กัมพูชามีชื่อเสียงโด่งดังเป็นจุดมุ่งหมายของนักท่องเที่ยวทั่วทุกมุมโลก เพราะเป็นเมืองมรดกโลก มีปราสาทหินใหญ่โตที่ทุกวันนี้ยังคงเป็นปริศนาว่าผู้คนยุคโบราณสามารถสร้างนครวัดขึ้นมาได้อย่างไรโดยปราศจากเครื่องไม้เครื่องมืออันทันสมัย การก่อสร้างครั้งนี้เกิดจากเเรงศรัทธาที่เเรงกล้าในสมัยพระเจ้าสุริยะวรมันที่ 2 ทรงสร้างเพื่อบูชาพระวิษณุเทพตามความเชื่อของฮินดู การก่อสร้างนครวัดทำจากก้อนหินบนเขาพนมกุเลน ซึ่งมีความหมายว่าภูเขาลิ้นจี่ บนภูเขามีเศษซากหินโบราณสถานเล็กน้อย กล่าวว่าเคยเป็นที่ประทับของพระเจ้าชัยวรมันที่ 2 ก่อนเสด็จย้ายไปที่หริหราลัย เนื่องจากบนเทือกเขาแห่งนี้การเดินทางไม่สะดวกไม่เหมาะกับการตั้งราชธานี ภูเขาพนมกุเลนห่างจากตัวเสียมเรียบไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือประมาณ 60 กิโลเมตร ค่าใช้จ่ายการเดินทางท่องเที่ยวค่อนข้างสูง ถ้าหากมีโอกาสผู้เขียนแนะนำว่าสามารถจองท่องเที่ยวได้กับทัวร์ท้องถิ่นหรือออนไลน์ เช่น klook มีแบบทัวร์กลุ่ม ราคา 1,060 บาท ($35) หรือแบบส่วนตัว ประมาณ 1,800 (60$) บาท ราคานี้รวมค่าตั๋วเข้าอุทยานแห่งชาติพนมกุเลน $20 เรียบร้อยเเล้ว หลังจากซื้อทัวร์แล้วบริษัททัวร์จะบริการรถรับส่งถึงที่พัก เวลาเริ่มต้นทัวร์ 8.30 น.-15.30 น. เวลาอาจจะเร็วหรือช้ากว่ากำหนดนิดหน่อยเเล้วแต่กลุ่มทัวร์ค่ะ การเดินทางจะนั่งรถมินิบัสผ่านเขตชนบทของกัมพูชา เมื่อเข้าสู่เขตภูเขาเส้นทางจะคดเคี้ยวเล็กน้อยเเต่ขรุขระและเป็นดินแดง ใช้เวลาชั่วโมงกว่าๆ ก็มาถึงอุทยานแห่งชาติภูเขาพนมกุเลน รถจะไม่สามารถสวนเลนกันได้ ดังนั้นช่วงเช้าจึงให้เฉพาะรถขึ้นไปบนภูเขา และช่วงบ่ายคือรถที่จะลงมาจากภูเขาเท่านั้น จุดแรกที่ไกด์ทัวร์พาเราไปสำรวจคือศิวลึงค์ใต้น้ำจะมีศิวลึงค์และฐานโยนีนับพัน ถ้าใครมาช่วงน้ำน้อยจะเห็นนารายณ์บรรธมสินธุ์ที่สวยงาม การแกะสลักที่นี่จะใช้วิธีกั้นน้ำทีละครึ่งเพื่อให้แกะสลักได้ง่าย จุดมุ่งหมายของรูปสลักศิวลึงค์เเละฐานโยนีที่ต้นน้ำเพื่อให้เป็นเเหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ ประชาชนสามารถใช้น้ำศักด์สิทธิ์ได้อย่างทั่วถึง ศิวลึงค์เป็นสัญลักษณ์เพศชายของพระศิวะ ส่วนฐานโยนีสี่เหลี่ยมเเสดงสัญลักษณ์เพศหญิงของพระอุมาเทวีพระชายาของพระศิวะ ในศาสนาฮินดูเชื่อว่าถ้าของสองสิ่งนี้อยู่ร่วมกันคือการสรรค์สร้างสรรพสิ่งต่างๆ เเละทำให้โลกร่มเย็นสงบสุข จุดที่สองคือวัดพระองค์ธม หรือวัดลอยฟ้า สร้างสมัย พ.ศ.1701 ซึ่งตรงกับรัชสมัยของพระเจ้าศรีสุคณธบุตรและพระเจ้าองค์จันทร์ที่ 1 จากประวัติชาวเมืองพบเห็นแสงสว่างส่องบนภูเขาแห่งนี้ จึงได้มีการสำรวจพบว่ามีหินก้อนใหญ่ตั้งอยู่เชิงผา ด้วยความเสื่อมใสศรัทธาเชื่อว่าแสงสว่างนั้นเกิดจากทวยเทพ ชาวเมืองจึงช่วยกันแกะสลักหินก้อนนั้นขึ้นมาเป็นพระพุทธรูปปางไสยาสน์องค์ใหญ่ จุดที่สามน้ำตกพนมกุเลนเป็นแหล่งที่พักผ่อนหย่อนใจของคนในท้องถิ่น และนักท่องเที่ยว เป็นน้ำตกที่สวยงามมีน้ำตลอดปี น้ำตกมีสามชั้น ในอดีตจะถูกแบ่งชนชั้นในการใช้น้ำตก ชั้นสูงสุดจะเป็นน้ำอุปโภคบริโภคของชนชั้นกษัตริย์ ชั้นที่สองเป็นพื้นที่ใช้สอยสำหรับพราหมณ์ และชั้นสามประชาชนจะสามารถใช้สอยประโยชน์ที่นี่ จุดที่สี่เป็นสถานที่เล็กๆ รถมินิบัสจะจอดข้างทางและเดินเท้าเข้าไปไม่ไกลจากถนนมากนักจะพบสถานที่ถ่ายภาพพาโนราม่าได้จากหน้าผาสูงแห่งนี้ ก้อนหินที่นี่ในอดีตถูกลากจูงไปใช้งานก่อสร้างนครวัด เป็นเรื่องไม่น่าเชื่อเท่าไหร่เพราะหินเหล่านี้มีขนาดใหญ่ จากหลักฐานหินแต่ละก้อนจะมีรูเจาะไว้ จึงคาดว่าอาณาจักรโบราณใช้เชือกสอดกลางหินร้อยคล้ายลูกปัดให้ช้างลากจูงโดยมีท่อนซุงที่ทำหน้าที่เป็นล้อลากไปยังงานก่อสร้างที่นครวัด การเคลื่อนย้ายหิน การก่อสร้างที่ยากลำบาก คือหยาดเหงื่อแรงกายของเหล่าประชาชน พวกเขาทำงานอย่างหนักจนสามารถสร้างปราสาทที่โออ่า อลังการ และกลายเป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่ยังคงหลงเหลือให้คนรุ่นหลังได้รับรู้ว่าจักรวรรดิขแมร์ยิ่งใหญ่และมีอยู่จริงเมื่อครั้งในอดีต ถ้าใครมาเที่ยวนครวัด นครธมในเสียมเรียบ และกำลังมองหากิจกรรมนอกเมือง สัมผัสธรรมชาติ และวิถีชีวิตของชาวกัมพูชา ลองมองเทือกเขาพนมกุเลน ภูเขาศักดิ์สิทธิ์เป็นหนึ่งตัวเลือกในการท่องเที่ยวได้ค่ะ ภาพประกอบโดย : ผู้เขียน Cat Smlie