ในช่วงวัยเด็กของใครหลายคน อาจเคยใช้บริการรถไฟในการเดินทางไกลบ่อยครั้ง แต่ในปัจจุบันรถไฟกลับไม่ได้รับความนิยมใช้ในการเดินทางเท่ากับในอดีต เพราะในการเดินทางแต่ละครั้งต้องใช้ระยะเวลาพอสมควร แต่บางครั้งเมื่อเราหวนคิดถึงภาพในอดีตกลับทำให้เราคิดถึงเสียงหวูดรถไฟ " ปู๊น ปู๊น" ที่ดังขึ้น ตลอดระยะเวลาของการเดินทางบนรถไฟ ทำให้เราคิดถึงภาพในอดีตอีกครั้งและทำให้เราอยากรู้ว่าการใช้บริการรถไฟในปัจจุบันมีความแตกต่างกันจากในอดีตมากน้อยเพียงใด เราเริ่มทริปนี้จากสถานีรถไฟเชียงใหม่ มุงหน้าสู่สถานีรถไฟลำปาง เพราะสามารถเดินทางไป - กลับ ได้ภายใน 1 วัน ก่อนเริ่มเดินทาง เราเริ่มหาข้อมูลการเดินทางจากอินเตอร์เน็ตเพื่อดูตารางเวลาเดินรถไฟของแต่ละขบวนและตรวจสอบราคาการใช้บริการ เราเลือกเดินทางโดยรถไฟด่วน ซื้อตั๋วจากเชียงใหม่ - ขุนตาน เที่ยวเวลา 08.30 น. เมื่อใกล้เวลาออกจากชานชาลาจะมีเสียงระฆังบอกเวลา ผู้โดยสารหลายคนต่างพากันรีบวิ่งขึ้นไปประจำที่นั่งของตัวเอง ภายในรถขบวนนี้ไม่เหมือนกับรถไฟในอดีตที่เราเคยนั่ง ไม่มีเสียงหวูดรถไฟ " ปู๊น ปู๊น" กระจกปิดมิดชิด มีเครื่องปรับอากาศเย็นสบาย เรานั่งรถไฟขบวนนี้ไปยัง อุโมงค์ขุนตาน เพื่อแวะถ่ายรูปสวยๆ ในอดีตเวลาที่เราเดินทางจากเชียงใหม่ รถไฟมักจะต้องลอดผ่านอุโมงค์ขุนตาล แต่ด้วยเราเดินทางตอนกลางคืนจึงทำให้เราจดจำภาพอุโมงค์ขุนตานที่มืดสนิทที่มาพร้อมกับความเงียบในช่วงระยะเวลาอันสั้น อุโมงค์ขุนตานเป็นอุโมงค์ทางรถไฟลอดผ่านที่ยาวที่สุดในประเทศไทย จากจำนวนทั้งสิ้น 7 อุโมงค์มีความยาวถึง 1,352.10 เมตร ตั้งอยู่ใกล้เคียงกับพื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยขุนตาล ระหว่างอำเภอห้างฉัตร จังหวัดลำปาง กับอำเภอแม่ทา จังหวัดลำพูน และเป็นอุโมงค์ทางลอดมี่สวยงาม หลังจากที่เราได้เก็บภาพไว้เป็นที่ระลึกแล้วเราจึงกลับไปที่สถานีรถไฟขุนตาน เพื่อซื้อตั๋วเดินทางต่อไปยังจังหวัดลำปาง โดยรถไฟขบวนนี้จะมาถึงสถานีขุนตาลเวลา 11.15 น. ราคาตั๋วประมาณ 7.50 บาท เมื่อรถไฟมาถึงสถานี เราทุกคนต่างพากันรีบวิ่งไปหาที่นั่ง รถไฟขบวนนี้เราสามารถเลือกที่นั่งเองได้ตามสบาย อากาศในรถไฟถ่ายเทสะดวก มีลมโกรกเข้ามาตลอดเวลา พร้อมกับเสียงหวูดรถไฟปู๊นๆ ปู๊นๆ ฉึกฉัก คล้ายกับขบวนรถไฟที่เราเคยนั่งในตอนเด็ก เมื่อรถไฟออกจากชานชลาได้สักพักจะมีแม่ค้า พ่อค้า เดินถือถาดขายไก่ย่าง ข้าวเหนียว ทำให้เราแอบหวนคิดถึงวันวานเก่า ๆ สองข้างทางมีวิวทิวทัศน์ธรรมชาติที่สวยงามให้เราได้เก็บภาพตลอดเวลา เราเดินทางมาถึงสถานีรถไฟลำปาง ในช่วงเวลาประมาณเที่ยงวัน ก่อนที่เราจะออกจากสถานีเพื่อไปสถานที่ท่องเที่ยวในบริเวณใกล้ๆสถานีเราได้ เราได้ตรวจดูตารางการเดินรถขากลับเชียงใหม่ เพื่อให้แน่ใจว่าเรามีเวลาเที่ยวในจังหวัดลำปางกี่ชั่วโมง สรุปคือ จากลำปาง-เชียงใหม่ จะมีรถกลับอีกที่คือช่วง 17.30 น.ซึ่งเราสามารถซื้อตั๋วได้ในเวลา 16.00 น.เป็นต้นไป เราจึงเหลือเวลาเที่ยวประมาณ 3-4 ชั่วโมง ทุกคนตัดสินใจเหมารถสองแถว ตรงหน้าสถานีเพื่อให้พี่คนขับช่วยแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวๆให้เราในเวลาที่กำจัด เราไปกัน 6 คน ไป-กลับ พี่คนขับคิดราคาให้เรา 400 บาท เมื่อกลับมาถึงสถานีรถไฟลำปาง เรายังมีเวลาเหลืออีกประมาณ 1 ชั่วโมง จึงตัดสินใจเดินไปเที่ยวร้านกสแฟเล็กๆภายในซอยตรงข้ามสถานีรถไฟ ชื่อร้าน Station61 เป็นร้านกาแฟเล็กๆ ภายในร้านตกแต่งสไตล์ อินดัสเทรียลลอฟต์ คล้ายกับสถานีรถไฟ รสชาติของกาแฟหอม ขนมอร่อย หลังจากพักทานกาแฟกันเรียบร้อบแล้ว เราก็เตรียมตัวกลับเชียงใหม่กันในยามเย็น ค่าตั๋วรถไฟคนละ 50 บาท หลังจากเที่ยวจนเหนื่อยมาทั้งวัน ก็ถึงเวลากลับเชียงใหม่กัน ทริปย้อนวันวานนี้ เป็นทริปที่เรามีความสุขและสนุกตลอดทั้งวัน มีอะไรหลายๆให้เราได้คิดถึง และมีประสบการณ์ใหม่ๆให้เราได้จดจำ