นักท่องเที่ยวต่างชาติหลายคนมายลเมืองฟ้าอมร กรุงเทพมหานคร ของไทยแล้ว มีคติว่าต้องใช้บริการ “รถตุ๊กตุ๊ก” เพราะเขาถือเป็นเอกลักษณ์ของประเทศไทยเราเลยทีเดียว เผลอ ๆ อาจมีแซวกันทำนองว่า “มาบางกอกไม่นั่งตุ๊กตุ๊กถือว่ามาไม่ถึง” ตุ๊กตุ๊กเป็นหน้าตาของกรุงเทพฯ ขยายเป็นหน้าเป็นตาของประเทศไปนั่น ไม่เชื่อลองนึกย้อนไป พ.ศ. 2558 ปีนั้น แนท-อนิพรณ์ เฉลิมบูรณะวงศ์ ยังสวมชุดประจำชาติ เป็นรูปรถตุ๊กตุ๊ก ด้านการโดยสารสาธารณะ รถตุ๊กตุ๊กถือเป็นเอกลักษณ์ของกรุงเทพฯ มีศักดิ์ศรีถึงขั้นระดับชาติ แต่สำหรับ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้บ้านผม เรามีรถแท็กซี่ เป็นเอกลักษณ์ คิวรถแท็กซี่ ที่จังหวัดปัตตานี (ภาพโดยผู้เขียน) แท็กซี่บ้านไหนเมืองไหนก็มี จะอวดทำไม ใช่ครับ บ้านไหนเมืองไหนก็มีแท็กซี่ แต่แท็กซี่ที่ชายแดนใต้ ใช้เบนซ์ ซึ่งก็ไม่ใช่รุ่นธรรมดา เป็นรุ่นลายครามคลาสสิคสุดๆ ซ้ำรถสัญชาติเยอรมันเหล่านี้ มีอายุหลายสิบปี แต่ยังวิ่งปร๋อเหมือนรถหนุ่ม ยิ่งถ้าคุณใช้บริการสาย ยะลา – เบตง ช่วงเข้าโค้งแบบไม่ลดความเร็วนี่ คุณจะได้รู้ซึ้งถึงสมรรถภาพช่วงล่างการเกาะถนนหนึบ ผนวกกับการบังคับทิศทางที่คล่องแคล่วปาดซ้ายเบี่ยงขวาของรถวัยดึกกันเลยทีเดียว (แต่เครื่องในภายในกายคุณอาจแปรปรวน พุ่งอาหารพรวดออกมา) เบนซ์ที่นำมาทำเป็นแท็กซี่ของ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้นมีหลายรุ่น ที่นิยมและเห็นมาก ได้แก่ รุ่นหางปลา อาทิ รุ่น 200 รุ่น 240D รุ่น 280S รุ่น 300D รุ่น Apollo และรุ่นตาหวาน รถแท็กซี่ที่นำรถเบนซ์มาให้บริการ (ภาพโดยผู้เขียน) มา 3 จังหวัดชายแดนใต้ ไม่ได้นั่งแท็กซี่เบนซ์ มาไม่ถึง ขณะเขียนบทความ ผมอายุ 36 ปี ตั้งแต่จำความได้ แท็กซี่เบนซ์ก็ให้บริการแล้ว เมื่อราว 10 กว่าขวบ ผมเข้าใจว่าแท็กซี่ทั่วฟ้าเมืองไทยต้องใช้เบนซ์ บ้านผมอยู่ อ.แว้ง จ.นราธิวาส เวลาจะซื้อของสำคัญ ๆ ต้องเดินทางมา อ.สุไหงโก-ลก ซึ่งเป็นเมืองการค้า ห่างจาก อ.แว้ง ระยะทาง 14 กิโลเมตร ค่าบริการรถแท็กซี่ตอนนั้น 15 บาทต่อคน คิวแท็กซี่ไม่ออกเป็นเวลาตามหน้าปัดนาฬิกา แต่จะขยับตัวล้อเคลื่อนต่อเมื่อผู้โดยสารเต็ม 4 หรือ 5 คน ปัจจุบันก็ยังคงเป็นแบบนี้ ใครรีบต้องจ่ายแบบเหมา ๆ อย่างที่บอก ทีแรกผมเข้าใจว่าแท็กซี่ที่ไหน ๆ ก็คงใช้เบนซ์รุ่นเก๋าเหล่านี้ แต่เปล่าเลย มารู้ความจริง ตอนเรียนที่วิทยาลัยเทคนิคยะลา