ถ้าพูดถึงแหล่งท่องเที่ยวต่างจังหวัดที่ใกล้เมืองหลวงอย่าง “สุพรรณบุรี” ผู้คนส่วนใหญ่คงนึกถึงบึงฉวาก บ้านควาย ตลาดสามชุก และสำเนียงเสียง “เหน่อ” อันเป็นเอกลักษณ์ของคนสุพรรณบุรีใช่ไหมค่ะ แต่แหล่งท่องเที่ยวแบบธรรมชาติ สายลมแสงแดด ภูเขาลำธาร ก็มีกับเขาเหมือนกันนะจ๊ะ แถมยังสวยอีกด้วย ...และใช่ค่ะ! วันนี้เราจะพาทุกคนไปเที่ยวสุพรรณบุรีกัน ซึ่งทริปครั้งนี้ไปเที่ยวตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมานี้เอง แต่เราอยากแชร์ภาพวิวสวย ๆ ความทรงจำและบรรยากาศดี ๆ ที่ยังไม่ลืมผ่านบทความให้ชาว True ID ทุกคนได้อ่านและชมกัน ว่าทริปสุดชิวนี้จะมีภาพที่เต็มไปด้วยบรรยากาศแห่งความสุขแค่ไหน ภาพถ่ายโดย: เจ้าของบทความ จุดมุ่งหมายของเราในทริปนี้คือ “อ่างเก็บน้ำหุบเขาวง อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี” หรือที่เรียกอีกอย่างว่า “ปางอุ๋งสุพรรณ” นั่นเอง ซึ่งทุก ๆ ปีเขาจะ “เปิดบริการแค่ช่วงกลางเดือนสิงหาคม – มีนาคมเท่านั้น” ว่าแล้วเราก็ขอพาทุกคนเดินทางมุ่งหน้าไปอำเภอด่านช้างกันทันที เมื่อเดินทางมาถึงตัวชุมชนบ้านพุน้ำร้อนแล้ว จากปากทางเข้าวัดพุน้ำร้อนจนถึงอ่างเก็บน้ำหุบเขาวง รวมระยะทางประมาณ 9 กม. เป็นทางลาดยางประมาณ 7 กม. และเป็นทางลูกรังอีกประมาณ 2 กม. เมื่อขับผ่านศาลเล็ก ๆ บริเวณหน้าเขาเข้าไปแล้ว สัญญาณโทรศัพท์มือถือก็จะถูกตัดทันที เพราะอ่างเก็บน้ำที่นี่ตั้งอยู่กลางหุบเขา ทำให้สัญญาณโทรศัพท์เข้าถึงได้ยาก ถ้าใครโชคดีก็จะมีขีดสัญญาณโทรศัพท์อยู่บ้าง แล้วแต่เครือข่าย แต่ส่วนใหญ่คือดับสนิท555 เมื่อขับถึงเขตอ่างเก็บน้ำหุบเขาวงแล้ว จะมีป้ายอ่างเก็บน้ำหุบเขาวง ป่าชุชม บ้านพุน้ำร้อน - หินลาด ซึ่งเขาจะเก็บค่าบำรุงสถานที่ รถยนต์คันละ 20 บาท ส่วนรถจักรยานยนต์คันละ 10 บาท ภาพถ่ายโดย: เจ้าของบทความ เมื่อขับเขาไปถึงอ่างเก็บน้ำแล้วจะเจอร้านค้าสหกรณ์ชุมชน เป็นเรือนไม้ทรงโปร่งโล่งสบาย และร้านค้าขายอาหารของคนในชุมชนไว้รองรับนักท่องเที่ยวอีกด้วย ซึ่งจุดนี้เป็นจุดติดต่อเรื่องต่าง ๆ ของที่พัก ทั้งอาหาร ทั้งแพ และการกางเต็นท์ อีกทั้งเราสามารถนั่งทานอาหารกันที่นี่ หรือจะสั่งเข้าไปยังที่พักก็ได้ค่ะ ราคาอาหารก็ไม่แพงเลย เป็นชุดขันโตก ชุดละ 390 บาท มีข้าวสวย ปลาเผา น้ำพริก ผักต้ม ไข่เจียว ต้มยำ ชุดหนึ่งทานได้ 4 - 5 คนเลยค่ะ อิ่มอร่อยมาก ๆ ส่วนที่พักถ้าใครต้องการนอนแพ มีทั้งแพใหญ่และแพเล็ก ราคาแพเล็กคือ 400 บาท/หลัง แพใหญ่ 2,000 บาท/หลัง ทำให้ที่นี่สามารถรองรับนักท่องเที่ยว ทั้งแบบลุยเดี่ยว มาเป็นแก๊งค์ หรือครอบครัวได้หมดเลย แต่สายลุยอย่างเราเลือกนอนเต็นท์ค่ะ ภาพถ่ายโดย: เจ้าของบทความ จุดกางเต็นท์ของที่นี่เป็นลานกว้างที่อยู่ริมขอบอ่างเก็บน้ำที่มีขุนเขาล้อมรอบ เราเลือกจุดกางเต็นท์บริเวณที่ใกล้น้ำที่สุด เพื่อจะได้ดื่มด่ำบรรยากาศของธรรมชาติได้แบบเต็ม ๆ ถ้าใครนำเต็นท์มาเองเสียค่าบริการหลังละ 100 บาท แต่ถ้าเช่าเต็นท์ของสถานที่ราคาหลังละ 170 บาท มีหมอน ผ้าห่มให้ด้วย แถมพนักงานยังบริการกางให้เรียบร้อยพร้อมนอนได้เลย คุ้มมาก!!! ภาพถ่ายโดย: เจ้าของบทความ เมื่อพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า ท้องฟ้าถูกแทนที่ด้วยแสงดวงจันทร์และดวงดาว จากนั่งปาร์ตี้ยามเย็นกัน เราก็ถึงช่วงเวลานอนดูดาว ขอบอกเลยว่าบรรยากาศดีงามมาก เหมือนได้ปล่อยวางและตัดขาดความวุ่นวายจากโลกภายนอก เพราะที่นี่มีกฎระเบียบว่า หลัง 3 ทุ่มเป็นต้นไป ห้ามส่งเสียงดังเพราะจะไปรบกวนแขกคนอื่น ๆ ที่มาพักผ่อนได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีมาก นอนฟังเสียงธรรมชาติกับอากาศเย็นๆ กลางหุบเขา เสียงปลาเล็กปลาน้อยกระโดดเล่นน้ำข้างเต็นท์ ยิ่งดึกอากาศยิ่งหนาว แต่ดาวบนท้องฟ้ายิ่งชัด แข่งกันส่องแสงระยิบระยับ เผลอ ๆ อาจได้เห็นดาวตกอีกด้วย บรรยากาศมันดีมากจริง ๆ ไม่ต้องคิดอะไร เพียงแค่ได้เห็นธรรมชาติตรงข้างหน้าก็เหมือนได้ชาร์ตพลังงานแล้ว ภาพถ่ายโดย: เจ้าของบทความ ตื่นเช้าขึ้นมาอีกวัน ก็จะได้พบกับวิวหน้าเต็นท์บรรยากาศสวย ๆ ของธรรมชาติ ทั้งภูเขา และสายน้ำที่มีหมอกลอยอ้อยอิ่งเหนือผิวน้ำให้เราได้เห็นกันจาง ๆ พร้อมดื่มด่ำกับอากาศบริสุทธิ์ นั่งจิบกาแฟ ขนมปัง ไข่ดาวชิว ๆ แล้วทอดสายตามองธรรมชาติแบบพาโนราม่าตรงข้างหน้า รู้สึกดีจนบรรยายไม่ถูกเลย ภาพถ่ายโดย: เจ้าของบทความ อีกกิจกรรมหนึ่งที่มาแล้วต้องได้ทำคือ การพายเรือคายัค เสียค่าเช่าเรือลำละ 50 บาท/ชั่วโมง พายดูบรรยากาศสงบ ๆ เสียงแจวเรือเรียบชายเขาดูต้นไม้ ภูเขาไปเรื่อย ๆ ก็มีความสุขแล้ว หรือจะพายเรือแข่งกันก็สนุกสนานไปอีกแบบ ได้ชมธรรมชาติและได้ออกกำลังกายไปในตัว นอกจากนี้เขายังมีบริการเรือเป็ด และจักรยานไว้ปั่นชมบรรยากาศรอบ ๆ อ่างเก็บน้ำอีกด้วย ภาพถ่ายโดย: เจ้าของบทความ ก่อนกลับเราก็แวะไปชิมเครื่องดื่มเย็น ๆ ที่แพกลางน้ำ แถมราคาไม่แพงอีกด้วย บรรยากาศการนั่งจิบเครื่องดื่มเย็น ๆ จากแพกลางน้ำ ได้มองออกไปรอบ ๆ มันสวยมาก เห็นภูเขาแบบ 360 องศา สายลมที่ปะทะเข้าหน้า ฟินสุด ๆ ไปเลยค่ะ บรรยากาศมันดี มันอิ่มเอม จนอยากขอพักสักงีบจริง ๆ ภาพถ่ายโดย: เจ้าของบทความ จบไปอีกหนึ่งทริปดี ๆ “2 วัน 1 คืน” ที่หุบเขาวง เรียกได้ว่าเป็นการมาชาร์จพลังชีวิตให้เพิ่มขึ้นอย่างเต็มเปี่ยม เหมือนตัดความวุ่นวายจากภายนอก ได้เสพบรรยากาศและอากาศที่บริสุทธิ์ ได้ลองใช้ชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์ และยังได้ภาพมุมธรรมชาติสวย ๆ ไว้อวดลงโซเชียลเรียกยอดไลค์กันอีกด้วยค่ะ ถ้าสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ดีขึ้นแล้ว ก็อย่าลืมมาแวะมาเที่ยวสัมผัสกับธรรมชาติที่เรียบสงบของอ่างเก็บน้ำหุบเขาวงแห่งนี้ รับรองว่าไม่มีลืมอย่างแน่นอน...