ถ้าพูดถึงอ่างศิลา หลายคนคงนึกถึง ตลาดอ่างศิลา แหล่งอาหารทะเลสดๆแห่งหนึ่งในจังหวัดชลบุรี ที่มีทั้งปลา กุ้ง ปลาหมึก หอย ปู ให้เลือกจับจ่ายกันมากมาย นอกจากนี้ยังมีทั้งอาหารทะเลแห้งและแปรรูปขายค่อนข้างมาก อาทิเช่น ปลาหมึกแห้ง หมึกหวาน กุ้งแห้ง กะปิ น้ำปลา ปลาแดดเดียว ปลาเค็ม และอีกมากมายให้เลือกจับจ่ายตามใจชอบ แต่เมื่อพูดถึงแหลมฉบัง ภาพในหัวหลายๆคนคงเป็นแหล่งอุตสาหกรรมและท่าเรือขนาดใหญ่แห่งหนึ่งในเมืองไทย ถนนหนทางที่เต็มไปด้วยรถเทลเลอร์ที่มีตู้คอนเทนเนอร์สินค้าอยู่ด้านหลัง วิ่งเข้าวิ่งออกอยู่ในย่านนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง แต่รู้หรือไม่.. ในแหลมฉบัง ก็มีการทำประมงพื้นบ้าน มีท่าเรือประมง และมีตลาดสะพานปลาที่ต้องบอกเลยว่า...สดจากทะเลจริงๆ ขึ้นจากเรือปุ๊บ..ขายปั๊บเลย ตลาดสะพานปลาแหลมฉบัง ตั้งอยู่บริเวณไม่ไกลจากหาดแหลมฉบัง และนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง โดยหากขับรถมาจากนิคมฯแหลมฉบังแล้ว ให้ชิดซ้ายตามป้ายบอกทางไป “แหลมฉบัง” เลี้ยวไปทางซ้ายตามป้าย แล้วขับตรงไปเรื่อยๆ ก็จะพบป้ายบอกทาง “ชุมชนหมู่บ้านแหลมฉบัง” ซึ่งมีสะพานกลับรถอยู่ด้านซ้ายมือ เลี้ยวซ้ายขึ้นสะพานตามป้ายได้เลย ขณะกำลังกลับรถลงมาจากสะพาน จะพบป้ายบอกทาง “ชุมชนหมู่บ้านแหลมฉบัง” เลี้ยวซ้ายตามป้ายจะพบทางรถไฟ ขับตรงไปตามทางอีกสองกิโลกว่า ก็ถึงจุดหมาย ก่อนถึงสะพานปลาแหลมฉบัง จะพบร้านจำหน่ายอาหารทะเลแห้งและแปรรูปข้างทาง ลองแวะจอดซื้อตอนขากลับก็ได้ พ่อค้าแม่ค้าใจดี ซื้อของมีทั้งลดทั้งแถมตลอดเลย ขับตรงมาอีกนิดจะพบแยก หากเลี้ยวซ้ายจะเป็นหาดแหลมฉบัง ถ้าตรงไปจะเป็นสะพานปลาบ้านแหลมฉบัง ขับเลยแยกอีกนิดเดียวก็ถึงจุดหมาย ที่นี่ที่จอดรถค่อนข้างน้อยหน่อย สองข้างก็เป็นบ้านของชาวบ้านละแวกนั้น ส่วนใหญ่คนที่ไปก็จอดรถบริเวณนั้น ขอแค่อย่าจอดกีดขวางการจราจรก็แล้วกัน เดินเข้าบริเวณด้านหน้าตลาด (พอดีอยู่ในช่วงโควิท) จะพบป้ายแนะนำก่อนเดินเข้าตลาด ขอแนะนำให้ให้ปฏิบัติตาม เพราะมันจะเป็นผลดีกับทุกฝ่าย ฮ่าๆๆ เดินเข้าไปด้านในก็จะเริ่มเห็นร้านค้าอาหารทะเลทั้งแบบสดและแห้งเรียงรายอยู่ทั้งสองฝั่ง ย้ำว่าที่นี่ขายของสดมากกกกกก...แบบเพิ่งขึ้นจากเรือกันทีเดียว สามารถจับจ่ายกันได้ตามใจชอบ แม้ว่าขนาดของตลาดที่นี่จะไม่ได้มีขนาดใหญ่เหมือนตลาดอ่างศิลา แต่ความสดใหม่ที่มาจากเรือโดยตรงและราคาที่ถูกกว่าก็เป็นเสน่ห์เล็กๆที่ดึงดูดลูกค้าของชุมชนที่นี่ ลูกค้าส่วนใหญ่ของที่นี่มักจะเป็นพนักงานในนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง เดินเลยไปอีกหน่อยจนสุดทางจะเป็นท่าจอดเรือประมงที่มีเรือจอดอยู่เรียงราย มองเห็นอู่ซ่อมเรือซึ่งอยู่ในพื้นที่ของนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบังอยู่ฝั่งตรงข้ามอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล การที่มีพื้นที่อุตสาหกรรมอยู่ใกล้เคียงกับการประมงพื้นบ้าน ทำให้เกิดความคิดบางอย่างได้ว่า ทุกสิ่งที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงกัน ย่อมต้องพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน ทำให้เกิดการพัฒนาร่วมกัน ซึ่งนั่นจะทำให้เกิดความยั่งยืนในทรัพยากรทะเล อันนำมาซึ่งความยั่งยืนของชุมชนนั่นเอง หากท่านใดผ่านไปผ่านมาในย่านศรีราชา แหลมฉบังแล้ว ลองแวะเข้ามาดูนะครับ รับรองว่าอาจจะหลงเสน่ห์ของที่นี่อย่างที่คาดไม่ถึงก็ได้นะครับ ภาพถ่ายโดยผู้เขียน