ชั้น ปวช. ได้เจอนักท่องเที่ยวรายหนึ่ง เขามาจากเมืองกรุง เขาบอกว่า “ผมมา 3 จังหวัด ก็เพื่อนั่งแท็กซี่นี่แหละ คลาสสิคมาก ไม่มีที่ไหนเหมือน” ท้ายรถแท็กซี่เบนซ์ (ภาพโดยผู้เขียน) แท็กซี่เก่า คนขับเก๋า ปัจจุบันแท็กซี่เบนซ์ลดน้อยลงมาก เพราะมีรถตู้ รถยนต์รุ่นใหม่เข้ามาให้บริการร่วม แต่ความคลาสสิคของแท็กซี่เบนซ์ยังไม่เสื่อมคลาย รถเก่า ผู้อ่านอาจสงสัย จะปลอดภัยหรือ? เสียแล้วจะซ่อมได้หรือ มีศูนย์ มีอะไหล่หรือ ตอบได้ทันทีว่า เพราะเขาขับรถเก่ามาแต่ไหนแต่ไร จึงรู้วิธีการซ่อม และมีเครือข่ายรถรุ่นนี้ที่กว้างขวาง เรื่องซ่อมเรื่องดูแลนั้น กริ๊ปอยู่เสมอ คนขับแท็กซี่เบนซ์ ไม่ใช่เก๋าเฉพาะฝีไม้ลายมือด้านการขับ เรื่องการซ่อมบำรุงก็คล่องแคล่วไม่หยอก เหมากันไปเลย แท็กซี่เบนซ์ ในภาพนี้ภาพคนละเหตุการณ์กับที่ลืมโน้ตบุ๊คนะครับ (ภาพโดยผู้เขียน) น้ำใจคนแท็กซี่ ผมเดินทางไป ๆ มา ๆ ระหว่าง 3 จังหวัดอยู่เสมอ บางวันไปครบทั้งปัตตานี นราฯ และยะลา ส่วนมากไปด้วยรถส่วนตัว มีบ้างที่รถไม่ว่าง ก็ต้องใช้บริการแท็กซี่เบนซ์ ด้วยผมเร่ง จึงไม่เคยรอให้คนเต็ม ผมเหมาตลอด ล่าสุดเหมาจาก จ.ปัตตานี ไป จ.ยะลา ระยะทาง 40 กิโลเมตร ราคาประมาณ 300 บาท ผมนั่งหน้าคู่คนขับ เพื่อนนั่งหลัง ขับไปโชเฟอร์ก็ชวนคุยไป ขับเรื่อย ๆ แวะรับพัสดุ และส่งพัสดุไปพลาง คือ คนแท็กซี่แถวนี้ทำหน้าที่เป็นไปรษณีย์ด้วย บางครั้งเขาหาเบอร์โทร. ลูกค้าไม่เจอ ก็วานผมนี่แหละหาให้ (ก็เขาขับรถอยู่นี่) ผมนั่งหน้าคู่คนขับ ผมวางคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คไว้ที่วางเท้า ถึงเวลาลง ผมลืมโน้ตบุ๊ค ลงรถ เดินอยู่ในงานนิทรรศการที่ผมไปร่วม ราวครึ่งชั่วโมงจึงนึกออก ตายแล้ว! ลืมโน้ตบุ๊ค ทีแรกคิดว่าลืมในห้องน้ำ ใจวายวาบ รีบไปดู ปรากฏว่าในห้องน้ำไม่มีจุดที่วางของได้ ไม่มีทางที่จะวางลืมไว้ จึงโทร. หาโชเฟอร์แท็กซี่ เขาตอบมาว่า “ไม่เห็น” ขอไปดูก่อน พลันเสียง “อ้อ!” ก็เข้ามา เขาเจอแล้ว วางอยู่ที่วางเท้า ลับตาเชียว “ลูกพี่มารับเลยครับ ผมจอดรถอยู่ที่อู่ซ่อม มาปรับโช๊คหน่อย ไม่ค่อยนิ่มเท่าไหร่” โค้งเบตง (ภาพโดยผู้เขียน) นี่คือเสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของชายแดนใต้ มีโอกาสแนะนำครับ นั่งแท็กซี่เบนซ์ หากจะประทับใจไปตลอด ต้องนั่งเบนซ์แท็กซี่สาย ยะลา – เบตง เส้นนั้นเขามี 300 โค้ง วัดใจกันไปเลย