สวัสดีครับเพื่อนๆ นักเดินทาง วันนี้ผมจะพาทุกคนไปสัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษในการตามรอยตำนานของหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด ณ วัดพะโคะ จังหวัดสงขลา ผมเพิ่งกลับมาจากทริปนี้ และต้องบอกว่าประทับใจสุดๆ จนอยากชวนทุกคนไปสัมผัสด้วยตัวเองเริ่มต้นการเดินทางผมออกเดินทางจากตัวเมืองสงขลาแต่เช้าตรู่ มุ่งหน้าสู่อำเภอสทิงพระ ซึ่งเป็นที่ตั้งของวัดพะโคะ ระหว่างทางผมได้ชื่นชมทิวทัศน์ของท้องทุ่งนาสีเขียวขจีสลับกับหมู่บ้านเล็กๆ น่ารัก บรรยากาศเงียบสงบของชนบทภาคใต้ช่างแตกต่างจากความวุ่นวายในเมืองใหญ่ ทำให้รู้สึกผ่อนคลายตั้งแต่เริ่มต้นทริปประทับใจแรกพบเมื่อมาถึงวัดพะโคะ สิ่งแรกที่สะดุดตาผมคือความใหญ่โตและสง่างามของวัด โบสถ์และพระอุโบสถที่สร้างด้วยศิลาแลงดูทรงคุณค่าและน่าเกรงขาม สถาปัตยกรรมแบบอยุธยาผสมผสานกับศิลปะท้องถิ่นภาคใต้อย่างลงตัว ผมรู้สึกเหมือนได้ย้อนเวลากลับไปในอดีตเลยทีเดียวบรรยากาศโดยรอบวัดชวนให้รู้สึกสงบและศักดิ์สิทธิ์ กลิ่นธูปหอมๆ ลอยมาตามสายลม เสียงระฆังดังกังวานเป็นระยะ ผสานกับเสียงสวดมนต์ของพระสงฆ์ สร้างบรรยากาศที่ชวนให้จิตใจสงบนิ่งได้อย่างน่าประหลาดสักการะหลวงปู่ทวดจุดหมายหลักของการมาเยือนวัดพะโคะคือการสักการะรูปหล่อหลวงปู่ทวดองค์ใหญ่ภายในวิหาร ผมเข้าไปจุดธูปไหว้พระและขอพร ความรู้สึกในตอนนั้นคือความสบายใจและอิ่มเอมใจอย่างบอกไม่ถูก แม้จะมีผู้คนมาสักการะมากมาย แต่ทุกคนต่างสงบนิ่งและสำรวม สะท้อนให้เห็นถึงความศรัทธาอันแรงกล้าที่มีต่อหลวงปู่ทวดที่ประทับใจมากอีกอย่างคือการได้เห็นศรัทธาของผู้คนที่มาสักการะ ทั้งชาวพุทธและมุสลิม ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความเคารพนับถือที่มีต่อหลวงพ่อทวดอย่างไม่แบ่งแยกศาสนา นี่คือสิ่งที่ทำให้ผมรู้สึกว่าหลวงปู่ทวดเป็นศูนย์รวมจิตใจของผู้คนในภาคใต้อย่างแท้จริงเรียนรู้ประวัติศาสตร์หลังจากสักการะหลวงปู่ทวดแล้ว ผมใช้เวลาเดินชมและซึมซับบรรยากาศภายในวัด ได้เรียนรู้ประวัติความเป็นมาจากป้ายข้อมูลและการสนทนากับคนในท้องถิ่น ทำให้เข้าใจความสำคัญของสถานที่แห่งนี้มากขึ้นวัดพะโคะมีประวัติศาสตร์ยาวนานตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนปลาย เคยเป็นวัดที่ได้รับพระราชทานที่ดินกัลปนาจากกษัตริย์ และเป็นศูนย์กลางพุทธศาสนาที่สำคัญในภาคใต้ ที่นี่ยังเป็นสถานที่ที่หลวงปู่ทวดเคยมาบูรณปฏิสังขรณ์ด้วย ทำให้ผมรู้สึกว่าได้สัมผัสกับประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ผ่านสถาปัตยกรรมและโบราณวัตถุต่างๆ ภายในวัดสถานที่น่าสนใจภายในวัดนอกจากวิหารหลวงปู่ทวดแล้ว วัดพะโคะยังมีสถานที่น่าสนใจอีกมากมาย ผมขอแนะนำดังนี้:พระอุโบสถ: สร้างด้วยศิลาแลงอายุกว่า 300 ปี มีความงดงามทางสถาปัตยกรรมอย่างยิ่งเจดีย์เก่า: เป็นเจดีย์ทรงระฆังคว่ำศิลปะสมัยอยุธยา อายุราว 400 ปีพิพิธภัณฑ์วัดพะโคะ: จัดแสดงโบราณวัตถุและประวัติความเป็นมาของวัดต้นพระศรีมหาโพธิ์: ต้นไม้เก่าแก่ที่เชื่อว่านำมาจากพุทธคยา ประเทศอินเดียบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์: บ่อน้ำโบราณที่เชื่อว่ามีความศักดิ์สิทธิ์ ผมใช้เวลาเดินชมแต่ละจุดอย่างไม่รีบร้อน ซึมซับบรรยากาศและความงดงามของสถาปัตยกรรม พร้อมทั้งถ่ายภาพเก็บความประทับใจ แนะนำว่าควรเผื่อเวลาอย่างน้อย 2-3 ชั่วโมงในการเที่ยวชมวัดพะโคะให้ทั่วถึงประเพณีและความเชื่อระหว่างเดินชมวัด ผมได้พูดคุยกับคนในท้องถิ่นและเรียนรู้เกี่ยวกับประเพณีและความเชื่อที่เกี่ยวข้องกับหลวงปู่ทวด เช่น การบนบานสานกล่าว การแก้บน และการทำบุญในโอกาสต่างๆ สิ่งที่น่าสนใจคือความเชื่อเรื่องวัตถุมงคลของหลวงปู่ทวด ซึ่งเป็นที่นิยมในหมู่ผู้ศรัทธาอย่างมากการเดินทางและที่พักสำหรับการเดินทางไปวัดพะโคะ แนะนำให้เช่ารถขับเองหรือนั่งรถโดยสารประจำทางจากตัวเมืองสงขลา ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง ส่วนที่พัก แม้จะไม่มีโรงแรมใหญ่ๆ ในบริเวณใกล้วัด แต่ก็มีโฮมสเตย์น่ารักๆ ให้เลือกพักหลายแห่ง ซึ่งจะได้สัมผัสวิถีชีวิตของคนท้องถิ่นอย่างใกล้ชิดช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเยี่ยมชมผมแนะนำให้มาเที่ยววัดพะโคะในช่วงเช้า ประมาณ 8.00-11.00 น. เพราะอากาศยังไม่ร้อนมาก และเป็นช่วงที่วัดมีกิจกรรมทางศาสนา เช่น การทำบุญตักบาตร ทำให้ได้สัมผัสบรรยากาศที่คึกคักและมีชีวิตชีวาอีกช่วงเวลาที่น่าสนใจคือช่วงเย็น ประมาณ 16.00-18.00 น. ซึ่งเป็นเวลาที่แสงแดดนุ่มนวล เหมาะแก่การถ่ายภาพ และยังได้ชมพระอาทิตย์ตกดินที่สวยงามอีกด้วยความประทับใจและข้อคิดที่ได้รับการได้มาเยือนวัดพะโคะและตามรอยหลวงปู่ทวดในครั้งนี้ ทำให้ผมได้เรียนรู้และเข้าใจประวัติศาสตร์ท้องถิ่นภาคใต้มากขึ้น ได้สัมผัสกับความศรัทธาอันแรงกล้าของผู้คน และได้เห็นถึงความสำคัญของศาสนาที่มีต่อวิถีชีวิตของคนในพื้นที่สิ่งที่ประทับใจที่สุดคือการได้เห็นความกลมเกลียวของผู้คนต่างศาสนาที่มาสักการะหลวงปู่ทวดร่วมกัน สะท้อนให้เห็นถึงพลังแห่งความศรัทธาที่สามารถเชื่อมโยงผู้คนเข้าด้วยกัน โดยไม่แบ่งแยกเชื้อชาติหรือศาสนานอกจากนี้ ความงดงามของสถาปัตยกรรมและศิลปะภายในวัด ยังทำให้ผมตระหนักถึงคุณค่าของมรดกทางวัฒนธรรมที่บรรพบุรุษได้สร้างสรรค์และสืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน เป็นสิ่งที่เราควรช่วยกันอนุรักษ์และส่งต่อไปยังคนรุ่นหลังต่อไปสรุปการเดินทางมาวัดพะโคะและตามรอยหลวงปู่ทวดในครั้งนี้ เป็นประสบการณ์ที่มีค่ามากสำหรับผม ไม่เพียงแต่ได้สัมผัสกับความศักดิ์สิทธิ์และความงดงามของสถานที่ แต่ยังได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และวิถีชีวิตของผู้คนในท้องถิ่นอีกด้วยผมขอแนะนำให้ทุกคนลองหาโอกาสมาเยือนวัดพะโคะสักครั้ง ไม่ว่าคุณจะนับถือศาสนาใด หรือมีความเชื่อเช่นไร ผมเชื่อว่าคุณจะได้รับประสบการณ์ที่น่าจดจำและอาจค้นพบบางสิ่งที่มีค่าสำหรับตัวคุณเองสุดท้ายนี้ ผมหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์และสร้างแรงบันดาลใจให้คุณได้ออกเดินทางตามรอยหลวงปู่ทวดบ้าง หากมีข้อสงสัยหรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สามารถสอบถามได้เลยนะครับ ขอให้ทุกคนมีความสุขและปลอดภัยในการเดินทางครับ!:(^o^)หากชอบบทความนี้อย่าลืมกดไลค์ กดแชร์ กดซับ เพื่อเป็นกำลังใจขอบคุณทุกท่านที่รับชม ครับ(^o^)ทุกภาพและทุกบทความเป็นการบอกเล่าเรื่องราวผ่านมุมมองของเราบทความนี้ผมได้เรียงเรียงจากการหาข้อมูลจากหนังสือหลายเล่มหลายบทความ แต่โดยรวมจะประพันธ์เองจากนามปากกา “ แบกเป๋าเป้ “ที่อยู่: 60 หมู่ 6 วัดพะโคะ, ตำบลชุมพล อำเภอสทิงพระ จังหวัดสงขลา, 90190โทรศัพท์: 074 304 175เวลาทำการ: พิกัด : https://maps.app.goo.gl/Wx5mmHkfDbxeaLCB8 #หลวงพ่อทวด #สมเด็จเจ้าพะโคะ #พระมงคลเมืองใต้ #วัดพะโคะ #พระราชกัลปนา #เจ้าพระคามภีร์สงฆ์ #วัฒนธรรมท้องถิ่นภาคใต้ #ประวัติศาสตร์พุทธศาสนาในภาคใต้ #หลักฐานโบราณจารึกกัลปนา #อิทธิพลวัฒนธรรมมาเลย์-อินโดนีเซีย #สมเด็จพระนารายณ์ #สทิงพระ #ปัตตานี #หัวไทร #นครศรีธรรมราช #อำนาจบารมีทางศาสนา อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !