหวัด สระบุรี! เพราะจังหวัดนี้ ไม่ได้มีดีแค่กะหรี่ปั๊บแน่นอน ฉะนั้นแล้ว ด้วยความเป็นติสท์เลยตัดสินใจ แว้นมอเตอร์ไซค์เดินทางไปยังจังหวัดสระบุรี ด้วยความที่ผิดแผนเลยไม่ได้จองที่พักไว้ แถมยังเป็นช่วงวันหยุดยาว แน่นอนว่า ที่พักต้องเต็มทุกที่แล้วแน่นอน **แนะนำให้จองที่พักล่วงหน้าอย่างน้อย 1 เดือน เพื่อไม่ให้เป็นการตื่นเต้นมากไป และไม่เสียใจที่หลังนะจ้ะ แต่ด้วยความโชคดี บวกกับความหน้าตาดี ของติสท์แล้ว ปรากฏว่าได้ที่พักแถวๆ แก่งคอย จึงตัดสินใจว่า เอาล่ะ!! เริ่มต้นเที่ยว จากเส้นทางนี้ได้เลย ออกเดินทางจาก กรุงเทพฯ เวลา 8.00 น. โดยประมาณ ใช้เวลาในการขับมอเตอร์ไซค์ ประมาณ 2-3 ชั่วโมง ซึ่งจุดแรกที่เราเดินทางไป คือ วัดถ้ำกระบอก หรือ สำนักสงฆ์ถ้ำกระบอก ซึ่งเป็นสถานที่บำบัดผู้ติดสารเสพติดและสุรา ก่อตั้งมานานตั้งแต่ปี พ.ศ. 2500 ภายในวัด จะมีจุดสำคัญ ก็คือ พระพุทธรูปหินลาวา ติสท์เคยเห็นผ่านๆ ตามาบ้าง มองในรูปภาพแล้ว ดูเหมือนจะเล็กๆ แต่ ขอบอกเลยว่า เป็นพระพุทธรูป ที่ดูอลังการ และน่าสนใจมาก พอติสท์เดินทางไปถึงวัด เผลอพูดออกมาตลอดว่า โอโห้ เดินไปตรงไหนก็ โอโห้ มันใหญ่มาก ตอนที่ติสท์ไป ดูเหมือนพระหลายรูปท่านกำลังปฏิสังขรณ์วัด หรือสถานที่อยู่ เลยไม่ได้เดินชมรอบๆ มากนัก แต่พระพุทธรูปหินลาวา ที่เห็น ต้องยอมรับเลยว่า สูง ใหญ่ และงดงามมาก ที่นี่ถึงได้ขึ้นชื่อว่าเป็นสถานที่ที่สร้างแรงบันดาลใจในการต่อสู้กับจิตใจตัวเองของหลายๆ คน เพราะพื้นที่นี้ทั้งสงบและดูมีจิตวิญญาณเปิดให้เยี่ยมชมทุกวัน เวลา 8.00 - 16.00 น. โดยประมาณสถานที่ตั้ง: ตำบลขุนโขลน อำเภอพระพุทธบาท จังหวัด สระบุรี เยี่ยมชมความอลังการของพระพุทธรูปหินลาวา แล้ว คงพลาดไม่ได้กับอีก 1 สถานที่ใกล้เคียง นั้นก็คือ วัดพระพุทธบาท ราชวรมหาวิหาร ซึ่งห่างจากวัดถ้ำกระบอก ประมาณ 7 กิโลเมตร อยู่ใกล้กันมาก ติสท์จึงขับมอเตอร์ไซค์ไปเยี่ยมชมวัดพระพุทธบาท เมื่อเดินทางไปถึงวัด ที่นี่ดูท่าจะมีคนเข้ามาเยี่ยมชมเป็นจำนวนมาก เพราะดูจากการจัดวางสถานที่ มีทั้งจุดให้ทำบุญ จุดถ่ายรูป รวมไปถึงตลาดของกิน ของฝาก และที่ขาดไม่ได้คือ จะมี พ่อค้า แม่ค้า เร่ถาม ให้ผู้ที่สนใจไปซื้อรางวัล...วัดแห่งนี้ เป็นที่ประดิษฐานของรอยพระพุทธบาท ซึ่งก่อตั้งขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยาของสมเด็จพระเจ้าทรงธรรม จุดสำคัญและสถานที่ต่างๆ ยังดูสวยงาม และถูกดูแล บูรณะ เป็นอย่างดี หลังจากเดินชมวัดแล้ว ก็แวะไปดูตลาด ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับวัด จะมีขายจำพวกของกิน สมุนไพรต่างๆ ของกินที่เห็นเยอะๆ จะเป็นกะหรี่ปั๊บ มัน เผือกเชื่อม ผลไม้ต่างๆ รวมไปถึงของทะเลแห้งก็มีขายเช่นกัน เปิดให้เยี่ยมชมทุกวัน เวลา 07.30 - 17.00 น. โดยประมาณสถานที่ตั้ง: วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร 19 หมู่ 8 ตำบลขุนโขลน อำเภอ พระพุทธบาท สระบุรี 18120 พอเดินได้หนำใจแล้ว ก็เลยตัดสินใจพอก่อน จึงเดินทางไปที่พักซึ่งที่พักอาจจะห่างไกลจากสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆ แต่ก็ยอมรับได้ พอถึงที่พักก็ของีบซะหน่อย พอตกเย็น รู้สึกว่าอยากจะไปหาอะไรกินอร่อยๆ เลยตัดสินใจแวะไปที่ ตลาดอิ่มเอม เป็นแหล่งรวมของกิน ของอร่อย เจ้าดังเจ้าเด็ด รวมตัวกันอยู่ที่ตลาดแห่งนี้ ซึ่งเป็นตลาดที่ใหญ่มาก มีที่จอดรถเพียบเลย ติสท์เลยได้ไปจอดรถหรูคู่ใจ อยู่ข้างๆ ตลาด มีโซนให้จอดมอเตอร์ไซค์เรียบร้อย มีแบ่งโซนอาหาร ของกิน ของหวาน และเสื้อผ้า ของใช้ ที่สำคัญมีดนตรีสดให้ฟัง คุณลุงร้องเพลงเพราะ ราวกับกลืนกินแผ่นเสียงเข้าไป เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 10.00 - 21.00 น. สถานที่ตั้ง: 77/7 ถ. มิตรภาพ ต.ปากเพรียว อ.เมืองสระบุรี จ.สระบุรี 18000 ติดตามข่าวสารได้ที่: ตลาดอิ่มเอม พอเช้าวันรุ่งขึ้น ติสท์ก็ทานอาหารที่โรงแรม แล้วก็ Check-out ออกจากโรงแรม แผนของวันนี้ก็คือ อยากจะไปเที่ยวน้ำตก ซึ่งน้ำตกที่โด่งดังของสระบุรี ก็คงหนีไม่พ้น อุทยานแห่งชาติน้ำตกเจ็ดสาวน้อย (Namtok Chet Sao Noi) ซึ่งวันที่ติสท์เดินทางไปเป็น วันสำคัญ จึงได้เข้าอุทยานฟรี แต่หากเป็นชาวต่างชาติ จะต้องเสียค่าเข้าอุทยานตามปกติ พอเดินทางเข้าไปในอุทยาน จะเจอกับทางเข้า ซึ่งจะมีร้านค้า ขายของจำพวก อาหารตามสั่ง ไก่ย่าง ส้มตำ ไข่ปิ้ง ผลไม้ น้ำดื่ม น้ำชง ขนมขบเคี้ยว หรือแม้กระทั่ง เสื้อผ้า เสื่อ และร่มขาย สามารถเตรียมอาหารมาเอง นั่งกินที่ร้าน หรือ ให้แม่ค้า พ่อค้า บรรจุใส่กล่อง ใส่ถุง เตรียมเข้าไปทานในน้ำตกได้เลย (ที่อุทยานมีป้ายแจ้งกำหนดอัตราคิดราคาค่าอาหารชัดเจน) มีโซนห้องอาบน้ำ และสุขา แบ่งแยกจุด และอยู่ห่างกันพอสมควร ระหว่าง ผู้ชายและผู้หญิง ถือว่าการจัดวางสถานที่ได้ค่อนข้างดี ขออนุญาตชื่นชมเป็นการส่วนตัว ห้องน้ำเอง ก็สูงลิบลิ่ว ไม่ต้องกลัว ว่าจะมีใครมาแอบดูแน่นอน ที่นี้ พอเดินเข้าไป เราจะเจอกับ ร้านกาแฟขนาดเล็ก มีพื้นที่ระเบียงให้นั่งชมน้ำตก และจิบกาแฟไปพลางๆ ด้วย ในอุทยานจะมีป้ายสัญลักษณ์ หรือป้ายบอกทางต่างๆ ไปครั้งแรกยังไม่หลงเลย รับรองได้ ที่อุทยานแห่งชาติน้ำตกเจ็ดสาวน้อยนี้ จะมีน้ำตกประมาณ 7 ชั้น ซึ่งติสท์เดินดูแค่ 4 ชั้นเอง และตัดสินใจนั่งสงบจิตสงบใจ กินไก่ย่าง ส้มตำ จิ้มข้าวเหนียว ที่น้ำตกชั้นที่ 4 บรรยากาศฟินดีมาก วันที่ไป เนื่องจากเป็นวันหยุด คนค่อนข้างเยอะ แต่ไม่หนาแน่น สามารถหาจุดนั่งผ่อนคลายได้เลย (ตามจุดต่างๆ จะมีเจ้าหน้าที่อุทยานค่อยสอดส่องดูแลความปลอดภัยให้อยู่ ไม่ต้องเป็นกังวลเลย) ช่วงที่ติสท์ไป เป็นช่วงฤดูฝน ฝนอาจจะตกทั้งวัน แต่ก็ไม่เกินใจ ก่อนจะได้เวลากลับบ้าน เลยลงไปเล่นน้ำตกซะหน่อย มาน้ำตกแล้วไม่ได้เล่นน้ำ ถือว่ามาไม่ถึง พอได้ลงเล่นน้ำ มีไอน้ำตก กลิ่นธรรมชาติ ฝนตกปรอยๆ ก็รู้สึกผ่อนคลายได้อีกแบบ เล่นน้ำพอแล้ว ก็อาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้า เดินทางกลับกรุงเทพฯโดยสวัสดิภาพเปิดให้บริการทุกวัน เวลา 08.00 - 17.00 น. โดยประมาณ สถานที่ตั้ง: หมู่ 9 บ้านแก่งหลุ ต.มวกเหล็ก อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี จริงๆ มีอีกหลายสถานที่ที่ติสท์อยากจะไป แต่ติดตรง ฝนตก ไม่สามารถขับมอเตอร์ไซค์ไปไหนได้มาก แต่หากใคร เดินทางด้วยรถยนต์แนะนำไปเที่ยวให้สุดๆ เลยนะคะ เพราะสระบุรี ไม่ได้มีดี แค่กะหรี่ปั๊บแน่นอน ขอคอนเฟิร์ม ที่เดียว เที่ยวให้ครบ จบที่ สระบุรี!! **ใครกังวลว่า หน้าฝน ไม่เหมาะกับเล่นน้ำ ก็สามารถติดตาม ความเคลื่อนไหว กิจกรรม หรือข่าวสาร ทางโซเชียลมีเดียของสถานที่นั้นๆ ได้เลย **ช่วงฤดูฝน หากไปเที่ยวไหน แนะนำให้พกร่ม หรือเสื้อกันฝน ติดตัวตลอดเวลานะคะ ขอขอบคุณภาพ จาก ทีมงาน มนุษย์สุดติสท์ เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !