วันนี้หาที่พัก โดยการพักที่อุทยานดอยสุเทพ - ปุย ด้วยความที่มาครั้งแรก ทางขับช่วงแรกถือว่าค่อยๆเป็นเนินสามีบอกขับไม่ยาก หนิงเห็นรถสวนมา มีรถยนต์เยอะเลยค่ะ ขับตามทางมาเรื่อยๆหลงค่ะ แผนที่พาขึ้นไปที่ศูนย์กระจายเสียงดีที่สุดเป็นทางตันเลย ถอยกลับมาตั้งไปลายกางเต็นท์ดอยสุเทพเลย ขับขึ้นไปอีกค่ะ ผ่านหมู่บ้านขุนช้างเคียนเจอจุดชมวิวเลยไปถ่ายรูปกันสวยมากเลยค่ะ มองวิวได้ไกลมากมุมนี้สูงมองกว้างมากด้านล่างเห็นหมู่บ้านด้วยนะคะ มีหมอกไกลๆให้ได้เห็นและขับรถต่อ เพื่อจะไปที่ตั่งแผนที่ไว้ถนนแคบแต่รถขับไปสะดวกพระถนนดีมากค่ะ ต้องกดสัญญาณแตรเป็นระยะนะคะ มีป้ายบอกเป็นช่วงๆคือปลอดภัยระดับหนึ่งค่ะ แต่ช่วงนี้สามีบอกว่าขับยากพอควรเพราะฝนเพิ่งตกด้วยค่ะ แต่วิวสวยมากมองเห็นเมืองเชียงใหม่เป็นระยะๆ แต่พอถึงปรากฏว่าส่วนนี้ปิดค่ะ จะเปิดอีกครั้งเดือนพฤศจิกายนนะคะ นี่ไงเพราะเราไม่ได้วางแผนมาดีๆเลยไม่ได้เข้าไปดูข่าวสารของอุทยานค่ะ แต่เจ้าหน้าที่น่ารักมากค่ะ แนะนำว่าต้องลงมาพักที่ลานกางเต็นท์สวนสนค่ะ เลยค่อยๆขับลงมาและถือโอกาสสำรวจพื้นที่ด้วยค่ะ รอบหน้าไม่พลาดหนาวๆน่าจะสนุกด้วยนะคะ พอขับมาถึงลานกางเต็นท์สวนสนก็เข้ามาติดต่อเจ้าหน้าที่ด้านในค่ะ วันที่มาเป็นวันอาทิตย์พอดีเวลาประมา5 โมงเย็นค่ะ มีรถจักรยานปั่นขึ้นมากันด้วยนะคะ สวรรค์ของชาวจักรยานและชาวเที่ยวเลยค่ะ ติดต่อขอกางเต็นท์แล้วมีค่าธรรมเนียมคนละ 30 บาทนะคะ ที่นี่ยังไม่ขึ้นราคาค่ะ แต่ยังไงเพื่อนๆต้องสอบถามราคาด้วยนะคะ หนิงมา 31 กรกฎาคมนอนหนึ่งคืนและเช้า 1 สิงหาคมสายๆกลับค่ะ มาดูรีวิวคราวๆกันค่ะ ส่วนพื้นที่ติดต่อนะคะ ตรงนี้ประทับตราพาสปอร์ตอุทยานได้เลยเปิดหน้า 14 นะคะ ยื่นให้เจ้าหน้าที่ได้เลยจะพักบ้านพักสวยๆแบบนี้หรือเช่าเต็นท์ และเครื่องนอนได้ค่ะ ถามราคาที่จุดติดต่อได้เลยสะดวกดีค่ะ ของหนิงนำมาเองค่ะเพราะขับรถมาจากบ้านสะดวกขนของห้องน้ำมีหลายห้องแยกชายหญิง มีห้องอาบน้ำให้ด้วยค่ะ 30 บาทต่อคนจะคุ้มไปไหน และสามารถซื้อเครื่องดื่มอาหารได้ที่นี่ค่ะ แต่หนิงมาเย็นมากเลยมีแต่มาม่าค่ะ เลยลงไปหาของกินที่ พระธาตุดอยสุเทพค่ะ อาหารเยอะมากคนยังคึกคักนะคะ ถามคนขายของแถวนี้พี่เค้าบอกว่าพระธาตุปิดประมาณทุ่มครึ่งแต่ร้านปิดประมาณสามทุ่มค่ะ สบายเลยหนิงซื้อของเสร็จก็กลับมากางเต็นท์ค่ะ เต็นท์เล็กๆช่วยกันกางแป๊บเดียวค่ะ เลยเดินมาดูวิวก่อนค่ำ หนึ่งรอบ ชื่นชมสักพักหิว และอยากอาบน้ำเพราะค่อนข้างอากาศเย็นค่ะ 