สวัสดีค่ะผู้อ่านที่รักของสิริทุก ๆ คน แม้ว่าเป็นช่วงที่เราต้องกักตัวทำงานอยู่ที่บ้านกันก็ตาม สิริพาเที่ยวยังคงสรรหาเรื่องราวและสถานที่ท่องเที่ยวมาแนะนำกันเช่นเคย เผื่อว่าใครอยากเปิดหูเปิดตากับที่ท่องเที่ยวใหม่ ๆ และเก็บไว้เป็นตัวเลือกไว้มาเยือนหลงจากวิกฤตินี้ผ่านพ้นไป ซึ่งวันนี้สถานที่ที่สิริแนะนำคือ พุทธคยาแห่งแดนใต้ ณ วัดเข้ารูปช้าง ตำบลปาดังเบซาร์ อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา ปาดังเบซาร์ ตำบลหนึ่งของจังหวัดสงขลา ซึ่งเป็นเขตแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้าน คือ ประเทศมาเลเซีย ความหลากหลายของประชากรมีการผสมผสานทั้งชาวไทยมุสลิม ชาวไทยพุทธ และชาวไทยเชื้อสายจีน การอยู่ร่วมกันของวัฒนธรรมที่แตกต่าง ทำให้ปรากฏสถานที่อันเป็นเอกลักษณ์โดดเด่นและสวยงาม เส้นทางได้พาชมผู้คนที่อาศัยอยู่หนาแน่นตลอดสองข้างทางที่ปาดังเบซาร์ แต่เมื่อเราเดินทางออกจากเขตศูนย์กลางของตำบลเข้าสู่เส้นทางที่รายรอบไปด้วยธรรมชาติ ก็จะพบกับสถานที่แห่งหนึ่งราวกับว่าถูกซ่อนไว้ท่ามกลางความเงียบสงบและธรรมชาติ โอบล้อมด้วยต้นไม้เขียวขจีจากภูเขา สถานที่แห่งนี้เรียกขานกันว่า วัดเขารูปช้าง ข้าพเจ้าเป็นชาวสิงคโปร์ มีโอกาสเดินทางเข้ามาในประเทศไทยในท้องที่เขตแดนไทย-ปาดังเบซาร์ เพื่อบุกเบิกภูเขาศักดิ์สิทธิ์และได้สร้างวัดให้ชื่อว่า “วัดเขารูปช้าง” มีเจ้าแม่กวนอิมประดิษฐานอยู่ ภายในวัดแห่งนี้จะรับประทานอาหารเจเป็นหลัก ทางวัดยินดีต้อนรับผู้มีจิตใจเป็นกุศลทุกท่านที่ไปนมัสการกราบไหว้บูชา ผลบุญจะตอบสนองแก่ผู้มีจิตศรัทธา (พระมงคลญาณคุณ) วัดแห่งนี้สร้างจากแรงศรัทธาของพระสงค์ชาวสิงคโปร์นามว่า “พระมงคลญาณคุณ” หรือ “จวงเจีย ยสโร” เจ้าอาวาสวัดเขารูปช้างรูปแรก ปัจจุบันวัดเขารูปช้าง ตั้งอยู่ ณ หมู่ที่ 6 ตำบลปาดังเบซาร์ อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา ความโดดเด่นประการสำคัญหนึ่งของวัดแห่งนี้อยู่ที่สถาปัตยกรรมเจดีย์ที่ตั้งเด่นสะดุดตา เจดีย์หินอ่อนสีขาวที่สร้างเป็นแบบจำลองตามต้นแบบมหาเจดีย์พุทธคยา ประเทศอินเดีย ซึ่งเกิดจากความประทับใจของพระมงคลญาณคุณ ที่ได้เดินทางไปแสวงบุญ ณ ประเทศอินเดียหลายครั้ง จึงเกิดความประทับใจและมีความคิดตั้งมั่นที่จะสร้างแบบจำลองมหาเจดีย์พุทธคยา โดยสร้างขึ้นเป็นเจดีย์ 9 องค์ ภายนอกทำด้วยหินอ่อนถูกเรียงต่อกันเป็นชั้น ๆ แกะสลักเป็นภาพองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าบริเวณรอบๆผนังมหาเจดีย์ วิจิตรสวยงามและทรงคุณค่า