ช้าง ช้าง ช้าง... น้องเคยเห็นช้างหรือเปล่า? เรามั่นใจว่าทุกคนเคยเห็นช้างมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน แต่จะมีสักกี่คนที่เคยได้ใกล้ชิดกับช้าง ประหนึ่งเป็นควาญช้าง ใช่แล้วค่ะ...วันนี้เราจะพาทุกคนลองมาเป็นควาญช้างจำเป็น ที่อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่กันค่ะ ขั้นแรก เราจะต้องทำการสำรองที่นั่งกันก่อน หากเราหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ทจะพบว่ามีศูนย์อนุรักษ์ช้างหลายแห่งในเชียงใหม่ให้เลือกมากมาย โดยครั้งนี้เราได้เลือก Maerim Elephant Sanctuary ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองเชียงใหม่มากค่ะ เพื่อน ๆ จะต้องสำรองที่นั่งผ่านเว็บไซต์ http://maerimelephantsanctuary.com/ และเลือกแพ็กเกจที่เราต้องการ เช่น ครึ่งวันเช้า ครึ่งวันบ่าย หรือเต็มวัน หากใครมีเวลาไม่มากพอ เราขอแนะนำเป็นแพ็กเกจครึ่งวันเช้า เพราะอากาศไม่ร้อนมาก โดยราคาสำหรับครึ่งวันของผู้ใหญ่จะอยู่ที่ 1600 บาท/คน และเด็ก 800 บาท/คน ส่วนรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถเข้าไปดูได้ในเว็บไซต์เลยค่ะ เมื่อถึงวันนัดหมาย ทางศูนย์จะมีรถมารับเราถึงโรงแรมหรือที่พักเลยค่ะ (เป็นรถกระบะสองแถวนะคะ) โดยรถจะมารับประมาณ 7-8 โมงเช้า เมื่อรับครบทุกคนแล้ว ก็มุ่งหน้าสู่ศูนย์อนุรักษ์กันเลย ซึ่งเราจะใช้เวลาเดินทางประมาณ 30-45 นาทีค่ะ สิ่งสำคัญที่ต้องเตรียมไปด้วยคือ ชุดว่ายน้ำ, ผ้าเช็ดตัว และ รองเท้าแตะ ส่วนสาวๆ อย่าลืมเตรียมครีมกันแดดไปด้วยนะคะ เมื่อถึงศูนย์ฯ พี่ควาญจะให้ทุกคนไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นควาญช้างกันค่ะ น้อง ๆ ช้างเค้าจำหน้าเราไม่ได้นะคะ เพราะเค้าจะเห็นทุกอย่างเป็นสีเขียว แต่เค้าจะจำเราจากกลิ่นค่ะ ดังนั้นชุดควาญที่เราใส่ จะช่วยให้น้องช้างจำกลิ่นเราได้นั่นเองค่ะ หลังจากที่เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว พี่ควาญจะเปิดวิดีโอแนะนำศูนย์ฯ ให้เราชมค่ะ โดยวิดีโอจะเป็นภาษาอังกฤษนะคะ เพราะว่านักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่มาที่นี่จะเป็นชาวต่างชาติ คนไทยไม่ค่อยมีเลย (พี่ควาญแอบกระซิบบอกมาว่า ราคาแอบแรง คนไทยเลยไม่ค่อยมากันค่ะ) ช้างส่วนใหญ่ที่ศูนย์ฯ รับมาดูแล จะเป็นช้างงานมาก่อน เช่น ช้างลากซุง ช้างจากศูนย์แสดงช้าง หรือจากปางช้าง เป็นต้น โดยศูนย์ฯ จะไปซื้อตัวช้างจากที่ต่าง ๆ มา ซึ่งราคาจะอยู่ที่ประมาณตัวละ 1 ล้านบาท (หากข้อมูลผิดพลาด ต้องขออภัยด้วยนะคะ) หลังจากที่ช่วยช้างออกมาได้ ทางศูนย์ฯ จะนำมาเค้ามาดูแลอย่างดี ให้อาหาร อาบน้ำ ไม่มีการใช้งานใด ๆ ค่ะ เราจะสังเกตได้เลยว่า ช้างที่นี่มีความสุขมาก เมื่อชมวิดีโอเสร็จ พี่ควาญจะพาเราไปทำความรู้จักและแนะนำน้องช้างค่ะ (บางเชือกต้องเรียกว่า "ป้า" นะคะ เพราะอายุเยอะแล้ว) ช้างที่นี่มีทั้งหมด 6 เชือก (ณ เดือนพฤศจิกายน 2562) ได้แก่ ดวงดี, ดวงจันทร์, ชมพู, บัวตอง, อิสระ และ เชียงดาว ซึ่งเป็นน้องเล็กสุดค่ะ การพูดคุยกับช้าง เราจะต้องตะโกนค่ะ เพราะช้างหูไม่ดี ไม่ค่อยได้ยิน เริ่มแรกคือการทักทายค่ะ เราจะทักทายช้างโดยพูด หรือตะโกนคำว่า "จ้า" หากช้างอารมณ์ดีก็จะทักทายเรากลับด้วยการชูงวงแล้วส่งเสียง แปร๋น แปร๋น ค่ะ พี่ควาญแนะนำว่า เราสามารถลูบ กอด หอม แสดงความรักช้างได้อย่างเต็มที่ แรก ๆ เราก็มีกลัวบ้าง แต่หลัง ๆ มา ต้องตกหลุมรักในความน่ารักของน้องช้างทั้งหลายค่ะ หน้าที่แรกที่ควาญช้างจำเป็นจะต้องทำคือ ให้อาหารช้าง หากเราต้องการให้ช้างชูงวงขึ้นเพื่อป้อนอาหารเข้าปาก เราจะต้องพูดคำว่า "บน" เมื่อช้างชูงวง เราสามารถป้อนอาหารเข้าไปในปากช้างได้เลย หรือจะให้ทางงวงก็ได้นะคะ ช้างจะหยิบแล้วยัดเข้าปากเอง อาหารหลัก ๆ ที่ช้างกิน เช่น กล้วย ฟักทอง ช้างที่นี่กินกันเก่งมาก ช้าง 1 ตัว กินประมาณวันละ 300 กิโลกรัม โดยอาหารช้าง ทางศูนย์ฯ จะรับซื้อจากชาวบ้านแถวนั้นอีกทีค่ะ เมื่อกินอิ่มแล้ว ก็ต้องดื่มน้ำ เราเพิ่งรู้ว่า ช้างไม่ได้ดื่มน้ำจากงวงโดยตรง แต่จะเก็บน้ำไว้ในงวงก่อน จากนั้นค่อยพ่นเข้าปากอีกทีนึง หลังจากที่ช้างอิ่มหนำสำราญ และเตรียมตัวเพื่อไปอาบน้ำ พี่ควาญก็จะมาให้ความรู้เกี่ยวกับช้างเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น ประเภทของช้าง ความแตกต่างของช้างแต่ละชนิด หรือถิ่นที่อยู่อาศัย เป็นต้น ส่วนเราได้ความรู้ใหม่มาบ้างเหมือนกัน เช่น สัตว์ที่ช้างกลัวที่สุดคือ หนู หนูตัวเล็ก ๆ ที่วิ่งไปมา แต่ทำให้พื้นบริเวณที่ช้างยืนสั่นสะเทือนและทำให้ช้างตกใจกลัว หรือ ช้างจะยืนเวลาหลับ พี่ควาญยังบอกอีกด้วยว่า ถ้าหากช้างตกมัน แล้ววิ่งตรงเข้าหาเรา ให้เราวิ่งแล้วหักเลี้ยวไปด้านข้าง เพราะช้างจะวิ่งตรงอย่างเดียว เลี้ยวไม่ทัน นอกจากนี้เรายังได้ลองดมขี้ช้างด้วย ซึ่งกลิ่นไม่ได้แย่อย่างที่คิด เพราะช้างกินแต่พืช ทำให้ขี้ช้างมีกลิ่นคล้ายหญ้านั่นเอง ต่อไปเป็นเวลาที่ทุกคนรอคอย นั่นคือการอาบน้ำช้างค่ะ ขั้นแรก เราจะพาช้างไปยังบ่อโคลน หรือ Mud Spa เพื่อขัดถูผิวหนังของช้าง (รวมทั้งขัดผิวคนด้วย) จากนั้นจะพาช้างไปยังบ่อน้ำ เพื่อทำความสะอาดในขั้นตอนสุดท้าย กิจกรรมนี้ enjoy ทั้งคน ทั้งช้าง เลยทีเดียว เมื่ออาบน้ำช้างเสร็จ ก็ถึงเวลาว่ายน้ำของเหล่าควาญทั้งหลาย โดยภายในศูนย์ฯ จะมีสระว่ายน้ำไว้ให้เราได้ลงเล่นกันก่อนทานอาหารเที่ยง และเมื่อขึ้นจากสระ อาบน้ำแต่งตัวเสร็จเรียบร้อย ก็ถึงเวลาทานอาหาร ทางศูนย์ฯ ได้เตรียมก๋วยเตี๋ยวไก่ไว้ให้ ซึ่งทุกคนจะต้องทำกันเอง ชาวต่างชาติดูจะสนุกและเอร็ดอร่อยกับก๋วยเตี๋ยวมาก (แต่เราคิดว่าไม่ค่อยน่าแปลกใหม่สำหรับคนไทยเท่าไหร่นัก) หลังจากทานอาหารกันเสร็จเรียบร้อย ก็ได้เวลาโบกมือบ๊ายบายน้องช้าง และกระโดนขึ้นรถเพื่อกลับที่พัก เป็นยังไงกันบ้างคะ น่าสนุกไหม หากสุดสัปดาห์นี้ใครยังไม่มีแพลนไปไหน ลองมาหาประสบการณ์ใหม่ ๆ กันได้นะคะ รับรองว่า จะรักและเอ็นดูช้างขึ้นมากโขเลยละค่ะ *หมายเหตุ: ศูนย์อนุรักษ์ช้าง จะนำเงินที่ได้มาไปใช้ซื้ออาหารสำหรับช้าง และนำไปช่วยซื้อช้างจากสถานที่ต่าง ๆ เพื่อนำมาดูแลต่อค่ะ* เครดิต: ภาพถ่ายจากผู้เขียน และ Maerim Elephant Sanctuary