ไม่น่าเชื่อว่า คนที่ไม่เคยสนใจและไม่รู้ด้วยซ้ำว่ากัมพูชาคืออะไร ด้วยความที่ไม่ได้สนใจในเรื่องความรู้รอบตัวเท่าไหร่ จึงไม่เคยรู้ว่ามีอีกประเทศหนึ่งที่สวยงามทางด้านของศิลปะ ตอนที่อยู่ที่ประเทศของตนเอง เคยไปเที่ยวอุทยานแห่งชาติเขาพนมรุ้ง ปราสาทเมืองต่ำอยู่บ่อยครั้ง แต่ทุกครั้งที่ไป มองเห็นเพียงก้อนหินซ้อนกันเท่านั้น หรือจะเป็นเพราะตอนนั้นเรายังเป็นเด็ก อาจจะเป็นเพราะความบังเอิญหรืออย่างไร ทำให้โชคชะตาก้าวเข้าไปทำงานที่ประเทศกัมพูชาตั้งแต่เรียนจบ คิดอยู่หลายครั้ง และสุดท้ายก็ได้คำตอบ ออกจากกรอบท่องโลกหาประสบการณ์บ้าง นี่จึงเป็นที่มาของการได้ไปเที่ยวชมเขาพระวิหารครั้งแรก จากการพากลุ่มทัศนศึกษา ครั้งที่ตัดสินใจไปเพราะอยากจะเดินทางเที่ยวสักครั้งในชีวิต เคยอ่านหนังสือมาว่าวิวถ่ายภาพสวยงามมาก การเดินทาง เดินทางจากกรุงพนมเปญ โดยรถบัสใช้เวลานานเกือบแปดชั่วโมงได้ เนื่องจากการเดินทางที่กัมพูชานั้นขับเร็วไม่ได้ ในเมือง แต่พอออกนอกเมืองก็ขับเร็วไม่ได้ เพราะถนนหนทางนั้นอาจจะมีหลุมมีบ่อให้รถต้องหลบหลีก สองข้างทางออกจากพนมเปญ มากมายไปด้วยต้นตาลยืนตระหง่านอยู่กลางทุ่งนา รถมีความเงียบเพราะทุกคนในรถต่างหลับใหลไปกับบรรยากาศ ไม่นานเดินทางถึงจังหวัดพระวิหาร ประเทศกัมพูชา แต่ตอนนั้นเริ่มเย็นแล้ว จึงต้องเข้าที่พักเพื่อพักผ่อนเตรียมร่างกายสำหรับการเดินปีนเขาในวันพรุ่ง คนที่กลัวความสูงต้องทำใจหน่อย เพราะทางขึ้นสูงและชันมาก แทบจะต้องเกาะขอบรถไว้ กลัวไหลลงตอนที่รถกำลังขับขึ้นเขา เช้าพวกเราออกมาแต่เช้า เพราะถ้าหากขึ้นสายๆ แดดจะค่อนข้างร้อน เผื่อเวลาให้ขึ้นมาถึงด้านบนเขาแล้วเดินไปทานอาหารเที่ยงหน้าประตูเข้าปราสาทพอดี เพราะที่นั่นมีศาลาสำหรับทานข้าว เขาพระวิหาร ตั้งอยู่ที่จังหวัดพระวิหาร ประเทศกัมพูชา บนเทือกเขาพนมดงรัก เขตแดนธรรมชาติพิกัดเขาพระวิหาร : https://goo.gl/maps/HEDqgJVzcvneZVnw8 สำหรับคนที่สนใจในการเดินทางมาเที่ยว สามารถพิมพ์ข้อความเข้าไปในกูเกิลเข้าไปในแผนที่ได้ แต่การเที่ยวนั้นแนะนำให้ เที่ยวในทางฝั่งของประเทศกัมพูชาเพราะทางขึ้นแม้ว่าจะอยู่ทางประเทศไทย ถูกปิดไม่สามารถขึ้นมาถึงตัวปราสาทได้ ถนนที่ขึ้นนั้นลาดด้วยซีเมนต์หมดทั้งเส้นแล้ว แต่ก่อนถึงลานจอดรถจะยังคงเป็นดินทรายเล็กน้อย สำหรับทางขึ้นนั้น ยิ่งสูงยิ่งชัน ซุ้มประตู ปราสาทรอบนอก ผู้คนนิยมถ่ายภาพตรงประตูนี้ ซึ่งทางขึ้นด้านหน้าเป็นบันได เหมือนกับละครเรื่องนาคี ที่ตอนสุดท้ายนางเอกเดินลงมาแล้วกลายร่างเป็นงูผู้เขียนเลยลองถ่ายบ้างสักสิบภาพเก็บไว้เป็นที่ระลึกว่าครั้งหนึ่งเคยมายืนที่ประตูเขาพระวิหาร ประตูรอบนอกสามารถเดินขึ้นบันไดและถ่ายภาพได้เลย เพราะค่อนข้างแข็งแรง ยิ่งใหญ่มากเมื่อได้เห็นเพียงประตูบานเดียว สักพักเราจะเดินเข้าไปด้านในแล้วตื่นเต้น เพราะใหญ่อลังการมาก ทางเดินเข้าสู่ปราสาท ความยาวของถนนก่อนที่จะถึงประตูปราสาทดูไม่ไกล แต่พอเราเดินจริงๆ พักอยู่หนึ่งรอบประมาณเกือบจะถึงกิโลได้ ก่อนจะถึงบันไดก่อนขึ้นซุ้มประตูเพื่อเข้าเขตปราสาทชั้นใน สองข้างทางเดินนั้นถูกประดับด้วย หินที่ปั้นเป็นรูปนาค พื้นถูกปูด้วยหินก้อนใหญ่เรียงกันอย่างสวยงามตามภาพด้านบน ถึงประตูแล้ว หินทั้งหมด และเป็นก้อนหินที่ก้อนใหญ่มาก ทางเดินนั้นไม่ได้ราบเรียบเสมอกันทั้งหมดแต่กลับกัน จะสูงขึ้นเรื่อยๆ ดูแล้วเราเหมือนกับมดเพราะปราสาทใหญ่ เมื่อเราเข้าเขตปราสาทชั้นใน กำแพงที่มีความสมบูรณ์ที่สุด ใหญ่สูงหนามาก ทุกครั้งที่มองก้อนหินแต่ละก้อนมันปนไปด้วยคำถามที่ว่า ผู้คนสมัยก่อนนั้นใช้อะไรยก เพราะเทคโนโลยีสมัยนั้นคงยังไม่มีรถเคน รถที่ยกของหนักได้ แล้วถ้าใช้มนุษย์ก่อสร้าง มนุษย์ในสมัยนั้นต้องตัวใหญ่ขนาดไหนกัน? ความสมบูรณ์ยังคงเหลือทั้งหมด เพียงแต่สิ่งที่ขาดหายไปคือหลังคาบางส่วน กำแพงมหึมามากชนิดช้างชนไม่สะเทือน ตรงนี้คือก่อนที่จะเดินขึ้นบันไดปราสาทด้านใน บริเวณกำแพงนี้สวยงามและมีลวดลายสวย ผู้คนจึงต้องได้ภาพตรงนี้ก่อนสักภาพสองภาพ ทางเดินด้านในของปราสาทชั้นใน จะเป็นหินล้อมรอบทั้งหมด รวมถึงทางเดินพื้นดินนั้นก็เป็นแผ่นหินขนาดใหญ่ อากาศด้านในเย็นฉ่ำมากเมื่อเอาแก้มไปแนบ ทั้งหินทั้งลวดลายที่แกะสลักสวยจนไม่อยากละสายตา ตรงนี้คือสถานที่สำคัญที่สุด ทุกคนจะต้องกราบไหว้เพราะตรงนี้คือสุดแล้ว และเป็นที่เชื่อว่าเป็นที่อยู่ของเทพในสมัยก่อน ตรงนี้จะมีการนำพระพุทธรูปหลายต่อหลายองค์มาวางรวมกัน และคนที่มาเที่ยวหรือมาเยือนก็จะนำดอกบัว พวงมาลัยหรือขันบายศรีมาถวาย จุดถ่ายภาพของปราสาทด้านใน เมื่อเคารพบรรพบุรุษและไหว้พระเสร็จ เดินลงมาจะมีทางเดินสำหรับถ่ายภาพ มีคนบอกว่าตรงนี้จะเป็นสถานที่หรือที่นั่งของพระสงฆ์นั่งสวดเพื่อทำพิธี สภาพก้อนหินที่กองเรียงรายกัน เตรียมที่จะนำมาสร้างปราสาทต่อ ในสมัยก่อน แต่ยังทำไม่เสร็จจึงกองกันไว้แบบนี้ เราได้แค่มองก้อนหินที่ใหญ่กว่าตัวคนหลายเท่า รอบข้างของปราสาทนั้นจะล้อมรอบด้วยหินเป็นชั้นขั้นบันได นี่อาจจะเป็นแนวหินที่ป้องกันการพังทลายของปราสาท สวยและทนทานมาก ไกลออกไปคือหน้าผาสูง จุดที่สูงที่สุดของเขาพระวิหาร หน้าผาและตรงนี้คือที่ที่สวยที่สุด แต่ห้ามมองไปด้านหลัง ทุกคนจะปีนขึ้นไปถ่าย ต้องใช้คนหรือเพื่อนยกถึงจะขึ้นได้ ความประทับใจและการได้เห็นเขาพระวิหารในครั้งนี้ มันคือที่สุดของปราสาท แม้ว่าคนอื่นที่เคยไปชมนครวัดแล้วบอกว่าสวย แต่สำหรับผู้เขียนเอง ความคิดจากการที่เที่ยวนครวัดมามากกว่าสามครั้ง เขาพระวิหารวิวสวย ทางเดินเป็นชั้นมากกว่านครวัด บันไดทางลง สามารถข้ามไปยังเขตประเทศไทยได้ บันไดนี้จะเป็นทางลงสู้ประเทศไทย ซึ่งทางขึ้นนั้นจะอยู่ทางประเทศไทย ส่วนทางขึ้นของกัมพูชาจะขึ้นทางด้านข้าง แต่ถ้าหากเราเดินลงมาเรื่อยๆจากปราสาท ก็จะข้ามมาฝั่งประเทศไทย บันไดนี้เดินลงไป ผู้เขียนก็ได้ไปเจอกับทหารของไทยที่อยู่คอยดูแลความปลอดภัย ประสบการณ์ครั้งนี้ คงเป็นครั้งหนึ่งในชีวิตที่น่าจดจำและพอนึกถึงก็จะยิ้ม ครั้งหนึ่งเราเคยไปเที่ยวปราสาทที่เป็นมรดกโลกที่ยิ่งใหญ่ อยู่บนยอดเขาพนมดงรักภาพถ่ายทั้งหมดเป็นของผู้เขียนเอง (อุ้งเท้าแมว)🗺แชร์ที่เที่ยวใหม่ๆ ไม่ว่าจะเที่ยวสายไหนก็มาแวะแชร์กับทรูไอดีคอมมูนิตี้ “เที่ยวไปให้สุด”