ภายในเป็นสถานที่ประดิษฐานของพระพุทธรูป โดยในการสร้างใช้ระยะเวลาถึง 3 ปี ภายนอกของตัวเจดีย์เป็นการสร้างตามแบบมหาเจดีย์พุทธคยา ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมตามรูปแบบของอินเดีย เมื่อเข้ามาสู่ภายในของเจดีย์ วิหารแห่งนี้เป็นสถานที่ประดิษฐานของพระประธาน คือ พระยูไล พระพุทธรูปสีทองอร่ามขนาดใหญ่จึงโดดเด่นอยากมาก ซึ่งเป็นพระพุทธรูปตามรูปแบบความเชื่อพุทธศาสนาของจีน ภายในวิหารเป็นลักษณะของวิหารที่สร้างสรรค์จากการผสมผสานรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบจีน ซึ่งเป็นความสวยงามที่ผสมผสานได้อย่างกลมกลืน เสามังกรที่มีสีสันโดดเด่นตั้งเรียงรายไปตามวิหาร โดยรอบของวิหารเต็มไปด้วยพระพุทธรูปจำนวนมากที่วางเรียงไปตามชั้นบนผนัง เพดานสีฟ้าครามที่วาดตามลายเส้นผสานจิตรกรรมแบบจีนและแบบไทย ประติมากรรมดอกบัวสีทองตกแต่งอยู่ตามเพดาน นอกจากนี้บริเวณฝาผนังลวดลายยังเต็มไปด้วยรูปวาดพระยูไลเป็นเรื่องราวทางพุทธศาสนามหายานตามความเชื่อของชาวจีน นอกจากนี้ยังสามารถขึ้นมาสู่ชั้นที่ 2 ของเจดีย์ ตามเส้นทางบันใดที่เดินขึ้นเป็นระยะทางยาวก็ตระกาลตาไปด้วยภาพวาดบริเวณผนัง เล่าเรื่องราวทางพุทธศาสนาและสะท้อนวิถีชีวิตความเป็นอยู่แบบจีน และที่สำคัญคือ ลายเส้นผสมผสานศิลปะจิตรกรรมแบบจีนและแบบไทยไว้ด้วยกันอย่างน่าสนใจ ด้วยสีสันและการทำให้ภาพต่อกันไปเรื่อย ๆ จึงทำให้เป็นจิตรกรรมฝาผนังที่มีความสวยงามตราตรึงใจ ชั้นบนจำได้สัมผัสกับความงามของสถาปัตยกรรมหินอ่อนในระยะใกล้ ซึ่งทำให้เห็นความละเอียดลออในการแกะสลักรูปบนหินอ่อน ตลอกจนการก่อสร้างด้วยความประณีตจากจุดเล็ก ๆ รวมกัน จนนำมาสูเจดีย์ขนาดใหญ่ที่มีความวิจิตรงดงาม เจดีย์จำลองมหาเจดีย์พุทธคยา ที่ถือได้ว่าเป็น พุทธคยาแห่งแดนใต้ เป็นสถาปัตยกรรมที่ควรค่าแก่การมาเยือนและเยี่ยมชมความยิ่งใหญ่ รวมถึงสัมผัสความวิจิตรงดงามของการผสมผสานศิลปะหลากหลายแขนงและหลากหลายชาติได้อย่างกลมกลืน อันเป็นผลงานที่เกิดจากความตั้งใจและความศรัทธาเลื่อมไสในพุทธศาสนาอย่างแท้จริง วัดเขารูปช้างเปิดให้เข้าชมเจย์ดีและเข้าเคารพขอพรองค์พระประธานแบบไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น ซึ่งวัดเปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 8.00-18.00 น. สำหรับพิกัดการเดินทางตามนี้ลิงก์นี้ได้เลย https://goo.gl/maps/sL4ofzC93dKXgmMm9 สิริพาเที่ยวครั้งหน้าจะพาไปเที่ยวที่ไหนนั้น ฝากติดตามผลงานของสิริด้วยนะคะ ***เครดิตภาพถ่ายทั้งหมดโดยผู้เขียนสิริเองค่ะ***