วันนี้จะพาไปเดินตามตรอกตลาดน้อย และออกไปตามถนนย่านเจริญกรุง เราเอารถมาจอดที่อาคารจอดรถของไปรษณีย์กลาง ซึ่งคิดค่าจอดชั่วโมงละ 20 บาท การเดินตามตรอกถ่ายรูป กินกาแฟ ของอร่อยไป ก็ใช้เวลาไปประมาณ 5 ชั่วโมง นับเป็นการออกกำลังกายที่ดีทีเดียว จุดเริ่มของเราเริ่มจากซอยข้างไปรษณีย์กลาง ซอยเจริญกรุง 32 ที่มี Graffiti หรือภาพวาดพ่นขูดขีดลงสีตามกำแพง มันดึงดูให้คนต้องเข้าไปขอถ่ายภาพจากนั้นเราเดินทะลุ Warehouse 30 ก็จะเดินมาทะลุ ซ.เจริญกรุง 30 ได้ เดินไปตามตรอกกัปตันบุช ก็จะเจอกำแพงแกะสลักนี้ เราเดินไปเรื่อยถ่ายรูปไปด้วย ยอมรับหลงทางบ้าง แต่ผู้คนให้การต้อนรับดีเกินคาด ทุกคนยินดีบอกทางและแนะนำว่าเข้าไปทางไหนและมีอะไรต้องแวะบ้างเดินไปเห็นร้านอาซ้อคนนี้เก๋ดี ขอถ่ายรูปได้ไหม ซ้อใจดีบอกถ่ายได้เลย มีคนมาขอถ่ายเยอะ และแนะนำให้เข้าไปข้างในเขามาถ่ายรูปกันเยอะ...เข้าไปเลย เข้าไปทางตรอกศาลเจ้าโรงเกือกแค่เข้ามาในตรอกก็เดินถ่ายกันไปได้เป็นครึ่งชั่วโมงได้ ตรอกก็จะเล็กพอดีกับรถตุ๊กตุ๊กแล่นได้คัน ส่วนใหญ่จะมีแต่จักรยานกับมอเตอร์ไซค์แล่นผ่านบ้าง ก็ถ่ายรูปกันได้ไม่อันตรายอะไรเดินเข้าไปถึงกำแพงนี้ สังเกตให้ดีมีกาแฟอยู่ในนี้ ชื่อ Mother Roster มุดเข้าไปขึ้นไปชั้นสองเลยค่ะ เพราะชั้นล่างเป็นที่เก็บเศษเหล็ก ตอนเข้าไปเหม็นเศษเหล็ก มองหากระไดก็ขึ้นไปได้ค่ะ ขึ้นไปก็หอมกาแฟเลยค่ะ บรรยากศในร้านก็เก่าๆ แบบมีเสน่ห์ กาแฟหอมอร่อยใช้ได้เลยพักดื่มกาแฟจนหายร้อน ก็เดินต่อเข้าไปในตรอก หลังจากผ่านศาลเจ้าโรงเกือกแล้ว เราเลี้ยวตามทางไปเลย จะเจอ "บ้านริมน้ำ" ร้านนี้เป็นร้านที่อยู่ริมน้ำบรรยากาศดี 5 ดาวเลย อากาศร้อนๆเข้าไปนี่ลมเย็นจนอิจฉาพนักงานที่ทำงานที่นี่ได้อากาศดีจัง ที่นี่มีอาหารและมีเครื่องดื่มหลากหลายชนิด ช่วงนี้นักท่องเที่ยวต่างชาติหายไปหมด ร้านก็ยังคงเปิดต้อนรับนักท่องเที่ยวไทยเป็นอย่างดี เชิญให้เข้าไปถ่ายรูปได้พูดคุยกันให้กำลังใจกันในช่วงวิกฤตนี้ แค่นี้ที่ร้านก็ขอบคุณที่แวะเวียนเข้ามาระหว่างทางเห็นเจ้า Scooter ไฟฟ้า น่าสนุกดีจัง หัวหน้าทัวร์เล่าว่าเริ่มาจาก โรบินสันบางรักและลัดเลาะตามตรอกไปเรื่อยๆ เป็นทริปกรุ๊ปที่น่ารักเขาว่าช่วงนี้มีลดราคาเยอะมากลองค้นหาดูนะคะ ชื่อ Go Scooter Bangkok (ไม่ได้ค่าโฆษณานะคะ หัวหน้าทัวร์เขาดูสนุกสนานและอยากให้คนมาเที่ยวกัน)จากนั้นเราเดินเข้าไปอีกจะเจอบ้านจีนโบราณ "บ้านโซวเฮงไถ่" ซึ่งเป็นของเจ้าสัวจาด ซึ่งเป็นนายอากรรังนกชาวจีนที่มาทำการค้าขายที่เมืองไทยตั้งแต่สมัยสมเด็จพระเจ้าตากสิน เราอุดหนุนขนมและเครื่องดื่มเพื่อชื่นชมบรรยากาศที่มีประวัติยาวนาน ชมศิลปะของอาคารที่แปลกตาแทบจะหาไม่ได้ในปัจจุบันนี้ สระว่ายน้ำตรงกลางนั้นเป็นของใหม่ที่เจ้าของนคนปัจจุบันสร้างไว้สอนดำน้ำ ซึ่งทำให้บ้านดูสวยงามแปลกตา สีฟ้าของสระน้ำกับสีแดงของตัวบ้านมันลงตัวดีจัง การเข้าชมบ้านเราต้องให้เกียรติเจ้าบ้านช่วยปฏิบัติตามกฎของบ้านกันด้วยนะคะเราอำลาบ้านเจ้าสัวแล้วเดินตามตรอกต่อไป ตลอดทางมีมุมสวยๆให้ถ่ายรูปได้ตลอด จนทะลุออกถนนเจริญกรุงเราเดินตามถนนจนเจอ ซ.เจริญกรุง 22 หน้าปากซอยมีรถเข็นขายข้าวเหนียวหน้าทุเรียน หน้าสังขยา หน้าขนุน อีกรถเข็นเป็นขนมปังปิ้งเนยน้ำตาล คนรอคิวทุกร้านเลยเดินเข้าไปในซอยเจริญกรุง 22 ซัก 300 เมตร จะเจอร้านกะหรี่บั้บคุณปุ๊ น่าเสียดายหมดเสียแล้ว ต้องโทรมาจองเช้าๆ งวดหน้าไม่พลาดจะโทรจองมาก่อนเลยเดินออกจากซอยมาจะเจอร้านก๋วยเตี๋ยวรู ตลาดน้อย ขอแวะพักทานซักหน่อย ในร้านเป็นทางเข้าแคบๆ ด้านในยังมีที่นั่งอีกมาก เส้นบะหมี่เขาเป็นเส้นแบนเหนียวนุ่ม ชอบจังขากลับขอเดินย้อนไปที่ธนาคารไทยพาณิชย์ที่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นอาคารดั้งเดิมตั้งแต่แรกเริ่มที่เดิมชื่อว่าสยามกัมมาจล การจะเข้ามาถ่ายตรงหน้าอาคารได้ต้องมาวันที่ธนาคารเปิดทำการ รปภ. ก็จะอนุญาตให้เข้ามาถ่ายภาพได้ค่ะ ออกมาด้านถนนหน้าธนาคาร มีอาหารมากมายน่าชิมทั้งนั้นเลย มีขนมครกน่าทานมากต้องแวะกันนะคะ เราเดินทะลุตามตรอกกลับไปทาง River City หลังจากเดินจนเมื่อยก็เจอ ทัวร์จักรยานซึ่งน่าสนใจมากเลย เขามีหลากหลายทริปให้เลือก ช่วงนี้ก็ลดราคาเยอะ ใครสนใจก็ติดต่อได้เลยนะคะ งวดหน้าเราคงได้ใช้บริการแน่ก่อนเขาขึ้นราคา ขอจบทริปแต่เพียงเท่านี้นะคะ