ปู๊นๆ..ฉึกฉักๆ ขอทักทายกันด้วยคำที่คุ้นชิน คือเสียงหวูดและเสียงเครื่องจักรรถไฟ..ใช่เลยค่ะ เรามาถึงที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์( สถานีกลางบางซื่อ ) นั่นเอง เพื่อเริ่มการเดินทางไปยัง จังหวัดอุบลราชธานี เผอิญว่าพวกเรามีภารกิจดีต่อใจที่อุบลเมืองดอกบัวงาม ยังไงติดตามนัยใจต่อจากนี้ ว่าพวกเราจะปักพิกัดท่องเที่ยวที่ไหน และมีอะไรที่แฮปปี้ๆนำเสนอให้กับผู้อ่านบ้าง ราวๆสองทุ่มก็ยกขบวนมาถึงกรุงเทพอภิวัฒน์เพื่อ รอโดยสารรถไฟตู้นอน ประเภทชั้นสอง (#คนรีวิวกันเยอะแต่เราเพิ่งจะมาลองใช้บริการ) และขบวนแห่งความสุขนี้จะถึงปลายทางอุบลฯเช้าตรู่พอดีจ้า ดีเลยจะได้ชารจ์พลังกายเตรียมไว้ลุยภารกิจขอชมแบบรวบรัดว่า ตั้งแต่ซื้อตั๋วจนถึงการใช้บริการต่างๆของการรถไฟ พวกเราให้10เต็ม10 ค่ะ^^ ทีมรู้สึกประทับใจ..พอก้าวขึ้นรถไฟเพื่อมาประจำที่ พบว่าเจ้าหน้าที่เริ่มทยอยปูเตียงอย่างมืออาชีพ ส่วนพวกเราเตียงชั้นบน/ล่างเช็คตั๋วอีกที แล้วกระโดดเบาๆไปจับจองพื้นที่เลย.. จุ๊ๆแต่อย่าลืมสำรวมมารยาทการเดินทางแบบส่วนรวมด้วยนะ^^ตู้เสบียงอันไฉไล ให้อารมณ์ดินเนอร์แบบย้อนยุค ด้วยชุดโต๊ะอาหารพร้อมแจกันดอกไม้ จากนั้นเราเลือกสั่งอาหารชุด เน้นกินง่าย พออิ่มสบายท้อง จะได้หลับสนิท เพื่อพร้อมกับรุ่งอรุณ ณ เมืองดอกบัวงามกันจ้าและแล้วแสงอาทิตย์ยามเช้าช่วยมาปลุก ขอชื่นชมวิวดีๆผ่านหน้าต่างรถไฟ สักครู่.. เปิดความเบิกบานใจในที่สุด.รถไฟนำพวกเราถึงจุดหมาย ณ สถานีอุบลราชธานี เป็นที่เรียบร้อย บรรยากาศที่สถานีดูคึกคักดีจัง มาถึงก็อบอุ่นมาก เพราะเจ้าบ้านดูแลอย่างดี ตั้งแต่เจอกันแถมเตรียมมื้อเช้าที่คนท้องถิ่นนิยมกิน นั่นก็คือเต้าส่วนที่ต้องกินคู่กับปาท่องโก๋ อร่อยดีแฮะ ความกรอบนอกนุ่มในของแป้งปาท่องโก๋เข้ากันดีกับความหนืดของเต้าส่วน ตัวถั่วเหลืองก็นิ่มเคี้ยวง่าย ใช้เวลานั่งกินแบบไม่เร่งรีบ เพราะรอบๆตัวก็มีบรรยากาศนำพาให้สดชื่นจริงๆจากนั้นพักผ่อนให้พอหายเหนื่อย เจ้าบ้านก็พาออกเที่ยวกันต่อเลย ซึ่งทริปในวันนี้มีดังนี้ค่ะสถานที่แรกตั้งใจมากันที่ ศาลหลักเมือง จังหวัดอุบลราชธานี มาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่ชาวอุบลฯ เสริมความมั่นคง มั่งคั่ง เป็นมงคลในชีวิต เป็นการเปิดทริปที่สวยงามมาก เก็บภาพประทับใจจากนั้นขอไปอีกสักที่ คืออยากไปดู การเตรียมรถแห่เทียนพรรษา เพราะงานแห่เทียนที่ยิ่งใหญ่และล้ำค่าของชาวอุบลใกล้เข้ามาแล้ว วัดผาสุการาม ตั้งอยู่ในอ.วารินชำราบ มีชื่อเสียงด้านงานแกะสลักต้นเทียน ซึ่งการันตีฝีมือด้วยรางวัลชนะเลิศการประกวดต้นเทียน และวัดแห่งนี้ยังประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์ ซึ่งหากใครมาถึงเมืองวารินฯก็เข้ามาสักการะได้ค่ะ พวกเราไหว้พระ ทำบุญ เสมือนเสริมสร้างพลังบวก-พลังบุญ ดำรงสติ กายวาจาใจ เพื่อการใช้ชีวิตอย่างไม่ประมาทแอบกระซิบว่า เรามีนางเทียนรุ่นเก๋า มาร่วมทริปพาเราไปชม การเตรียมต้นเทียนของจริง ไม่รอช้าเดินมาที่โรงพญาเทียน โอ้โห..โปรดักชั่นไม่ธรรมดา ทีมงานทำกันด้วยความตั้งใจมากๆ สุดยอดค่ะ อลังการคนสร้างงานศิลปะแค่ได้มาเห็นบางช่วงของการเตรียมงานต้นเทียน ก็คุ้มมากๆ ประเพณีแห่เทียน ช่วงเทศกาลเข้าพรรษาของชาวอุบลราชธานียังคงดำรงรักษาไว้ ส่งต่อความภาคภูมิใจรุ่นสู่รุ่น ซึ่งแต่ละปีก็จะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติเดินทางมาร่วมชื่นชมงานที่ชาวอุบลฯตั้งใจสร้างสรรค์ผลงานออกมา ขอปรบมือรัวๆเช่นกัน หากมีเวลาลองมาเยือนสักครั้ง จ.อุบลฯยังมีสถานที่ๆน่าท่องเที่ยวอีกมากมาย รอต้อนรับอยู่เสมอขอพีอาร์^^เพื่อทราบอีกครั้ง งานแห่เทียนพรรษาของจังหวัดอุบลราชธานี ครั้งนี้คือครั้งที่ 123 งานจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 17-23 กรกฎาคม 2567ขอบคุณสำหรับการติดตาม..พบกันบทความหน้าค่ะ เครดิตภาพปกและภาพประกอบ โดย นัยใจ ขอบคุณทุกสถานที่ ทุกพิกัดที่ได้ไปเยือนสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ กรุงเทพฯสถานีรถไฟอุบลราชธานีศาลหลักเมือง จ.อุบลราชธานีวัดผาสุการาม อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ส่องที่เที่ยว พิกัดลับห้ามพลาด มุมถ่ายรูปสวยที่ทรูไอดีคอมมูนิตี้