วันอาทิตย์เป็นวันหยุดของใครหลาย ๆ คน ซึ่งในวันหยุดของคนส่วนใหญ่ก็มักจะไปทำบุญกันตามวัดต่าง ๆ หรือออกไปเที่ยวธรรมชาติกันตามต่างจังหวัด ตัวผู้เขียนเองก็ชอบแบบนั้น แต่ด้วยเวลาที่จำกัดจึงไม่สามารถออกไปเที่ยวธรรมชาติได้บ่อย ๆ กลับมาก็เหนื่อยจากการเดินทางแล้ววันจันทร์ก็ต้องทำงานต่อ ตัวผู้เขียนเองคิดว่าไม่ค่อยสะดวกเท่าไรนัก จึงตัดสินใจว่าในวันหยุดนี้จะออกไปเดินเล่นสนามหลวง และหาอะไรอร่อย ๆ แถวนั้นทาน ในช่วงบ่าย ๆ ของวันอาทิตย์ผู้เขียนจึงตัดสินใจนั่งรถเมล์ไปลงที่สนามหลวง ซึ่งก็เป็นการถือโอกาสนั่งรถเมล์กินลมไปในตัว โชคดีที่วันนั้นอากาศไม่ร้อนเท่าไหร่ รถเมล์คนก็ไม่ค่อยมีคนเท่าไรนัก แต่เสียอย่างเดียวตรงที่รอรถเมล์นานไปหน่อย นั่งรถเมล์สักพักใหญ่ ๆ ก็ถึงสนามหลวง ผู้เขียนเดินเล่นอยู่สักพัก มองไปรอบ ๆ ดูแปลกหูแปลกตา ดูผิดไปจากเมื่อก่อนมาก ทำให้หวนคิดถึงตอนเด็ก ๆ ที่แม่เคยพามาเที่ยวที่ท้องสนามหลวง ในตอนนั้นสนามหลวงเป็นสนามหญ้าโล่งกว้าง มีนกพิราบเต็มไปหมด มีผู้คนมากมายมานั่งพักผ่อนหย่อนใจ บางคนก็นั่งขายของอยู่บริเวณนั้น ผู้เขียนก็ได้นั่งให้อาหารนกพิราบโดยมีแม่นั่งมองอยู่ไม่ห่าง บริเวณข้าง ๆ จะมีว่าวเรียงขายอยู่เป็นจำนวนมาก ผู้คนมากมายพากันเล่นว่าวมีทั้งเด็กและผู้ใหญ่ เป็นภาพความทรงจำที่ไม่เคยลืมเลยซึ่งต่างจากตอนนี้มาก ตอนนี้เป็นพื้นปูนคอนกรีต ไม่มีนกพิราบ ไม่มีว่าว และไม่มีผู้คนที่มานั่งพักผ่อนหย่อนใจตรงบริเวณนั้นอีกแล้ว เพราะมีการปิดไม่ให้คนเข้า จะเปิดแค่พิธีสำคัญต่าง ๆ เท่านั้น พระบรมมหาราชวัง ภาพถ่ายโดยผู้เขียน ผู้เขียนจึงเดินเล่นไปเรื่อย ๆ จนถึงเวลาค่ำ ๆ มาหยุดอยู่ที่พระบรมมหาราชวัง ตรงบริเวณเห็นมีคนมายืนถ่ายรูปความสวยงามของพระบรมมหาราชวังยามค่ำคืนกันอยู่หลายคนเลย ซึ่งเป็นมุมที่ต้องยอมรับว่า มีความและโดดเด่นเป็นอย่างมาก หากใครได้มาเห็นจะต้องประทับใจกับความงดงาม ของโบราณสถานภายในกำแพงพระบรมมหาราชวังแห่งนี้อย่างมากก็เป็นแน่ ศาลหลักเมือง ภาพถ่ายโดยผู้เขียน กระทรวงกลาโหม ภาพถ่ายโดยผู้เขียน เดินต่อมาอีกนิดก็จะเจอศาลหลักเมือง ผู้เขียนก็ไม่ลืมที่จะยกมือไว้ขอพรพระเสื้อเมืองพระทรงเมืองเพื่อเป็นสิริมงคล แต่หากใครต้องการจะเข้าไปไหว้ขอพรภายในศาลหลักเมืองแนะนำให้มาก่อนห้าโมงเย็นค่ะ ผู้เขียนได้ถ่ายรูปมาตลอดทางเพราะยามค่ำคืนที่นี่สวยงามมาก มีแสงไฟตามสถานที่สำคัญ ๆ อีกทั้งในเวลากลางคืนแดดไม่ร้อน และมีลมพัดเอื่อย ๆ ทำให้เดินล่นโดยที่ไม่เหนื่อยเท่าไร เดินเรื่อยมาจนถึงกระทรวงกลาโหม ตรงนี้มีปืนใหญ่วางเรียงอยู่หลายกระบอก แต่ละกระบอกก็จะมีชื่อ และรูปร่างที่แตกต่างกัน ที่ถูกรวบรวมไว้ที่นี่ ซึ่งแต่และกระบอกก็มีอายุเกินร้อยปีขึ้นไปค่ะ นับว่าเป็นสิ่งที่มีคุณค่าทางประวัติไม่น้อยเลยทีเดียว ร้านข้าวต้มคุณเล็ก ภาพถ่ายโดยผู้เขียน ผู้เขียนเดินถ่ายรูปไปเรื่อยจนรู้สึกว่าหิวจึงเดินลัดไปทางหลังกระทรวงกระกลาโหม ริมคลองหลอด จะมีร้านข้าวต้มร้านเด็ดอยู่ร้านหนึ่ง อาหารอร่อย ราคาไม่แพง เมนูที่ผู้เขียนชอบก็เป็นเมนูง่าย ๆ ได้แก่ ยำปลาเค็ม ราคา 20 บาท ยำกุ้งแห้ง ราคา 10 บาท หมูซีอิ็ว ราคา 10 บาท ผัดเลือดหมู 10 บาท รับรองได้เลยค่าว่ารสชาติของอาหารแต่ละอย่างอร่อยและคุ้มมาก ยำปลาเค็ม ภาพถ่ายโดยผู้เขียน ยำกุ้งแแห้ง ภาพถ่ายโดยผู้เขียน หมูซีอิ้ว ภาพถ่ายโดยผู้เขียน ผักเลือดหมู ภาพถ่ายโดยผู้เขียน สำหรับการเดินทางในครั้งถือว่าผ่อนคลายอารมณ์ได้เป็นอย่างดี เพราะได้ชมความงามของพระบรมมหาราชวังยามค่ำคืน และได้ทานของอร่อย ๆ สมใจอยาก สำหรับใครที่ชอบการถ่ายภาพอยากให้ลองมาดูนะคะ ที่นี่มีหลายมุมเลยที่น่าสนใจ ตัวผู้เขียนเองชอบมากเพราะไม่ค่อยได้มีโอกาสมาแบบนี้บ่อย ๆ