ตลาดคือความสุขของนักช็อปปิ้ง ไม่ได้ซื้อไม่เป็นไรแต่ขอให้ได้เดินตลาด ตลาดที่เปิดในตอนเช้า ถ้าเมื่อไหร่ที่ต้องการจะไปใส่บาตรหรือทำสังฆทาน แวะตลาดนี้ตลาดเดียวได้ทั้งหมด เปิดแต่เช้าการเดินทางรวดเร็ว เป็นทางผ่านของรถที่จะต้องวนรอบตลาดเป็นวงกลม ถ้าเมื่อไหร่ถึงสถานที่แห่งนี้ แสดงว่าอยู่ไม่ไกลจากที่พัก อุ่นใจเมื่อพบโดมสีเหลืองหรือเราเรียกว่า พซาทเมย ตลาดกลางที่ใหญ่ในพนมเปญ ใครที่เดินทางไปกรุงพนมเปญประเทศกัมพูชา แน่นอนเลยว่าจะต้องไปถ่ายภาพกับทางเข้าตลาดแห่งนี้ เพราะสวยสะดุดตาตั้งแต่ทางเข้า ด้านในยิ่งเข้าไปยิ่งสวย แต่ถ้าจะเข้าด้านในตลาดต้องถือกระเป๋าหนักตังค์หน่อย ด้านในจะขายเพชร เงิน พระพุทธรูปของเก่า รวมถึงนาฬิการวมถึงกระเป๋าราคาแพง เข้าไปเดินชมด้านในได้ ไม่ซื้อไม่ว่ากัน โดยรอบนอกหรือทางเข้าก็จะมีของพื้นเมืองขาย เสื้อผ้าบ้าง ของใช้ในครัวเรือน อุปกรณ์ทำอาหาร ที่เรียกได้ว่ามีทุกอย่างในตลาดเดียว ซึ่งถ้าหากเรานั้นเดินรอบตลาดนี้ ก็หอบอยู่เหมือนกัน หอบข้าวของกลับบ้านเป็นคันรถ ตลาดแห่งนี้เป็นตลาดที่จดจำง่ายและเดินทางสะดวก นั่นคือนั่งรถหรือปั่นรถตรงไปเรื่อยๆ ก็จะเจอตลาดแต่บริเวณใกล้ตลาดนั้นรถจะค่อนข้างเยอะ ไม่ใช่มีเพียงในตลาดเท่านั้นที่มีของให้เราเดินดู บริเวณนอกตลาดตรงข้ามตลาดมีร้านค้ามากมาย ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร ร้านมือถือ ร้านนาฬิกา ร้านทองมีครบครันไปที่เดียวจบครบทุกอย่าง จึงทำให้ตอนแรกที่ยังไม่ค่อยรู้จักสถานที่เดินเที่ยว จึงไปสถานที่แห่งนี้บ่อยมาก บางครั้งก็ไปซื้อไหมพรมนำมาถักแก้เซ็ง เวลาไม่มีอะไรทำในวันหยุดความสุขเล็กๆของคนต่างถิ่น สถานที่แห่งนี้ คือสถานที่ที่ทำให้คลายความคิดถึงบ้าน เพราะได้หม้อเนื้อย่างกับแก๊สมาทำเนื้อย่างเกาหลีทานที่พักสมใจพิกัด>>> พซาทเมย ตลาดพนมเปญ ตลาดกลาง หรือออกเสียงว่า พซาทเมย ตลาดนี้เป็นตลาดที่เปิดในตอนเช้า หกโมงเช้าเจ็ดนาฬิกาก็เปิด ถ้าเป็นตลาดใหญ่ที่อื่นจะเปิดประมาณ 10.00 นาฬิกา ต้องการทานอาหารเช้าในวันหยุดใกล้ๆต้องไปตลาดที่นี่ ใช้เวลาเดินจากด้านในและเดินรอบด้านนอกก็ใช้เวลาไม่น้อย ในส่วนของราคาของนั้นค่อนข้างจะราคาแพงกว่าตลาดทั่วไป และตลาดนี้ค่อนข้างจะต่อราคายากกว่าตลาดด้านนอก แต่ของราคาก็ถือว่าเกรดดี ตลาดที่มีรถประจำทางผ่านตลอด การเดินทางไปตลาดแห่งนี้ไม่ยาก ใช้เวลาไม่นาน และราคาไม่แพงแค่เพียง1,000 เรียลก็เดินทางถึงที่หมาย หรือเราจะนั่งรถชมเมืองได้เช่นกัน รถประจำทางถ้าหากว่า เรานั้นเป็นนักศึกษาสามารถโชว์บัตร นักศึกษาแล้วนั่งรถประจำทางฟรีได้ตลอดซึ่งจุดรอรถจะอยู่บริเวณถนนกัมปูเจียกรอม หรือเราอาจจะสังเกตดูว่าตรงไหนที่มีป้ายรถ รถจะจอดตามป้าย ซึ่งการรอจะใช้เวลาไม่นาน รถที่นั่งเป็นรถใหม่ แอร์เย็นสะอาดถ้าประมาณสายๆหรือบ่ายโมงคนจะน้อย แต่ถ้าหากตอนเย็นจะมีผู้ใช้บริการแออัดหน่อย แต่ก็อบอุ่นดี สำหรับคนที่ตัวเล็กหน่อยอาจจะต้องทนแต่ไม่นานก็ถึงเพราะรถวิ่งเร็ว การเดินทางที่รถไม่ค่อยติด แน่นอนว่าในเมืองนั้นสิ่งที่เราเลี่ยงไม่ได้คือสภาพรถติด แต่ถนนในเมืองมีหลายเส้นทางให้เรานั้นได้เลือก ถ้าเป็นในตอนเย็นถนนเส้นนี้ หลบไปเส้นอื่นจะเร็วกว่า ถ้าในช่วงกลางวันหรือตอนบ่ายยังพอสะดวก แต่ถ้าหากเวลาเลิกงาน ต้องทำใจหน่อย เพราะถนนบริเวณนี้ จะติด ซึ่งการเดินทางโดยเท้าก็ยังลำบากเพราะรถมอเตอร์ไซต์จะขึ้นวิ่งบนทางเท้า เวลาที่ตลาดปิด ตลาดกลางเปิดแต่เช้า และจะปิดในเวลาประมาณ สี่โมงเย็นหรือบางร้านอาจจะเลยไปประมาณห้าโมง ตลาดด้านในจะปิดก่อน ส่วนด้านนอกจะปิดช้ากว่า เพราะถ้าหากว่ารถติดก็จะทำให้ขายไม่ค่อยดีเพราะคนซื้อเองก็ไม่มีที่จอดเช่นกัน เรียกได้ว่ามาตลาดนี้ ได้ทั้งอาหาร เครื่องใช้ต่างๆ ซึ่งถ้าหากเรานั้นซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าบางร้านสามารถเปลี่ยนได้ภายในเจ็ดวัน สังเกตป้าย การเดินเท้าก็สำคัญในเรื่องของการดูป้ายต่างๆ ว่าตรงนี้จอดรถได้ไหม ตรงนี้เดินผ่านต้องระมัดระวังอะไร เพราะบางครั้งเราคนเดินเท้าถ้าหากไปเดินในที่ห้ามเดิน เกิดอะไรขึ้นมาเราอาจจะเรียกร้องอะไรไม่ได้ เราจะต้องระวังตัวเองให้มาก ทั้งหมดรวมถึงในเรื่องของทรัพย์สินกระเป๋าของตนเอง จับไว้ให้แน่นและปลอดภัยที่สุดเพราะถ้าเราไม่ระวังอาจจะเป็นของคนอื่น ดูมีพลังที่รับลม ระหว่างที่เดินให้เรามองขึ้นด้านบน เราจะเห็นช่องที่ให้แสงสว่างและรับลม ลมเย็นมากตอนแรกนึกว่าติดพัดลมเพื่อระบายอากาศ เพราะถ้าเราเข้าไปด้านในจะสว่างไสวไปด้วยไฟและความระยิบระยับของทองบ้าง เพชร เงิน นาค มีหลายอย่างให้เลือก สำหรับผู้ที่กระเป๋าหนัก แต่กระเป๋าเบาหน่อยก็จะเดินรอบนอก การนั่งรถตุ๊กๆหรือมอเตอร์ไซค์ในพนมเปญ แน่นอนว่าบางครั้งการที่นักท่องเที่ยวนั้นตัดสินใจที่จะเรียกรถขึ้นนั้นประมาณ 50% คือไม่รู้จักสถานที่นั้นหรือไม่ก็เดินไปไม่ถูก หรืออาจจะรู้บ้างคุ้นๆแต่ไม่มั่นใจ จึงเรียกรถตุ๊กๆ สิ่งที่สำคัญก่อนที่เรานั้นจะขึ้นรถที่ไม่มีการกดมิเตอร์ เราจะต้องมีการตกลงราคากันก่อนที่จะก้าวขาขึ้น เพราะบางครั้งเราไม่ได้ตกลงกันก่อน พอไปถึงเจ้าของรถจะคิดแบบเหมาจ่าย จะแพงกว่าปกติ แต่ถ้าหากเราตกลงกันก่อนถ้าหากว่าราคาแพง เราก็สามารถที่จะต่อราคาให้ลดลงพอเราจ่ายได้ แต่ถ้าหากว่าไม่ลดเราก็ไม่ไปเดินหารถใหม่ ที่ราคาลดลงกว่านี้ คือทำท่าทางว่าแพงไม่ไป ไปคันใหม่ได้ แต่ถ้าเรามีแอปเรียกรถใช้ได้เลยจะประหยัดกว่าเรียกเอง เดินไปได้ไหม สำหรับคนที่ขยันสามารถเดินได้ แต่จะต้องระวังตัวเองให้มากที่สุด เพราะรถเยอะ ซึ่งคนกัมพูชาส่วนมากจะไม่ค่อยเห็นเดิน คนที่เดินจะเป็นคนต่างชาติ หรือนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเอง ถ้าจะเดินอาจจะเดินช่วงแดดอ่อนๆ จะได้ไม่ร้อนและอาจจะแวะทานอาหารได้ ถ้าตอนกลางวันหรือตอนเช้าจะไม่ค่อยมีร้านอาหารริมทางให้ทานอาหารไปกินบรรยากาศไป การจราจรในวันหยุด การจราจรในเมืองไม่ว่าจะประเทศไหนก็ตามจะต้องมีบ้าง แต่สำหรับที่นี่ถือว่ารถไม่ค่อยติดนานเมื่อเทียบกับประเทศที่เคยอยู่ ติดแต่จะไม่แช่กันนาน การเดินทางนั้นช้าเพราะว่าถนนเล็กแค่นั้น แต่ไม่นานถนนก็จะโล่งทันที เวลาเร่งรีบจึงไม่ค่อยลำบากมากนักเราใช้เวลาเดินทางไม่นานก็ถึงที่หมาย ส่วนในตอนเลิกงานอาจจะติดแต่ก็ประมาณหนึ่งชั่วโมงเท่านั้น แต่ถ้าหากเป็นในช่วงเทศกาลวันหยุดนั้นบอกเลยว่า ถนนจะโล่งมากโล่งชนิดที่เรียกว่า เรานอนบนถนนได้เลย เพราะจะไม่มีรถใหญ่ เนื่องจากประขาชนจะเดินทางกลับภูมิลำเนาเพื่อไปหาครอบครัวที่บ้าน จะไม่ค่อยมีใครอยู่พี่เมืองกรุง เมืองกรุงจึงเหมือนกันกับเมืองร้างเงียบสงบจนน่ากลัว พอใกล้ถึงช่วงเทศกาลทุกคนจึงหาทางที่จะออกเดินทางท่องเที่ยวต่างจังหวัดทำให้เงียบและอันตราย ทางเดินด้านนอกของตลาด ในการเดินตลาดนั้นถ้าหากเราไม่อยากเข้าไปเดินด้านในสามารถเดินรอบได้ อยู่ในร่มไม่ร้อน สินค้าเป็นสินค้ามีคุณภาพและบางชิ้นนั้น นำเข้าจากต่างประเทศ จำได้ว่าขนุนที่นี่อร่อย ถ้าหากเราเดินไปเรื่อยๆ เราจะพบตลาดตรงที่เรานั้นสามารถสั่งดอกไม้สดได้ และข้างๆก็จะเป็นเครื่องสังฆทาน การเดินหาของจึงไม่ยาก คำเตือน ในการเดินทาง สำหรับการเดินทางไปสถานที่แห่งนี้เพื่อความสะดวก เรานั่งรถประจำทางไปจะง่ายกว่าการขับรถส่วนตัว เพราะจะมีปัญหาในเรื่องของการจอดรถ หาที่จอดรถยาก และถ้าหากโขคนไม่ดีรถของเราอาจจะหายได้ เพราะไม่มีที่ฝากรถ แต่ถ้าหากเรานั้นเดินไปหรือนั่งรถรับจ้าง พอเราลงเขาก็จะขับวนต่อไปเลย ภาพมุมสวยของตลาดกลาง ประสบการณ์ของการเดินตลาดครั้งแรกนั้นเป็นที่เฮฮาในกลุ่ม วันนั้นต้องการที่จะไปซื้อหม้อทานเนื้อย่างเกาหลี เพราะรู้สึกว่าไม่ได้ทานมาแล้วน่าจะสามสี่เดือนได้ หาทานที่ไหนก็ไม่มี เพราะที่นี่นิยมทานเนื้อวัว เราเองติดหมูสามชั้นหมูติดมัน หายากเหลือเกิน จะไปทานบุฟเฟต์ก็ไม่ทานอาหารทะเล น้ำจิ้มไม่เผ็ดแซ่บ จึงตกลงกันไปหาวัตถุดิบที่จะมาทำทานเองที่บ้านพัก ก่อนจะหาวัตถุดิบอื่นต้องมีกระทะก่อน จัดเลย ตอนสายๆของวันหยุด หม้อใบเตาแก๊สปิคนิคหนึ่ง หมู ผัก ตามมา สะดุดขาตัวเองล้มเบาๆไปสองทีไม่ค่อยชินกับถนนเท่าไหร่ โดดเด่นจนเป็นสัญลักษณ์ของกรุงพนมเปญ ภาพที่ถ่ายกับของจริงที่เห็นนั้นมีความแตกต่างกันอย่างมาก ถ้าหากเราได้มาเห็นกับตา เราจะชอบศิลปะการสร้างของโดมนี้ ช่องรับลมที่ได้วางไว้เหมาะสมและลงตัว ทำให้ด้านในอากาศถ่ายเท สีที่ดูแล้วสบายตา ซึ่งไม่ว่าจะผ่านกี่รอบก็นั่งมองจนสุดสายตา เสื้อผ้าที่นี่ส่วนนำเข้ามาจากไทย เสื้อผ้าคือสิ่งแรกที่เวลาเราไปเที่ยวสถานที่แห่งไหนเราจะต้องซื้อมาเพื่อเป็นสิ่งระลึกถึงว่าเรานั้นไปมาแล้ว ที่นี่มีขายเสื้อสถานที่ท่องเที่ยวในกัมพูชา เสื้อนครวัด มีไปถึงเสื้อที่เป็นลวดลายของช้าง รูปลวดลายสัตว์และอีกหลายแบบ ให้เลือก ถ้าต้องการเสื้อผ้าสามารถมาเลือกซื้อที่นี่ ร้านของหวานด้านข้าง ของหวานในกัมพูชาถ้าใครได้ทานจะติดใจ เพราะอย่างแรกกะทิที่ใช้นั้นเป็นกะทิคั้นสด หอมและเข้มข้นมาก บางร้านใส่ขนุนบ้าง มีมะลิลอยอบควันเทียน ทำให้ขนมอร่อย ขนมไทยส่วนมากที่นี่จะไม่ค่อยหวาน เอาเป็นว่า ของหวานที่นี่จะไม่หวาน จะออกรสชาติเค็มหน่อยๆ ต้องลองสักถ้วยใส่น้ำแข็งราดด้วยกะทิสด ประสบการณ์การอยู่ต่างบ้านต่างเมือง คือความท้าทายความตื่นเต้นเสมอ ตั้งแต่เราเดินออกนอกพื้นที่ที่เราเคยอยู่ ก็ทำให้เรามีความสุข อีกอย่างหนึ่งเวลาที่เราไปในที่ที่ไม่มีใครรู้จักเรา เราจะรู้สึกสบายใจ จะทำอะไรก็ได้ ทำอะไรก็ได้ในที่นี้ต้องเป็นเรื่องดีไม่เดือดร้อนใคร และการไปตลาดก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้เราได้ฝึกและเรียนรู้ภาษาได้ดีที่สุด เพราะเราจะต้องพยายามที่จะสื่อสาร ไม่ว่าจะภาป๋ามือภาษากาย ใช้ได้ทั้งหมด สิ่งที่เหมือนกับบ้านเราคือ ถ้าหากพ่อค้าแม่ค้ารู้ว่าเป็นชาวต่างชาติ ราคาสินค้าจะขึ้นทันที การฝึกพูดภาษาถิ่นหรือสถานที่ที่เราอยู่จึงเป็นสิ่งที่จำเป็น ในการสร้างความกลมกลืน แม้ว่าหน้าตาจะไม่ได้ก็ตาม ภาพถ่ายทั้งหมดเป็นของผู้เขียน (อุ้งเท้าแมว) อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !