(ภาพปกถ่ายและตกแต่งโดยผู้เขียน) วันนี้ผู้เขียนจะมาบอกเล่าประสบการณ์การเดินทางไปเที่ยวสถานที่ที่ประทับใจที่สุดแห่งหนึ่งที่เคยไปมาค่ะ สถานที่แห่งนี้ คือ นครเพตรา (Petra) เมืองโบราณที่ซ่อนตัวอยู่ในหุบเขาของประเทศจอร์แดน ซึ่งเป็นประเทศที่หลาย ๆ คนน่าจะคุ้นเคยเนื่องจากในช่วง 2-3 ปีมานี้ คนไทยนิยมไปเที่ยวประเทศนี้กันมากขึ้น โดยจอร์แดนมักจะถูกจับคู่เป็น package ท่องเที่ยวกับประเทศอียิปต์ค่ะ ซึ่งผู้เขียนเองก็ไปเที่ยวโดยทัวร์เช่นกัน เป็นทัวร์อียิปต์ - จอร์แดน 8 วัน 5 คืนค่ะ โดยในบทความนี้จะขอเน้นที่เมืองเพตรา ซึ่งตั้งอยู่ในทะเลทรายทางตอนใต้ของจอร์แดนและล้อมรอบไปด้วยภูเขาหินทรายค่ะ ในคืนก่อนหน้าที่จะไปเที่ยวนครเพตรา ผู้เขียนได้พักอยู่ที่โรงแรม Petra Ponorama Hotel ค่ะ ซึ่งสิ่งที่ประทับใจในโรงแรมนี้คือวิวค่ะ วิวยามเช้าจากระเบียบห้องสวยมากกกกก ทอดสายตามองออกไปจะเห็นเนินเขากระจายตัวอยู่ทั่ว บอกได้เลยค่ะว่าค่าห้องหลักพัน แต่วิวหลักล้านจริง ๆ เลยขอเก็บภาพวิวของห้องมาให้ชมเป็นน้ำจิ้มก่อนค่ะ (ภาพประกอบโดยผู้เขียน) โดยในช่วงสาย ๆ ของวันผู้เขียนก็ได้เดินทางไปถึงนครเพตรา โดยก่อนเข้าก็ต้องซื้อบัตรก่อนค่ะ สำหรับบัตรจะมีหลายประเภทนะคะ เช่น บัตรแบบเข้าชม 1 วัน, 2 วัน หรือ 3 วัน เนื่องจากอาณาเขตของนครเพตราใหญ่มากค่ะ บางคนอาจจะอยากใช้เวลาเดินให้ครบทุกที่ ซึ่งก็ต้องใช้เวลามากกว่า 1 วันค่ะ สำหรับผู้เขียนเองมีเวลาจำกัดแค่ครึ่งวันเท่านั้น เลยเลือกซื้อตั๋วแบบ 1 day pass ค่ะ ราคา 50 จอร์ดีนา ซึ่งตีเป็นเงินไทยแล้วก็ประมาณ 2,200 บาทค่ะ T_T (1 จอร์ดีน่า ประมาณ 44 บาทค่ะ) เอาจริง ๆ ราคาค่าเข้าชมถือว่าค่อนข้างสูงเลยค่ะ แต่พอได้เข้าไปจริง ๆ บอกได้เลยว่าคุ้มค่ามากจริง ๆ หลังจากได้ตั๋วแล้ว ก็ไปดูแผนที่ก่อนค่ะ (ภาพประกอบโดยผู้เขียน) อย่างที่บอกไปว่านครเพตราจริง ๆ แล้วมีพื้นที่ใหญ่มาก และมีจุดที่ให้ชมได้หลายจุด เช่น เขื่อน (The Dam) โรงละครโบราณ (Theatre) สุสาน (The Tomb) เป็นต้น แต่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มักจะเดินไปถึงแค่จุดไฮไลท์ที่สุดของที่แห่งนี้จริง ๆ คือ The Treasury (ภาษาท้องถิ่นจะเรียกว่า Al Khazna) เท่านั้นค่ะ เป็นมุมมหาชนที่ทุกคนจะต้องไปถ่ายรูปให้ได้ สำหรับผู้สูงอายุหรือคนที่ไม่ถนัดเดินจริง ๆ ไม่ต้องกังวลนะคะ เพราะเมื่อเข้าไปข้างในแล้ว ตั้งแต่ต้นทางจะมีไกด์ท้องถิ่นเข้ามาตามประกบชักชวนให้ใช้บริการขี่ม้าชมเพตรา ราคาก็มีหลายแบบค่ะ มีทั้งแบบไปขาเดียวแล้วเดินกลับ หรือไป - กลับ ด้วย หรือถ้าขาไปอยากเดินไป แต่ขากลับเหนื่อยแล้วอยากนั่งม้าก็มีม้าบริการจากด้านในค่ะ แต่หากคนไหนไม่ถนัดการขี่ม้าก็มีรถม้าให้นั่งค่ะ ซึ่งราคาจะแพงขึ้นไปอีกหลายเท่าตัวแต่บอกได้เลยว่าสะดวกสบายมากจริง ๆ ผู้เขียนพอเดินไปถึงกลางทางยังแอบอิจฉาคนนั่งรถม้าเลยค่ะ (ภาพประกอบโดยผู้เขียน) ด้วยความที่มั่นใจมากว่าฟิตร่างกายมาอย่างดี เลยเลือกที่จะเดินเข้าไปค่ะ อุปสรรคจริง ๆ ไม่ใช่ระยะทางที่เดินนะคะ เพราะเดินเข้าไปให้ถึง The Treasury ไม่กี่กิโลเองค่ะ แต่อากาศวันนั้นร้อนจริง ๆ เนื่องจากจอร์แดนเป็นประเทศที่ร้อนและแห้งแล้ง ไกด์บอกว่าที่ประเทศจอร์แดนโดยเฉลี่ยฝนตกหนัก ๆ ปีละแค่ 3 วันเองค่ะ แต่ถึงจะร้อนก็ทนได้ค่ะ เดินไปพักชมวิวข้างทางไป จะพบกับสถาปัตยกรรมที่สร้างหากหินทราย บางอันก็สร้างด้วยมนุษย์ แต่บางอันก็เป็นผลผลิตจากธรรมชาติค่ะ (ภาพประกอบโดยผู้เขียน) ขอเก็บภาพแดดร้อนระอุมาให้ชมซักนิด เป็นหลักฐานว่าร้อนจริงอะไรจริง น้ำขวดคือสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยนะคะ มีขายตั้งแต่ก่อนเข้าแล้ว ถึงจะขายแพงกว่าปกติไปบ้าง แต่ก็แนะนำว่าควรมีติดตัวเข้าไปจริง ๆ ค่ะ ไม่ควรปล่อยให้ร่างกายขาดน้ำกลางอากาศร้อน ๆ นะคะ เดี๋ยวจะเป็นลมเอา (ภาพประกอบโดยผู้เขียน) เมื่อเดินมาได้ประมาณ 1-2 กิโลก็จะพบกับหนึ่งในไฮไลท์ของเพตรา ก็คือ The Siq ค่ะ ซึ่งเป็นทางเข้าหลักของนครเพตรา โดยจะเป็นช่องเขาหินที่แยกออกจากกันจนเป็นทางเดิน บางจุดก็กว้าง บางจุดก็แคบค่ะ แต่ขอบอกว่าข้างในบางจุดก็ร่มมาก ๆ ค่ะ เป็นที่หลบแดดได้ดีจริง ๆ โดยตลอดทางเดินของ The Siq นั้น จะมีนักท่องเที่ยวแวะถ่ายรูปเป็นระยะ ๆ ค่ะ (ภาพประกอบโดยผู้เขียน) เดินมาได้ซักพักก็ถึงแล้วค่ะ The Treasury หรือ Al Khazna ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมโบราณขนาดใหญ่ สูงราว ๆ เกือบ 50 เมตรได้ค่ะ โดย The Treasury มีทั้งหมด 2 ชั้นค่ะ แต่นักท่องเที่ยวสามารถชมได้แค่ด้านนอกนะคะ ผู้เขียนแอบสงสัยอยู่ว่าสถานที่แห่งนี้คนโบราณสร้างไว้เพื่อจุดประสงค์อะไรกันแน่ แต่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีข้อสรุปที่แน่ชัดเลยค่ะ บ้างก็คาดเดาว่าอาจจะถูกใช้เป็นที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาค่ะ (ภาพประกอบโดยผู้เขียน) โดยข้างหน้าสถานที่แห่งนี้จะมีไกด์ท้องถิ่นพร้อมเหล่าน้องอูฐตัวใหญ่ ๆ ให้นักท่องเที่ยวเช่าขี่เพื่อถ่ายรูปด้านหน้าสถาปัตยกรรมที่ยิ่งใหญ่นี้ค่ะ บอกได้เลยว่าภาพที่ออกมาจะดูดีมาก ๆ แต่ผู้เขียนไม่ได้เช่านะคะ เนื่องด้วยค่าเช่าค่อนข้างแพง และอูฐก็ตัวสูงมากเลยค่ะ สูงกว่าที่จินตนาการไว้เยอะเลย บอกตรง ๆ ว่ากลัวตกลงมาแล้วเจ็บค่ะ เมื่อหามุมถ่ายรูปจนพอใจแล้ว กำลังจะเดินย้อนกลับทางเดิม ปรากฏว่ามีไกด์ท้องถิ่นมาชักชวนให้ขึ้นไปถ่ายรูป The Treasury จากมุมด้านบนค่ะ คอนเฟิร์มว่าวิวสวยมาก ๆ โดยเขาจะเป็นไกด์พาเดินขึ้นไปให้และคิดค่าบริการคนละประมาณ 15 ดอลลาร์ค่ะ (ในนี้สามารถใช้จ่ายเป็นเงินดอลลาร์สหรัฐได้นะคะ แนะนำให้เตรียมธนบัตรย่อยสกุลเงินดอลลาร์ไปด้วยจะดีมากเลยค่ะ) ผู้เขียนกับเพื่อนที่ไปด้วยเลยตัดสินใจขึ้นไป ซึ่งตอนแรกไกด์บอกว่าไม่ไกลค่ะ แต่รู้สึกเหมือนถูกหลอกมาก ๆ เพราะทางที่เดินขึ้นเขาชันและอันตรายมากค่ะ บางจุดต้องก้าวข้ามหน้าผา 2 ฝั่ง ตรงกลางเป็นช่องว่าง ซึ่งพอมองลงไปก็คือพื้นดินเลยค่ะ เอาง่าย ๆ คือถ้าก้าวพลาดขึ้นมาก็มีสิทธิจะเอาชีวิตไปทิ้งที่นั่นได้เลย ผู้เขียนกับเพื่อนคือใช้ทั้ง 2 มือ 2 เท้าในการปีนบางจุดด้วยซ้ำ เสื้อผ้าเปื้อนกันไปหมดเลยค่ะเนื่องจากเป็นเขาหินทราย ถึงกลางทางก็หารือกันเสียงเครียดเลยค่ะว่าจะไปต่อกันไหม ไกลอยู่นะ แค่นี้ก็แย่แล้วนะ อันตรายนะ ตกลงไปนี่ถึงตายเลยนะ ประมาณนี้เลยค่ะ แต่ไกด์ก็น่ารักนะคะ คอยบอก (หลอก) ว่าอีกไม่ไกลแล้ว พยายามช่วยดึงช่วยประคองในจุดที่มันชันมาก แต่พอกัดฟันขึ้นมาจนถึงข้างบนได้ บอกเลยว่าหายเหนื่อยค่ะ เพราะข้างบนมีลมเย็น ๆ และมุมจากข้างบนก็สวยสมกับคำโฆษณาจริง ๆ ค่ะ (ภาพประกอบโดยผู้เขียน) ผู้เขียนใช้เวลาข้างบนพักใหญ่ ๆ ก็เดินลงค่ะ ขาขึ้นว่ายากแล้ว ขาลงยากกว่าเป็นเท่าตัวเลยค่ะ เพราะจริง ๆ ผู้เขียนเป็นคนกลัวความสูง (แต่ไม่ถึงกับกลัวมากนะคะ) ขาขึ้นเราแค่มองทางด้านบน แต่ขาลงนี่สิคะ ต้องมองลงด้านล่าง พอเห็นความสูงเท่านั้นล่ะ บางจุดถึงกับขาสั่นเลยค่ะ จุดตรงไหนที่ชันมาก ๆ ก็ถึงกับต้องนั่งแล้วเอาก้นกับ 2 มือ 2 เท้าช่วยกันไถลงเลยล่ะค่ะ กว่าจะลงมาถึงเรียกได้ว่ามอมแมมและอยากอาบน้ำใหม่มาก ๆ แต่ก็นับเป็นประสบการณ์ที่คุ้มค่านะคะ ขากลับผู้เขียนค่อย ๆ เดินกลับผ่าน The Siq ทางเดิมค่ะ มีเวลาชื่นชมธรรมชาติรอบข้างบ้าง เนื่องจากขาไปจะรีบเดินไปให้ถึงอย่างเดียวค่ะ โดยจุดที่ประทับใจที่สุดในการเดินกลับผ่าน The Siq คือ เจ้าต้นไม้เล็ก ๆ ที่แทรกขึ้นมาจากร่องเขาหินและพยายามขยายกิ่งก้านเติบโตค่ะ ทั้ง ๆ ที่รอบข้างเป็นหินและทรายที่แห้งแล้งมาก ซึ่งทำให้ผู้เขียนนำมาเปรียบเทียบกับชีวิตว่า เราอาจจะต้องพบเจอความลำบากบ้าง แต่สุดท้ายก็ต้องพยายามที่จะมีชีวิตรอดให้ได้เหมือนเจ้าต้นไม้นี้ค่ะ (ภาพประกอบโดยผู้เขียน) เมื่อถึงปากทาง The Siq ผู้เขียนก็อยากลองนั่งม้าดูซักครั้ง เลยยอมจ่ายเงิน 10 ดอลลาร์ แลกกับการขี่ม้ากลับไปยังจุดจำหน่ายตั๋วค่ะ ซึ่งไกด์ท้องถิ่นก็จะคอยจูงม้าให้เรา ถ้าเราอยากให้ม้าวิ่งก็บอกเค้าได้ค่ะ เค้าพาวิ่งได้ แต่พอผู้เขียนรู้ว่าม้าตัวที่นั่งอยู่นั้นกำลังตั้งท้องอยู่ก็รีบบอกเค้าเลยค่ะว่าขอแค่เดินพอ สงสารมันค่ะ ระยะทางที่ขี่ม้าทั้งหมดประมาณ 2 กิโลเมตรค่ะ (ภาพประกอบโดยผู้เขียน) สรุปทริปนครเพตราในครั้งนี้ มีทั้งความเหนื่อย ความร้อน ความยากลำบาก และความเสี่ยงชีวิตค่ะ แต่เหนือสิ่งอื่นใดคือ ประสบการณ์ที่มีคุณค่า และผู้เขียนแนะนำว่าครั้งหนึ่งในชีวิตอยากให้ทุกคนมาเที่ยวชมให้ได้เลยค่ะ