22 องศา เสร็จแล้วก็มานั่งพัก กินอาหารกัน พอเสร็จเดิมมาที่จุดชมวิวอีก รอบ โอ้ววว งามขนาดไฟ สวยดีค่ะ ภาพเมืองเชียงใหม่อยู่ตรงหน้าเลย กลับมาหน้าเต็นท์นั่งคุยกันสักพัก เข้านอน สามทุ่ม วันนี้ง่วงมากๆเพราะออกจากบ้านมาเชียงใหม่แต่เช้า ตอนเที่ยงคืนฝนตกค่ะ ไม่หนักมากแต่เยอะ ไม่มีปัญหา เต็นท์กันฝน หลับรวดเดียวตื่นมาตีสี่ครึ่งเลยค่ะ ไม่เคยหลับรวดเดียวตื่นแบบนี้มานานเลยโชคดีเช้านี้ฝนหยุดตกแล้ว ไม่รู้จะทำอะไรล้างหน้าแปรงฟัน ชวนกันมานั่งที่จุดชมวิวซึ่งเป็นร้านกาแฟด้วยค่ะ ตรงนี้เปิดไฟไว้ให้ด้วยค่ะ หนิงเลยมานั่งทำงานด้วย รอดูพระอาทิตย์ขึ้นค่ะเพราะตรงนี้เป็นฝั่งตะวันออก เจ้าหน้าที่บอกไว้เมื่อวานเย็นค่ะ ตอนนี้ยังไม่สว่างดูแสงดอน ตอนเช้า พระธาตุก็มองจากตรงนี้เห็นด้วยนะคะ เปิดไฟ สีทองอร่ามสวยมากๆเลยค่ะ มีทะเลหมอกที่หนาๆ ค่อยๆบังภาพเมืองด้านหน้า หนิงนั่งตรงนานมากๆค่ะ รอดูพระอาทิตย์แต่ด้วยหมอกหนาลยเห็นแต่แสงสะท้อนไกลๆแต่ก็ยังสวยมากๆค่ะ จะค่อยๆเห็นทะเลหมอกหนาและลอยสูงขึ้นเรื่อยๆค่ะ หนิงรอจนประมาณ 6 โมงเช้าค่ะ ลมพัดทะเลหมอกเข้ามาหาตัวเลยค่ะ เลิศมากพอร้านกาแฟเปิดยังอยู่ที่เดิมค่ะ ลมพัดหมอกมาอีกรอบภายใต้หน้ากากยิ้มปากแทบฉีกโรแมนติกมากเป็นการนั่งทำงานทีแบบดีย์ขนาดหนัก ค่ะ การมาเที่ยวช่วงวันทำงานคือ อุทยานเป็นของหนิงค่ะ วันนี้เช้านี้ จิบกาแฟร้อนๆกาแฟที่นี้รสนุ่มดีค่ะ หนิงสั่งมอคค่าร้อนค่ะ ราคาไม่แพงด้วยค่ะ ที่ว่านั่งทำงานหนิงเขียนเรื่องนี้ตอนที่นั่งจิบกาแฟและจมมวลทะเลหมอกอยู่เลยค่ะ นั่งจนถึงประมาณ 9 โมงเลยค่ะ ไม่มีคนอื่นเลยทะเลหมอกโดนลมพัดเข้ามา 4-5 รอบได้ค่ะ ดีมากๆ ส่วนทานอาหารกว้างและสะอาด วันนี้มี จนท. เข้ามาเลยไม่มีอาหารขายนะคะ แต่ก็ตั้งใจว่าจะกลับบ้านค่อยหาของกินระกว่างทางกลับแอบไม่ต้องวางแผนค่ะ ไหนๆมาเชียงใหม่รอบนี้ไม่วางแผนมาตามหัวใจสามีก็จัดให้จบรายการไปเลยค่ะ ห้องน้ำในส่วนของพื้นที่ติดต่อค่ะ สะอาดสะอ้านมาก ถนนตอนมีทะเลหมอกค่ะ สวยบรรยากาศดีขนาดนี้หนิงใช้จ่ายเพียง 140 บาทค่ะ ค่าเข้า 2 คน 60 กาแฟแก้วละ 40 จำนวน 2 แก้ว 80 แต่คือวิวนี้ประเมินค่าไม่ได้เลยสัญญาณโทรศัพท์ที่นี่ เต็มมากๆค่ะ ลื่นปรื๊ดเลยนั่งทำงานสบายใจได้เลย อันนี้ชอบที่สุด เจ้าหน้าที่ ที่นี่ขยันมากค่ะ เดินไปเจอกิ่งไม้ก็เก็บทิ้งและกวาดพื้นที่แต่เช้าเลยค่ะ ก่อนกลับถ่ายภาพจุดกางเต็นท์นะคะ หมอกมาหนาๆเลย ลานทางเดินไปที่จอดรถอันนี้หนิงเรียกลานตะคริวกินน่องค่ะ ต้องเกรงกลัวจะกลิ้งลงไปแต่ก็เดินได้ไม่ยากมากค่ะ ต้นไม้เป็นสีนี้หลายต้นเลยค่ะ สีสวยมากๆเป็นสีธรรมชาติของเค้าเลย นะคะ ใช้เวลาเก็บของเดี๋ยวเดียวก็หมดค่ะ สำรวจว่าเก็บขยะหมดแล้วและไม่ลืมของก็ขับรถออกมาค่ะ ตอนลงไปเราก็นำขยะต่างๆลงไปทิ้งถังขยะด้านล่างด้วยนะคะ ของหนิงเอากลับมาทิ้งเชียงรายที่บ้านไปเลยค่ะ ทุกอย่างมีเวลาของมันทุกอย่างต้องแลกกันค่ะ เมื่อคืนฝนตกพื้นอาจเปียกแฉะไปบ้างแต่เช้ามาเราจะเจอทะเลหมอกหนาๆอากาศดีไม่หนาวมากจนสั่ง แต่อากาศกำลังดีสบายตัว หนิงเตรียมเสื้อกันหนาวมาทั้งๆที่ก็ไม่แน่ใจว่าจะหนาวหรือเปล่าหรือจะพักที่ไหนแต่ดีที่เตรียมมาค่ะ เป็นการออกจากบ้านแบบ งง ๆแต่สวยและลงตัวจนประทับใจการนอนอุทยานหนิงเข้าพักหลายที่และหลายครั้งมากค่ะ แต่ละที่ก็จะมีเรื่องราวให้ประทับใจต่างกันค่ะสามีหนิงมักบอกเสมอว่าถ้าเราไม่กล้าก้าวขาออกไปข้างนอกเราจะไม่เจอเรื่องราวอะไรเลยแล้วเวลาจะผ่านเราไปเฉยๆ ตอนนั้นคิดไม่เห็นภาพเลยค่ะ แต่ตอนนี้ เวลาออกไปไหน หนิงมีมุมมองต่างออกไปจากเดิมมากเลยค่ะ เพื่อนๆลองก้าวออกมาเที่ยวกันดูค่ะ เราทำงานหนักกันต้องหาเวลาออกมาใช่ชีวิตด้วยค่ะ แม้ต้องแลกกับเรื่องติดขัดบ้างแต่บางครั้งมันคุ้มค่าที่จะลองนะคะ หนิงอายุ 43 ก่อนนี้เรื่องกังวลห่วงนั้นนี่เต็มหัวไปหมดตอนนี้เริ่มวางลงบ้างแล้วรู้สึกว่าทุกอย่างก็ไม่ได้แย่ค่ะ ถ้าใครอยากเริ่มให้เริ่มจากเล็กๆง่ายๆกันก่อนเลยค่ะ อย่ารอเวลาเลยแล้วจะรู้ว่ามันดีแค่ไหนค่ะ ที่ตั้ง : อุทยานแห่งชาติ ดอยสุเทพ-ปุย สวนสน ถนน ห้วยแก้ว ตำบลสุเทพ อำเภอเมืองเชียงใหม่ เชียงใหม่ 50200โทร : 053210244แผนที่ : อุทยานแห่งชาติ ดอยสุเทพ-ปุย สวนสนเครดิตภาพภาพทั้งหมดโดย NingSiri Crochetภาพผู้หญิงเสื้อดำคือผู้เขียนเองค่ะแผนที่อุทยานแห่งชาติ ดอยสุเทพ-ปุย สวนสน โดย google map*STAR COVER"อย่ามัวแต่ดูมาดังกัน"*ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ขอชวนทุกคนมาสนุกโคฟเวอร์ พร้อมลุ้นรับเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า 7,000 บาท (5 รางวัล) โคฟคนที่ใช่ ไลค์คนที่ชอบ`ร่วมสนุกได้ที่ ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ห้อง cover บนแอปทรูไอดี`คลิกเลย >> https://ttid.co/UAnK/7y9jfqkqอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://bit.ly/3O1cmUQร่วมสนุกตั้งแต่วันที่ 10 มิถุนายน 2565 - วันที่ 3 สิงหาคม 2565