หลังจากที่เส้นทางรถไฟระหว่างประเทศ สปป.ลาว และ จีน ได้เปิดใช้งาน จึงเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวที่ชอบในการท่องเที่ยว สปป.ลาว เพราะจะย่นระยะเวลาการเดินทางจากเมืองเวียงจันทน์ไปยังเมืองต่างๆ ด้วยรถไฟความเร็วสูง สปป.ลาว-จีน เพราะถนนในสปป.ลาว ยังไม่สะดวกสบาย การเดินทางด้วยรถไฟความเร็วสูงจึงตอบโจทย์ที่สุด ผมซึ่งมีโอกาสได้ใช้บริการจะมารีวิวว่ารถไฟความเร็วสูง สปป.ลาว-จีน เป็นยังไงบ้างอลังการแค่ไหน บอกได้คำว่าฟีลญี่ปุ่นสุดๆ ครับ โดยการที่เราจะขึ้นรถไฟฟ้าเราจะต้องจองตั๋วมาก่อน โดยสามารถจองได้ผ่าน App LCR Ticket แต่คุณจะต้องมีเบอร์โทรศัพท์สปป.ลาว เราคนไทยส่วนใหญ่ไม่มีก็ต้องใช้บริการ Agency อาจจะมีค่าบริการนิดหน่อย แต่ผมก็ได้ตั๋วมาเรียบร้อย โดยเส้นทางที่จะมารีวิวคือเส้นทางจากสถานีหลวงพระบาง ไปยัง นครหลวงเวียงจันทน์ ราคาใบละ 275,000 กีบ ประมาณ 500 บาท โดยตั๋วใบนี้เราต้องเก็บเอาไว้ตั้งแต่อยู่หน้าสถานีหลวงพระบางเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจไปจนถึงเดินออกจากสถานีปลายทาง เพราะจะมีเจ้าหน้าที่คอยตรวจอีกที โดยสิ่งที่ควรรู้คือการดูที่นั่ง สำหรับตั๋วใบนี้คือ โบกี้ 02 ที่นั่ง 03C ส่วน 02-03 C ในวรรคสุดท้ายคือจำนวนบัตรที่จองมาใน 1 บุ๊คกิ้ง ตัดภาพเมื่อมาถึงสถานีหลวงพระบาง โดยรถ TAXI เพราะสถานีอยู่ห่างจากใจกลางเมืองหลวงพระบางถึง 11 กิโลเมตร อาคารสถานีเป็นสถาปัตยกรรมแบบลาวผสมกับจีนที่สวยงามจริงๆ มีคำว่า”หลวงพระบาง” เป็นภาษาลาวและจีนเด่นเป็นสง่า ก่อนจะเดินเข้าสถานีก็อยากให้ทุกคนหันหลังให้กับตัวสถานี จะพบกับวิวภูเขาเมืองหลวงพระบางที่สวยงามจริงๆ จนอดใจไม่ถ่ายภาพไม่ได้จริงๆ การจะเดินเข้าสถานีรถไฟจะต้องสแกนกระเป๋าคล้ายคลึงกับการใช้บริการเครื่องบินเลย แต่ใช้เวลาไม่นานก็เดินผ่านเข้ามาบริเวณใจกลางสถานี หากใครยังไม่ได้ทานอะไรก็มาหาซื้อในสถานีได้ มีทั้งน้ำและขนม รวมถึงบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป แวะมาฝากท้องได้ อาจจะราคาสูงกว่าด้านนอกสถานีนิดหน่อย ภายในสถานีนอกจากแอร์จะเย็นและที่นั่งรอคอยเวลา ยังมีห้องน้ำและจุดเติมน้ำอัตโนมัติ สำหรับคนที่เป็นแม่ลูกอ่อนที่สถานีมีบริการห้องป้อนนมลูกด้วยดีสุดๆ ไปเลย ภายในสถานียังมีห้องวีไอพีไว้คอยให้บริการผู้โดยสารอีกด้วย ถือว่าหรูหราสุดๆ เมื่อรอจนถึงก่อนเวลาออก 30 นาที จะมีประกาศจากเจ้าหน้าที่ให้ไป Check-in โดยเราต้องเตรียมตั๋วไปให้เจ้าหน้าที่ตรวจ จะอยู่บริเวณทางออกไปยังตัวรถไฟ เมื่อเดินออกจากประตูเราจะไปที่ชานชาลาที่ 2 ให้ลงบันไดเลื่อน ดีสุดๆ นึกว่าอยู่สถานีรถไฟที่ญี่ปุ่น หลังจากที่ถึงชานชาลาที่ 2 เราก็ต้องมาหาโบกี้ที่เราต้องนั่ง ซึ่งในตั๋วเป็นโบกี้ที่ 2 เมื่อเดินเข้าไปในรถไฟจะผ่านโซนวางกระเป๋าใครกระเป๋าใบใหญ่มาวางที่จุดนี้ได้เลย โดยรถไฟที่จองเป็นชั้น 2 เป็นตู้ปรับอากาศ โดยจะมีชั้นวางสัมภาระชิ้นที่ไม่ใหญ่มากด้านบน ส่วนเบาะที่นั่งบริเวณด้านหน้าจะมีโต๊ะที่ติดเบาะด้านหน้าและถุงกันเมารถไฟ และที่ปลื้มที่สุดคือบริเวณใต้เบาะนั่งมีรูชาร์จทั้งแบบปลั๊กไฟและ USB ใครอยากชาร์จแบตโทรศัพท์มือถือก็สามารถทำได้เลยครับ เมื่อนั่งไปสักพักจะมีเจ้าหน้าที่เข็นอาหารและเครื่องดื่มมาขาย อารมณ์เหมือนอยู่บนเครื่องบินสุดๆ ตลอดระยะเวลาที่อยู่บนรถไฟจะไม่มีสัญญาณมือถือบางช่วง โดยสัญญาณจะหายในช่วงที่เป็นอุโมงค์ในเขา เพราะรางรถไฟสายนี้จะต้องเจาะภูเขาในสปป.ลาว ส่งผลให้ในช่วงที่รถไฟอยู่ในเขาจะไม่มีสัญญาณ ส่วนต่อมาเราจะมาชมห้องน้ำกัน เรียกได้ว่าครบครันเหมือนห้องน้ำบนเครื่องบินจริงๆ หลังจากนั้นก็มาถึงนครหลวงเวียงจันทน์โดยสวัสดิภาพ โดยทุกๆ สถานีจะสร้างในรูปทรงที่เหมือนกันหมดสวยงามจริงๆ และขอย้ำว่าให้เก็บตั๋วรถไฟตลอดจนถึงจุดหมาย เพราะตอนออกจากสถานีนครหลวงเวียงจันทร์ จะมีเจ้าหน้าที่คอยสแกนตั๋วรถไฟให้เราอีกทีครับ ทั้งหมดนี้คือการรีวิวรถไฟความเร็วสูงลาว-จีน ที่ทำให้เราเดินทางท่องเที่ยวเมืองอื่นๆ ในสปป.ลาว ได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม และทำให้รู้ว่ารถไฟที่วิ่งในสปป.ลาว ให้ฟีลเหมือนญี่ปุ่นสุดๆ หากมีโอกาสไปเยือนสปป.ลาว ต้องหาโอกาสไปลองนั่งให้ได้เลยครับ ภาพถ่ายทั้งหมดโดยผู้เขียนแชร์ที่เที่ยวใหม่ๆ ไม่ว่าจะเที่ยวสายไหนก็มาแวะแชร์กับทรูไอดีคอมมูนิตี้ “เที่ยวไปให้สุด”