สวัสดีเพื่อน ๆ วันนี้อยากชวนทุกคนไปหาที่หย่อนใจ หลีกหนีความวุ่นวาย แต่ก็ไม่อยากไปไกลถึงต่างจังหวัด เลยปักหมุดมาที่นี่เลยค่ะ "บ้านบางเขน" แค่ชื่อก็พอจะทราบกันแล้วใช่ไหมคะ ว่าตั้งอยู่แถวไหน อิอิ "บ้านบางเขน" เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแนวย้อนยุค ที่จำลองบรรยากาศในอดีต ในรูปแบบคาเฟ่กึ่งพิพิธภัณฑ์ ตั้งอยู่ในพื้นที่บางเขน เขตจตุจักร อยู่ตรงข้ามกับราบ 11 ถัดจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ไปไม่ไกลนัก ปักหมุดใน Google Map ได้เลยจ้า หากไม่ได้ขับรถยนต์มาเอง ก็สามารถเดินทางโดย BTS มาลงสถานีเกษตร และต่อรถเมล์ รถแท็กซี่ หรือพี่วินไปอีกนี้ดดดด ก็ถึงแล้วค่ะ ภายในจะตกแต่งด้วยสีเขียวของต้นไม้ ท่ามกลางบรรยากาศสีซีเปียสุดคลาสสิค เป็น Mood and Tone ที่ชวนให้คิดถึงวันวานมาก ๆ เลย โดยเฉพาะคนที่อายุ 30 ขึ้นไป มาเที่ยวที่นี่ รับรองว่าต้องมีคิดถึงอดีตกันบ้างล่ะ สำหรับใครที่ไม่รู้ว่าวันหยุดจะไปไหนดี อยากทั้งเที่ยวพักผ่อน อยากทั้งหาอะไรรับประทานอิ่ม ๆ แต่ก็ไม่อยากไปห้างฯ แนะนำให้มาที่นี่เลยค่ะ นอกจากจะมีที่ให้เที่ยวหย่อนใจแล้ว ยังมีทั้งร้านอาหารน้อยใหญ่ ให้เลือกซื้อและนั่งรับประทานกันตามสบาย ที่อยากแนะนำเป็นพิเศษเลยคือ "สุกี้ตี๋น้อย" บุฟเฟ่ต์สุกี้ราคาน่ารัก แถมอร่อยมาก ๆ เลยค่ะ เมนูหลากหลาย ด้วยวัตถุดิบคัดสรรพิเศษทั้งนั้น น้ำจิ้มก็ถึงใจที่สุดอย่าบอกใครเลย (ไม่ได้ค่าโฆษณานะคะ ฮ่า ๆ ๆ) ร้านตั้งอยู่หน้าทางเข้าบ้านบางเขน แวะรับประทานกันให้อร่อยจุใจ ก่อนเข้าไปเที่ยวหย่อนใจกันต่อค่ะ และพิเศษมาก ๆ สำหรับลูกค้าร้านสุกี้ตี๋น้อย สามารถเข้าไปเที่ยวในบ้านบางเขนได้ฟรี ไม่ต้องเสียค่าบัตรเพิ่ม แต่ค่าบัตรก็ไม่ได้แพงเลยค่ะ คนละ 20 บาท เท่านั้นเอง และยังสามารถนำคูปองไปแลกน้ำดื่ม หรือใช้เป็นส่วนลดในร้านคาเฟ่ได้ด้วยค่ะ อิ่มจุใจกันแล้ว ก็ไปเที่ยวข้างในบ้านบางเขนกันค่ะ ภายในจะมีพิพิธภัณฑ์จำลองร้านค้าในอดีต ให้บรรยากาศคล้าย ๆ "เพลินวาน" ที่หัวหิน แต่ด้วยพื้นที่ในเมืองที่จำกัด ก็อาจจะไม่จุใจพอ แต่ความคิดถึงวันวานที่ได้สัมผัส อิ่มใจกันไม่มากก็น้อยล่ะค่ะ ที่โซนหนึ่งภายในบ้านบางเขน จะจำลองบรรยากาศของร้านค้าในอดีต มีผลิตภัณฑ์ที่เคยจำหน่ายในอดีตตั้งโชว์ในตู้กระจก ชวนให้คิดถึงวัยเด็กเชียวล่ะค่ะ ส่วนตัวชอบมุมนี้มากเลยค่ะ ร้านทีวี และบาร์เบอร์ซาลอน ชวนให้คิดถึงตอนอนุบาลที่ร้องไห้เพราะโดนจับตัดผม ฮ่า ๆ ๆ ทีวีขาวดำและโทรศัพท์ทรงคลาสสิค เป็นมุมมหาชนที่หลายคนได้ภาพกลับไปกันเยอะทีเดียว ที่นี่สามารถถ่ายรูปได้ทุกมุม สิ่งของที่จัดแสดงเมื่อหยิบจับมาเป็นพร็อพสำหรับถ่ายรูปแล้ว ก็ควรนำเก็บที่เดิม แม้จะไม่มีป้ายห้ามจับเป็นกิจลักษณะ แต่ก็ควรหยิบจับกันแค่พองาม ไม่ทำให้เกิดความเสียหายนะคะ ของเก่าหลายชิ้นที่นี่อาจมีมูลค่าสูง เมื่อเทียบกับวันเวลาที่ผ่านไปเรื่อย ๆ เจ้าของเขาคงเสียใจถ้ารู้ว่ามีชิ้นไหนต้องพังลง เป็นจิตสำนึกในการท่องเที่ยวขั้นพื้นฐาน ช่วย ๆ กันดูแลนะคะ โซนนี้ชวนให้คิดถึงบรรยากาศห้องเรียนตอนประถม คิดถึงโต๊ะไม้สีมะฮอกกานี ที่แอบมือบอนเอาไม้บรรทัดขูด เอาลิขวิดไปเขียน แล้วก็โดนทำโทษให้ขูดออกให้หมด ฮ่า ๆ ๆ คิดถึงแผนที่ประเทศไทยหลังห้อง คิดถึงการจัดบอร์ดในวันสำคัญต่าง ๆ คิดถึงการทำเวรประจำวัน อดรู้สึกไม่ได้ ว่าอยากกลับไปเป็นเด็กอีกครั้งจังเลย เลิกเรียนก็เอาเงินค่าขนมที่เหลือ ไปหยอดเพื่อหมุนไข่ลัคกี้ จำได้ว่าได้แต่แหวนพลาสติก กับตุ๊กตาดราก้อนบอลตัวน้อย ๆ ไม่รู้กี่สิบชิ้น ทั้งที่ไม่เคยได้รางวัลอะไรดี ๆ เลย แต่ก็ยังชอบหมุน คงเพราะเป็นความลุ้น ความตื่นเต้นแบบเด็ก ๆ ล่ะมั้งเนอะ ยุค 90's เป็นอะไรที่คลาสสิคที่สุดแล้ว ให้พูดถึงเสน่ห์ของยุคนั้นอีกกี่ทีก็ไม่มีเบื่อค่ะ มุมถ่ายรูปที่นี่เยอะมากค่ะ เรียกได้ว่ามาครั้งเดียว ได้รูปกลับไปโพสต์ลง Social Media ได้ทั้งปี ฮ่า ๆ ๆ นอกจากซนพิพิธภัณฑ์ ที่นี่ยังมีคาเฟ่ให้นั่งหย่อนใจกันด้วยค่ะ เป็นที่นิยมมากสำหรับนักเรียน นักศึกษา เพราะมีทั้ง Wi-Fi และปลั๊กไฟ ให้นั่งทำงาน นั่งติวหนังสือกันได้ทั้งวันทั้งคืน ต้องบอกว่าทั้งวันทั้งคืนจริง ๆ เพราะที่นี่เขาเปิด 24 ชั่วโมงเลยค่ะบรรยากาศด้านในคาเฟ่ โล่งและกว้าง พื้นที่ใช้สอยเยอะมาก ๆ เลยค่ะ แบ่งเป็นหลายโซน มีโซนที่จัดสรรเป็นห้องเล็ก ๆ มีความส่วนตัว เหมาะสำหรับการติวหนังสือในกลุ่มเพื่อน หรือใครอยากจะมีมุมสงบ ๆ ของตัวเอง ทางคาเฟ่ก็จัดสรรไว้ให้ นอกจากนี้ถ้าเพื่อน ๆ อยากจัดงานสังสรรค์เล็ก ๆ อย่างปาร์ตี้วันเกิด ทางคาเฟ่ก็มีโซนสำหรับให้บริการค่า ขนมหวานและเครื่องดื่มก็รสชาติดีทีเดียว แม้ราคาอาจจะสูงไปนิด แต่ถ้าเทียบกับ Facilities ที่ลูกค้าได้รับ ก็ถือว่าคุ้มมาก ๆ เลยค่ะ ไม่แปลกใจเลยถ้าคาเฟ่จะมีคนเต็มตลอด ทั้งขาจร และลูกค้าประจำ บอกเลยว่า มาที่นี่วันเดียว สามารถนั่งพักผ่อนได้ทั้งวัน นั่งเพลิน ดนตรีก็เพราะ จนแทบลืมวันเวลาเลยทีเดียวค่ะ รู้สึกตัวอีกทีก็ค่ำแล้ว แต่แม้จะค่ำ ความงดงามของบ้านบางเขนก็ยังคงทำงาน แสงไฟสีส้มที่เปิดทั่วบริเวณ ให้ความรู้สึกอบอุ่น และสวยงามสำหรับการถ่ายรูปมาก ๆ นอกจากโซนร้านค้าเก่า และคาเฟ่แล้ว ที่นี่ยังมี "พิพิธภัณฑ์โค้ก" ที่บอกเล่าความเป็นมาของผลิตภัณฑ์ชื่อดังนี้ เป็นที่จัดแสดงของสะสมของโค้กที่น่าตื่นตาตื่นใจทีเดียวค่ะ เหมาะมาก ๆ สำหรับใครที่ชื่นชอบในของสะสมเก่า ๆ และที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลย คือ "บ้านพ่อหลวง" พิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงของสะสมที่ระลึกถึงในหลวงรัชกาลที่ 9 และยังเป็นนิทรรศการที่บอกเล่าเรื่องราวพระราชกรณียกิจของพระองค์ เพื่อเทิดพระเกียรติ หลายชิ้นงานเป็นของสะสมที่หาดูยาก อยากจะเชิญชวนให้มาชมกันค่ะ ขอปิดท้ายด้วยภาพนี้ เพื่อระลึกถึงพ่อหลวง ร.9 เป็นพระราชดำรัสที่หลายคนคงเคยได้เห็นได้ยินกันมาบ้างแล้ว ขอเก็บไว้เตือนสติตนเองให้ระลึกเสมอ ว่าทำไมเราถึงต้องหมั่นทำความดีกัน "การทำดีนั้นทำยากและได้ผลช้า...แต่จำเป็นต้องทำ เพราะหาไม่...ความชั่วซึ่งทำได้ง่ายจะเข้ามาแทนที่ และจะพอกพูนขึ้นอย่างรวดเร็วโดยไม่ทันรู้สึกตัว..." ที่อยู่ : 104/58 ถนน พหลโยธิน แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร 10220 GPS : 13.864357, 100.588696 เบอร์ติดต่อ : 085-9216666 Facebook Fanpage : https://www.facebook.com/baanbangkhen เวลาทำการ : เปิดให้เข้าชม 24 ชั่วโมง (เฉพาะโซนพิพิธภัณฑ์และคาเฟ่ด้านใน แต่ร้านอาหารด้านนอกจะปิดประมาณ 3-4 ทุ่ม ค่ะ) ค่าเข้าชม : 20 บาท (สามารถแลกน้ำดื่มได้ 1 ขวด หรือนำไปเป็นส่วนลดในร้านคาเฟ่ หากเป็นลูกค้าร้านสุกี้ตี๋น้อย เข้าชมได้ฟรีค่ะ) เรื่อง-ภาพ : ดารัณ พันสวะนัด (ผู้เขียน)