เขาหน่อ ถูกจัดว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อลำดับต้นๆ ของจังหวัดนครสวรรค์ ว่าเป็นเขาที่สวยไม่แพ้ที่ไหนๆเลย อีกทั้งยังเป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่มีเรื่องเล่าเกิดขึ้นมากมาย วันนี้เราเลยได้รวบรวมข้อมูลหลักๆ ที่ควรรู้ก่อนมาพิชิตเขาหน่อ มี 8 เรื่อง ดังนี้ค่ะ1.ที่ตั้งของเขาหน่อ เขาหน่อแห่งนี้ ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ ตั้งอยู่ตำบลบ้านแดน อำเภอบรรพตพิสัย จังหวัดนครสวรรค์ เส้นถนนพหลโยธิน ช่วงนครสวรรค์ - กำแพงเพชร เป็นเขาหินปูนรูปทรงสวยงามแปลกตาที่ตั้งคู่กับเขาแก้วลูกฝั่งตรงข้าม ถือเป็นจุดไฮไลน์ของการพิชิตเขาหน่อเลยค่ะ เพราะจะได้ชมความสวยงามของเขาหน่อ-เขาแก้ว และพื้นที่โดยรอบของบรรพตพิสัย ในแบบ 360 องศาพิกัด : เขาหน่อ จังหวัดนครสวรรค์2.ลิง คือสัตว์ประจำเขาหน่อเนื่องจากเขาหน่อมีลิงจำนวนมาก มักมีผู้คนชอบนำอาหารมาเลี้ยงลิงอยู่บ่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นกล้วย ผลหมากรากไม้ จึงทำให้เราได้เห็นลิงรอกินอาหารอยู่กระจัดกระจายในบริเวณรอบๆของเขาหน่อ จริงๆลิงเป็นสัตว์ที่มีความน่ารัก แต่ก็ซนไม่เบา ดังนั้น ใครจะมาพิชิตเขาหน่อแห่งนี้ ห้ามนำรถไปจอดในที่ไกลหูไกลตาหรือที่ๆไม่มีคนเฝ้าให้เป็นเด็ดขาด เนื่องจากลิงอาจจะเข้าไปทำลายข้าวของหรือทรัพย์สินมีค่าได้ แนะนำว่าควรนำรถเข้าไปฝากบริเวณศาลาวัด เพราะมีรั้วกั้นไม่ให้ลิงเข้าได้ จะได้สร้างความอุ่นใจให้กับเรา ในส่วนของที่จอดรถ เพื่อนๆลองถามคนในพื้นที่ดูนะคะ3.เส้นทางที่ใช้เดินขึ้นเขาหน่อเส้นทางเดินขึ้นเขาหน่อ จะแบ่งออก 3 ช่วงด้วยกัน โดยช่วงแรกจะเป็นบันไดปูน ประมาณ 680 ขั้น ส่วนถัดมาจะเป็นบันไดหินที่มีความยาวประมาณ 30- 40 เมตร และช่วงสุดท้ายจะเป็นบันไดที่สร้างความท้าทายให้กับนักท่องเที่ยวที่มาเป็นอย่างมาก นั้นก็คือ บันได้เหล็ก หรือที่หลายคนเรียกว่าบันไดลิง ช่วงนี้มีความชันเกือบ 90 องศา ถ้าใครที่กลัวความสูงได้เห็น ก็จะหันหลังกลับก่อนแบบดื้อๆกันเลยทีเดียว4.ช่วงเวลาไหนบ้างที่น่าขึ้นเขาหน่อถ้าถามว่าช่วงเวลาไหนบ้างที่เหมาะกับขึ้นเขา จริงๆ เราสามารถขึ้นได้ตลอดทั้งวันที่มีแสงก่อนภพค่ำ แต่ด้วยสภาพอากาศที่ร้อน จึงอยากแนะนำให้ขึ้นในช่วงเช้าหรือในช่วงเย็นที่แสงอ่อนๆ จะดีมาก เพราะเราจะได้ไม่รู้สึกว่าสภาพอากาศเป็นอุปสรรค ยิ่งช่วงที่แดดแรงๆ จุดที่น่าเป็นห่วงก็คือช่วงบันไดเหล็ก เนื่องจากเหล็กจะดูดซับความร้อนได้ดีทำให้ยากต่อการปีนเขา5.ไกด์นำทางแม้ว่าการมาเที่ยวเขาหน่อจะสามารถเดินขึ้นเขาเองได้ แต่สำหรับคนที่ยังไม่เคยมา หรือเดินทางมาเที่ยวคนเดียว ที่นี่จะมีไกด์คนในพื้นที่พาขึ้นค่ะ โดยไกด์จะดูแลตลอดทั้งเส้นทาง อีกทั้งให้ความรู้ในส่วนของประวัติความเป็นมา รวมถึงเรื่องเล่าสนุกๆ จนทำให้ไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อยก็เป็นได้ อีกอย่างคือพวกเขาจะรู้จุดไฮไลท์มุมถ่ายภาพของที่นี่เป็นอย่างดี ช่วยให้เราได้ภาพสวยๆ กลับมาชื่นชม ส่วนค่าใช้จ่ายอยู่ที่ความพอใจของเราหรือตามที่ตกลงกันก่อนขึ้นเขาเลยค่ะ 6.มาเที่ยวเขาหน่อมีสิ่งศักสิทธิ์ให้กราบไหว้ จุดไหนบ้างจุดแรก คือ บนเขาหน่อ หรือเขาพระพุทธบาทลูกที่เป็นจุดไฮไลท์ของที่นี่นั้นเองค่ะ ด้านบนจะมีรอยพระพุทธบาทอยู่ ใครที่ขึ้นมาถึงจุดนี้เข้ามากราบไหว้ขอพรกันได้เลย และอีกลูกก็คือ เขานางพันธุรัต เขาหินปูนลูกเล็ก สามารถเดินขึ้นไปชมวิวได้ โดยด้านบนจะมีถ้ำขนาดเล็ก มีพระพุทธรูปนอนบรรทมอยู่องค์ใหญ่ และพระพุทธรูปองค์เล็กอยู่ด้านหน้าค่ะ7.เขาหน่อ เป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกจริงๆ เราสามารถชมพระอาทิตย์ขึ้นและตกได้โดยที่เราไม่ต้องขึ้นเขาก็ได้ค่ะ แต่สำหรับใครที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศชมพระอาทิตย์ขึ้นและตกบนเขาหน่อ อาจจะต้องขึ้นไปรอตั้งแต่ตี 4 ตี 5 หรือช่วงเย็นๆ เพื่อให้ได้ช่วงเวลาที่เหมาะเจาะกับการขึ้นและตกของพระอาทิตย์ นอกจากนี้ตอนเย็นๆ เราสามารถรอชมฝูงค้างคาวออกจากถ้ำเพื่อออกไปหาอาหารได้อีกด้วย8.ด้านบนเขาหน่อไม่มีห้องน้ำ และไม่สามารถกางเต็นท์พักแรมได้เนื่องจากที่นี่เป็นแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ ตลอดทางเป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติ จริงๆ ที่แถบจะไม่มีสิ่งปลูกสร้างเลย ดังนี้ก่อนจะขึ้นเขาควรเข้าห้องน้ำทำภาระกิจของตัวเองให้เรียบร้อย เตรียมน้ำดื่ม ยาดม ยาหม่องติดตัวไปด้วย และอีกอย่างด้านบนไม่มีพื้นที่สำหรับพักแรมนะคะนอกจากการปีนเพื่อพิชิตเขาหน่อแล้ว ด้านหน้ายังมีร้านนั่งเล่น นั่งชิว ร้านขายของกินของฝากอีกเพียบให้เราได้เข้าไปสัมผัส สำหรับใครที่ชอบเที่ยวผจญภัยแนวสัมผัสธรรมชาติแต่มีเวลาไม่มาก มาที่นี่เขาหน่อ จังหวัดนครสวรรค์รับรองไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ ยังไงฝากติดตามบทความของเราด้วยนะคะ "ไปเที่ยว มาเล่า"บทความที่เกี่ยวข้อง : พิชิตเขาหน่อ จังหวัดนครสวรรค์ เมืองทางผ่านที่ต้องแวะภาพประกอบบทความจากเพจ : ไปเที่ยว มาเล่า (ภาพจากตัวนักเขียนเอง ส่วนภาพบุคคลที่ระบุในของบทความนี้เราได้รับการยินยอมจากบุคคลในภาพเป็นที่เรียบร้อยแล้วค่ะ)ข้อมูลเพิ่มเติมเพจไปเที่ยว มาเล่าบทความอื่นๆ ของไปเที่ยว มาเล่า แชร์ที่เที่ยวใหม่ๆ ไม่ว่าจะเที่ยวสายไหนก็มาแวะแชร์กับทรูไอดีคอมมูนิตี้ “ท่องเที่ยว”