ทริปนี้ เหตุเกิดจาก สอบ Proposal แล้วเครียด แบบสอบเสร็จล้มตัวลงนอนบนเตียง บอกตัวเองว่า ไม่ได้แล้วนะ เธอจะอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมนี้อีกต่อไปไม่ได้แล้ว เธอต้องออกไปท่องโลกกว้าง เปิดหู เปิดตา เปิดตัว เปิดทวารทั้ง 7จังหวัดน่านก็ลอยมาในหัวทันใด ด้วยความที่เดิม ชอบอ่าน ชอบดู ชอบหาที่เที่ยวอยู่แล้ว ปุบปับทริปก็เลยเกิดขึ้นภายในหัวของเราเพียงไม่กี่เสี่ยววินาทีว่า ต้องไป ต้องไปคิดคืนนั้น แพลนแล้วหาที่พักเลย บอกตัวเองว่า ไปนอนปัวก่อน อีกคืนต้องมานอนในเมืองนะ คิดแบบคร่าวๆมาก ก่อนไปนะคือไปทำไฮไลท์ผมทองมาทั้งหัวเลย เหมือนตอนนั้นฉีกกรอบของตัวเองออกมาแล้ว ทำผมเสร็จตอนเย็น กลางคืนไปเดินตลาดนัดรามอินทรา ออกเดินทางตอนเย็นของอีกวันเลย การเดินทางโดยรวมงับความที่เป็นคนไส้ตรงมาก ไม่ถนัดนั่งรถทัวร์เพราะว่า.......ไส้ตรงนั่นแหละ ไม่มีสาเหตุอื่น ไม่สามารถนั่งนานๆยาวๆโดยไม่เข้าห้องน้ำได้ เป็นคนชอบเลือก แม้ว่าตัวเองจะไม่ค่อยมีสิทธิเลือกก็ตาม สรุปก็เลือกไม่ได้อยู่ดีว่าต้องนั่งรถทัวร์นั่นแหละ คึๆ เพราะตั๋วเครื่องบินแพงมากกกกก (ไม่มีตังค์ค่า)นั่งรถทัวร์ของสมบัติทัวร์น่าจะใกล้เคียงกะนครชัยแอร์ (ทำการจองและดูตารางรถผ่านช่องทางออนไลน์ได้เลยค่า) เน้ เห็นคนรีวิวมามาก อยากสัมผัสซะหน่อย จะขนาดไหนเชียว เริ่มด้วยขึ้นรถตรงปั๊มน้ำมันแถวๆฟิวเจอร์รังสิต เอ คนนั่งข้างๆจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิงน้า แล้วถ้าเป็นผู้ชายจะหล่อมั้ยน้า (วันๆคิดอยู่แค่นี้) (ไม่กินอะไรไปเลยตั้งแต่บ่าย 3 เพราะ ไส้ตรงนั่นแหละค่ะ) และแล้วรถก็มา แก๊ นี่คือครั้งแรกของฉัน ในการสะพายกระเป๋าเป้ใบใหญ่ ขึ้นรถทัวร์ไปเที่ยวเหนือครั้งแรก และเป็นการนั่งรถทัวร์ในรอบ 6 ปี เลยก็ว่าได้ ตื่นเต้นมาก ชีวิตข้างหน้าจะเป็นยังไงกันนะ ขึ้นรถไปปุ๊บคนนั่งข้างๆเป็นผู้หญิงตัวขาวๆหน้าตาใจดี ไม่ดุ (เจอคนหน้าดุแล้วจะเป็นหมาหงอยทันที) ขึ้นปุ๊บก็รัดเข็มขัดเลย แล้วก็นั่งแข็งทื่อมาสักพักได้ พี่ผญ.ข้างๆบอกว่า เบาะปรับเอนนอนได้นะคะ ข้างหน้ายืดเท้าได้นะคะ คนน่านใจดีจัง เริ่มต้นทริปก็ดีแล้ว บรรยากาศในรถสะอาดมาก มีกลิ่นหอมอ่อนๆ และ แอร์เย็นสมคำร่ำลือค่ะ ผ้าห่มไม่สามารถโอบกอดความหนาวแล้วตัวใหญ่ๆของฉันได้เพียงพอจริมๆ ข้าวที่แจกบนรถเป็นข้าวไก่กระเทียมไข่ดาว ทานไข่ดาวไปฟองเดียวเพราะกลัวไส้ตรง และก็หลับไปด้วยความตื่นเต้น ถึงแล้วววววว พูดเป็นเล่น หลับตาแป๊บเดียว ถึงแล้วหรอ น่านไง รถสองแถวที่ไปปัวของฉัน อะเคร ใจชื้นขึ้นมาหน่อย แต่อันดับแรกเราต้องชำระล้างหน้าตาอันมันเมือกของเราก่อน ก็เข้าห้องน้ำที่บขส.เลย (ห้องน้ำโอเคอยู่) ทำทุกอย่างเสร็จสรรพ (แต่ไม่อาบน้ำ) และวางแผนไว้ว่าจะไปกินโจ๊กร้านดังก่อน ก็ขึ้นมอไซด์เลยจ้า ลุยค่ะลุย มาไกลขนาดนี้แล้ว (ปลอบใจตัวเอง) ขึ้นมอไซแล้วบอกไปร้านโจ๊กสองเมืองเลยค่ะ หิวมาก หิวตาลายจะกินหัวคนขับเข้าไปอยู่แล้ว เมื่อเราหิว ทุกอย่างบนโลกนี้จะอร่อยหมด น้ำเปล่าที่ร้านยังอร่อยเลย กินเสร็จปุ๊บมีแรงเดินขึ้นมา อ่านรีวิวในเพจอื่นๆเค้าบอกนี่นะเดินไปเลย ไม่ไกล ไปนู่นไปนี่ เดินผ่านโรงแรมนี้ อ๋อ ที่เคยหาเจอไง เดินคิดนั่นคิดนี่ เดินหาตลาด บอกตัวเองว่าต้องไปตักบาตรก่อน เอาฤกษ์เอาชัย ประเดิมด้วยความเป็นสิริมงคลและความเจิดจรัส แต่ทำไมมันไม่เหมือนที่เค้าบอกกกกกก มันไกลอยู่นะ และเราก็หลง และกระเป๋าก็หนัก แล้วเราก็อ้วน แง ก็เดินไปค่ะ เดินไปด้วยใจเด็ดเดี่ยวพร้อมโจ๊กที่เต็มกระเพาะ และแล้วก็ถึงที่หมายเป็นการประสบความสำเร็จอย่างนึงในการมาเที่ยวเลย ใจชื้น พอตักบาตรเสร็จเหมือนแต้มบุญที่ติดลบ มันขึ้นปรู๊ดมาเลยอะ อากาศก็เย็นๆลมพัดอ่อนๆ รู้สึกสวยขึ้นมาทันที อะไรๆก็ดีไปหมด หลังจากนั้นก็เดินชมบรรยากาศรอบตลาด เค้ากินอะไรกัน ขนมเหมือนบ้านเรามั้ยน้า เค้าใช้ชีวิตกันแบบไหน เดินดูไปดูมา เดินเรื่อยๆไม่มีความรีบเร่งใดๆในการมาเที่ยวครั้งนี้เลย บรรยากาศในเมืองค่อนข้างเงียบสงบ แดดอ่อนๆ และแล้วก็เดินถึงอีกวัดนึงค่า ทริปแสวงบุญของคนบาปได้เริ่มขึ้นล้าวว เจอวัดไหนเราไหว้หมด เราสู้ ด้วยความมาคนเดียวอะ อยากทำอะไรทำได้หมด ทำไปเลย มุ่งสู่สวรรค์ชั้น 7 เฮะ เฮะ เข้าไปไหว้พระในโบสถ์ แล้วเดินชมรอบๆวัด เดินชิวๆ ทั้งวัดมีแค่เราคนเดียว เอาจริง ถนนสายนั้นมีแค่ฉันคนเดียว เดินไปเรื่อยๆต่อเหมือนจะไหว้พระอีก 2 วัดโดยประมาณวัดดังเราไม่พลาด วัดภูมินทร์นั่นเอง มาถึงแล้วค่า วัดตะมุตะมิมากคิดถึงใคร นึกถึงใคร เขียนความคิดถึงลงบนโปสการ์ดแล้วส่งไปให้เค้าเลย (คิดถึงก็ต้องบอกสิ)อ่านรีวิวมาจะไปอีกวัดต่อก้อเลยเดินไปเรื่อยๆ แล้วก็เดินชิวไปเรื่อย ไปเรื่อยยย ก็ไม่ถึงสักที เอ ทำไมเหมือนเราเดินสวนทางกับ GPS บนมือถือเลยนะ เนตก็เหมือนไม่ค่อยจะดี แดดก็ร้อนแล้ว สรุปว่าหลง หลงจริง จริง ถามคนแถวนั้นแล้วก็ยังหลง เลยคิดว่าขึ้นมอไซก็ได้ แล้วยังไง มอไซไม่มี หาไม่เจอ ก็บอกแล้วว่าเมืองเค้าเงียบจริงๆ ไม่มีแม้แต่มอเตอร์ไซค์ เราก็เดินกันขาลากเพื่อหามอไซกันไปเลยค่ะ แล้วเราก็หากันจนเจออออออออออก็บอกพี่มอไซว่าไปวัดนี้นะ นึกว่าใกล้ ไม่เลยค่าาาาาา ไกลอยู่นา เข้าไปไหว้พระธาตุแช่แห้งกันต่อ เห็นมั้ยอะ เรามันคนมีบุญมาทีนึงได้ไหว้พระหลายวัดเลย พี่มอไซบอกว่าจะไปไหนต่อเดี๋ยวรอ เดี๋ยวพาไป ก็เอาเลย พี่รอตรงนี้นะคะ เดี๋ยวไปไหว้พระก่อน ไหว้เสร็จออกมาอุ้ย มีผู้ชายรอเราอยู่ (พี่วิน --") บอกพี่วินว่า พี่ขาจะไปปัว พาไปหารถ 2 แถวหน่อย จะไปปัว เค้าก็พาไปแถวสนามบิน ซึ่งไกลมากอยู่ เค้าบอกว่ารอตรงนี้นะ รถสองแถวจะผ่านมาทางนี้สีน้ำเงิน มาประมาณเวลานี้ (ก็ลืมถามว่าถ้าไม่มา หนูจะทำไงอะคะ) แนะนำดี ตอนรอก็คือตื่นเต้นมาก ถ้าไม่มีรถสองแถวมา จะทำยังไงต่อวะเนี่ย (ปุบปับทริปเล่นกุแล้ว) รอสักชั่วโมงอะ มีรถมา ถามคนแถวนั้นเค้าบอกขึ้นไปเลยจ้าน้องสาว แล้วฉันก็ขึ้นรถสองแถวมาแบบสวยๆ (โบกสะบัดพัดปลิวมากผมตีหน้าผั่บๆๆ) ที่อ่านรีวิวมาก็คือว่า ถ้าถึงใกล้ๆปัว ให้ถามรถสองแถวว่า เหมาได้ไหมคะ จะไปนี่ๆๆๆ แล้วระยะทางก็คือไกลอยู่ รถจอดไม่หยุด ก็คือจะลงทุกป้าย เพราะคิดว่าถึงปัวแล้ว ไม่ได้นอน เพราะเส้นเลือดทุกเส้นกระตุกหมด กลัวเลย กลัวอยู่ดีดีเอ้า ถึงพม่าแล้ว ไปค่ะไปหาหลัวอยู่พม่าเลย จบๆไป ก่อนถึงปัวจะถึงทองผาภูมิก่อน (ชื่อนี้ไหมนะ) ก็ถามเค้าอีกพี่คะนี่ปัวไหมคะ หึ ถามอยู่นั่น และแล้วคนบนรถก็ลงหมด เลยตะโกนไปถามคนขับรถว่า พี่ขาพาไปไหว้พระที่นี่หน่อย จากนั้นก้อดีลกัน เหมาจ่ายไป 600 บาท สำหรับการเหมารถ 2 แถวเที่ยวปัว (แพงไหมไม่รู้ แต่ก็จ่าย เพราะเราไม่ได้รวยแต่ฟุ่มเฟือยค่ะ) ไปเที่ยววัดแรกคือวัดบ้านเก๊ต ข้างล่างมีนาข้าวสุดลูกหูลูกตา ด้านหลังเป็นภูเขาสูงๆต่ำ วิวดีมากนะแต่อากาศก็ร้อนดีย์ ร้อนอยู่ เพราะจะเที่ยงแล้ว แสงแดดที่แยงตา ดีกว่าสายตาที่แยงใจ ก็ชมวิวไปเรื่อยๆ โดยมีลุงรถ 2 แถวนั่งรอเพื่อจะพาไปที่อื่นต่อ มาคนเดียวแต่ได้เที่ยว 2 คน จากนั้นไปไหว้อีก 1 วัด และก็ไปที่ COCOA VALLEY CAFE จริงๆชวนลุงแล้วนะ ไปลุงไปด้วยกันลุงก้อเกรงใจ เอาเลยลูกเดี๋ยวลุงรอบนรถ ก็เลยไปเพิ่มความเสี่ยงโรคเบาหวานต่อคนเดียว เดินชมวิว(ที่ร้อนๆ) นั่งพักเหนื่อย ยิ้มให้กับทุกอย่าง ทุกคน เพราะไม่รู้จักใคร จะทำอะไรก็ได้จ้าาาา ถ่ายรูปวนๆอยู่แถวนั้น เดินชมบรรยากาศภายในร้าน ช็อคโกแลตค่อนข้างเจ้มจ้นมาก แนะนำให้สั่งแบบหวานน้อย ถ้าคนรักสุขภาพ มีฟาร์มช็อคโกแลตที่นี่เลย เหมือนจะเปิดสอนการเรียนรู้กรรมวิธีการทำอะไรแบบนี้ด้วยนะคะ ถ้าจองมาก่อน จากนั้นก็ไปไหนต่อไหนต่อและเข้าที่พัก (แม้ลุงจะบอกว่า เที่ยวอีกไหมลูก ไปอีกๆ) คำว่าพักผ่อนของเราคือ พักผ่อนจริงๆ มานอน มากิน และมานอน กิกิ ลุงเฟรนลี่มากแนะนำให้ไปหลายๆที่อีกอินฟินิตี้มาก เนี่ยคนปัวเค้าใจดีเหมือนเพื่อนเราที่จากไปเลย และลุงก็มาส่ง ทำการเข้าพักที่ นันตราคีรี อ.ปัว จ.น่าน ที่พักไม่ผิดหวังเลยยยย แม้ว่าตอนจองผ่าน facebook จะมีคนรีวิวไม่เยอะ ลุ้นมาก คนไม่ค่อยรีวิวจะดีไหมนะ ผีหลอกไหมนะ แต่ขอรีวิวให้เจ้าของที่พักได้ไหม (หล่อด้วย) ดีมากนะ สะอาดมาก อาหารอร่อยมากกกกกก มื้อเย็นก็กินอาหารเย็นที่พักเลย รสชาติทุกอย่างคือถึงจริง ไปทานอาหารที่นี่ก็ไม่ต้องออกไปไหนแล้ว บริการดีมาก เพลงเพราะมากกกกก กินอิ่มๆกำลังจะกลับเข้าไปนอนตีพุงแล้ว ทางร้านเปิดเพลงเพราะบรรเลงขึ้นมา ช่วงนั้นยิ่งเฮิร์ทๆอยู่ นั่งกินเบียร์ต่อไปอีก 3 ป๋องจ้า (บรรยากาศมันพาไปจริงๆค่ะ ปกติไม่ใช่สายนี้เยย) วิวดี เป็นส่วนตัว เหมือนมาสวีทกับแฟนได้เลย (แต่ฉันไปคนเดียว เปล่าเปลี่ยนหัวใจ) ราคาดีมาก เจ้าของที่พักเห็นมาคนเดียว ให้ยืมรถมอไซไปแว้นในเมืองอีก อะไรกันนี่ เรามันคนแต้มบุญสูงเสียจริง หรือว่าเราสวยกันนะ (มโนแล้ว 1) แต่ไม่ได้ขับไป คือเลือกที่จะเดินชิวในที่พักไปมา เพราะว่ามันดี จนไม่อยากไปไหน พอใจแล้วที่จะอยู่ที่นี่แล้ว มันดีดีดีดีดีดีดี ดี๊ ดี ดี ตื่นเช้ามาถ่ายรูปกันเถอะ ไม่เห็นดวงอะไรสักดวงเพราะตื่นไม่ทัน (ทุกที) แต่ได้วิวดีๆ บรรยากาศดีๆ มีแค่เราและหนังสือเล่มน้อยๆ ปล่อยตัวปล่อยใจไปกับความเงียบรอบตัว ภารกิจการมาพักผ่อนคือคอมพลีทแล้ว อยู่กับธรรมชาติที่บริสุทธิ์ ตั้งกล่องถ่ายตัวเองไปคนเดียว ดมอากาศไปให้เต็มปอด สดชื่นเหมือนยืนอยู่บนไหล่เขากันเลยทีเดียวหลังจากนั้นก็นั่งรถสองแถวกลับเข้าไป อ.เมือง (บอกพี่ที่เคาน์เต้อว่า พี่ขา มีเบอร์มอเตอร์ไซค์แถวนี้ไหมคะ พาหนูไปส่งที่ท่ารถหน่อยนะค้า หนูจาไปในเมือง เค้าก็จัดแจงให้หมดเลย เห็นมั้ย บริการดีไม่ได้พูดเกินเลย) โดยมีภารกิจว่าคืนนี้ต้องไปกินขันโตก นั่งดูการแสดง และเดินถนนคนเดินให้ได้ เฮ้ ระหว่างทางนั่งรถกลับจากอ.ปัวมาในเมืองนั้น แม้นว่าเราจะมาเที่ยวคนเดียว แต่เราก็เจอแต่สิ่งดีๆ เจอคนหล่อแล้ว 1 บรรยากาศวันนี้ก้ดีขึ้นไปอีกถึงล้าววววววววว เปิดแมพแล้วใช้จิตวิญญานเอา ว่าลงตรงนี้นะ หรือลงตรงไหนก็แล้วแต่ เอาเป็นว่าลงจากรถก็เดินหาที่พัก พร้อมเป้ใบใหญ่ ฟีลเหมือนอุ้ย เราไปมาแล้วรอบโลก ก็คือจองที่พักอีกที่นึง แต่ดูแล้วไม่ค่อยปลอดภัย เดินหาที่พักใหม่ แล้วเต็มทุกที่ คืนนี้จะมีที่นอนไหมนะ แต่ตอนเดินหาเหนื่อยนะ แต่สนุกดี ลุ้นดี สรุปว่ามาได้ที่พักที่ภูมินทร์เพลส ซึ่งอยู่ตรงถนนคนเดินเลย ใครจะมาแนะนำเลยค่ะ สะอาด บริการดีอีกแล้ว เจอแต่คนดีดีนะทริปนี้ กินอิ่มปุ๊บ เดิน 2 ก้าวถึงที่พักเลย มีจักรยานให้ปั่นฟรีด้วยหละ อ่านรีวิวมาว่า .......... เค้าปั่นจักรยานกันเยอะมาก มั่นใจมากว่าต้องได้ปั่นแล้วหันไปยิ้มทักทายกับคนรู้จักใหม่ๆแน่ ก้อเลยปั่นไปไหว้ศาลหลักเมือง กับ คาเฟ่ร้านบ้านๆน่านๆ สรุปคือเหงามากกกกกกกกกกก มีเราปั่นอยู่คนเดียวทั้งอำเภอได้ 5555555555555แนะนำคาเฟ่ร้านนี้ ดีมาก ดีที่สุด ดีเกินจะบรรยาย มาน่านแล้วอย่าลืมไปร้านนี้นะ ปักหมุดเลย บรรยากาศแบบเข้าไปแล้วมีหนังสือวางอยู่เยอะๆ โครงสร้างเป็นไม้ ต้นไม้ร่มรื่น เป็นต้นไม้ที่ดูขึ้นแล้วสวยแบบธรรมชาติมาเลย ที่นี่มีที่พักแบบโฮสเทลด้วย ให้ความรู้สึกแบบคนเหนือๆ เนิบๆ ช้าๆ สบายๆ หรือเป็นเพราะเค้าเปิดเพลงเพราะๆด้วยไม่รู้ แต่ว่าดีย์ นั่งชิวได้ยาวๆ เลย นั่งชิวอยู่ร้านนี้นานมาก จนจะเย็นร้านจะปิดแล้ว รู้ตัวแล้วว่าควรออกมาจากร้านได้แล้ว ก็เลยปั่นจักรยานชมเมืองไปเรื่อยๆ และตอกย้ำตัวเองว่า มีเราคนเดียวที่ปั่นจักรยานจริงๆ 55555แต่มาคนเดียวอ่าเนาะ จะทำไรก็ได้ ไม่รู้จักใคร ปั่นไปเลย ปั่นวนอยู่นั่น สบายๆชิวๆ และสุดท้ายก้อเข้าที่พักเพื่อเตรียมตัวออกมาเดินถนนคนเดิน และกินขันโตก ซื้อของกินให้เต็มมือ แล้วไปหาที่นั่งว่างๆ วางของกินลงบนขันอันนั้น แล้วนั่งจกแบบไม่ลืมหูลืมตา เสียงดนตรีแบบเหนือๆ การแสดงฟ้อนรำแบบเหนือๆ บรรยากาศดีมาก แบบโอเคมากกกกกกก ฉันมาถึงน่านแล้ว อิ่มเอม ปลื้มปลิ่มใจมาก ใครไปน่าน ต้องมาที่นี่ ย้ำว่าต้องมานะ เมื่อเราบันเทิงเริงใจ เริงร่า ระริกระรี้ กับการชมการแสดงเสร็จ กินอิ่มเสร็จ ตลาดเริ่มจะปิดแล้วเพราะมืดแล้ว ก็เดินกลับที่พักได้อย่างปลอดภัย และไม่เกรงกลัวสิ่งใดเพราะ 2 ก้าวก็ถึงที่พักแล้ว โอ้โห มันดีอะไรแบบนี้ มาเถอะมา หลังจากหลับตาลงด้วยความอิ่มท้อง และอิ่มใจกับการมาเที่ยวครั้งนี้ ตื่นเช้ามาที่พักมีอาหารเช้าให้เรียบร้อยนะคะ เป็นอาหารเหนือๆหมดเลยจ้าววว ทานแล้วรู้สึกเป็นผู้หญิงผิวขาวตัวเล็กขึ้นมาทันที อิอิ (แม้ตัวจริงจะตรงข้ามก็ตาม)วันกลับ ไม่อยากกลับเลย งือออ แต่ว่าตังค์หมดแล้ว แถมมีติดเรียนด้วย เดินทางจากไปด้วยความเศร้าสร้อยขากลับก็นั่งรถทัวร์กลับเหมือนเดิม ภารกิจทุกอย่างเสร็จสมบูรณ์ ได้มาไหว้พระ ได้มาเที่ยวแบบเป็นตัวของตัวเอง ไม่ต้องสนใจอะไรเลย วางความยึดติด ความคาดหวังในตัวเองลงหมดทุกอย่าง ฉีกกรอบที่เคยล้อมตัวเองออกไปหมด แล้วรู้สึกว่าขอบคุณตัวเองที่พาตัวเองมาได้ แม้ว่ากลับไปจะต้องไปลุยธีสิส ทำงาน หรือกลับไปแบกอะไรไว้ต่อก็ตามแต่ ใครที่รู้สึกอึดอัด ไม่ไหวแล้ว ออกมาเถอะนะ ออกมา มาเลย เก็บกระเป๋า แล้วไปดูดบ้องกันเถอะ อะหยอกๆ ^^ เก็บกระเป๋าแล้วไปท่องโลกกันเถอะ Let's go ปล.ภาพถ่ายทุกภาพถ่ายเองหมดเลยนะคะ (ก็เลยออกมาไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ แต่ก็ได้อยู่นะ) อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !