ลางานไปเที่ยวกัน เราไปช่วงต้นๆ ปี ก็ดีนะคนไม่ค่อยเยอะเพราะช่วงที่ไปไม่ใช่วันหยุดยาว เน้นการพักผ่อน คร่าวๆ ค่าใช้จ่ายครั้งนี้เราจะเยอะนิดนึงนะคะ เพราะเนื่องจากค่าเดินทางค่าที่พักเราไม่ได้ตั้งงบไว้ รวมกับค่ากินทริปนี้เราไม่ได้จำกัดจำนวนเงิน เลยค่อนข้างจะหมดงบตรงนี้เยอะไปหน่อย ยังไงเพื่อนๆ ลองวางแผนกันดีๆ จะได้ประหยัดเนอะ จองตั๋วโปรถูกๆ ก็ลดค่าใช้จ่ายลงไปเยอะแล้วค่ะ แต่จะบอกว่าถ้าทริปไหนสาวๆล้วน จะกินจุกจิกมากฮ่าๆ ทริปนี้ ไปเที่ยวแบบฉบับเพื่อนสาว 4 คน ชิลๆ ง่ายๆ สบายๆ ไม่รีบร้อนอะไรค่ะ ไม่ได้วางแผนดีเท่าไหร่ อาจมีปัญหาบ้างสนุกดีค่ะ รสชาติของการเดินทาง จากสนามบินดอนเมือง ถึงสนามบินเชียงราย ใช้เวลาเดินทางเป็นเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง เราเลือกเดินทางกลางคืนหลังเลิกงานเพราะจะได้มีเวลาเที่ยวที่เชียงรายเยอะๆ เราจองที่พักไว้ในตัวเมืองเชียงรายไว้หนึ่งคืน ที่นี่เลยจ้า Connect Hostel Chiangrai มันฟินมากเลยที่นี่ เสียดายที่ไม่มีรูปเตียงมาให้ดูเพราะมัวแต่เม้ามอย และเราก็ไปถึงดึกแล้วเลยไม่ได้ถ่ายมาน่าเสียดาย ห้องที่เราจองเป็นแบบ Private 4 เตียงค่ะ ที่นอนเป็นแบบเตียงสองชั้นเก๋ไก๋มาก มีทั้งห้องรวมและส่วนตัวนะคะ ลองเข้าไปชมกันได้ สะอาดค่ะ เราชอบ ส่วนมากลูกค้าจะเป็นต่างชาติสักส่วนใหญ่ เราชอบเลยแหละเน้นสายฝ. อิอิ แต่นอนสบายมากจ้า พักผ่อนก่อนหนึ่งคืน แล้วค่อยลุยกันต่อในตอนเช้า เราเช่ารถในราคา 1000 บาทต่อวัน เราบังเอิญได้เจ้านี้มา CAPTAIN CAR RENTAL CO., LTD รับส่งรถที่สนามบินเลยจ้า รายละเอียดคร่าวๆ ดังนี้นะคะ เป็นรถเก๋งขนาดเล็กเครื่อง 1500 เพราะมีขับทางไกลขึ้นเขาบ้าง ค่าใช้จ่ายก็จะมีมัดจำ 1000 บาทได้คืนวันคืนรถ เช่า 3 วันครึ่ง วันละ 1000 = 3500 ไม่รวมค่าน้ำมันจ้า ค่าน้ำมันก็เติมเต็มถังสองรอบก็ไม่น่าเกิน 2000 บาท ค่ะ DAY 1 : พร้อมแล้วลุย ไม่รู้ทางเลย ขับไปมั่วๆ ใช้กูเกิ้ลแมพเอา วิวสวยๆ บนจุดชมวิวภูชี้เดือน เฮ้อสดชื่น อากาศเข้าเต็มปอด ลุยกันเลยจ้าหลังจากกินข้าวอาบน้ำเรียบร้อย เราก็เช็คเอาท์ออก แล้วก็ขับรถขึ้นภูชี้ฟ้ากันเลย โอบกอดขุนเขา จริงๆ มีการวางแผนไว้ก็ดีนะ ไม่งั้นจะว่างไปหนึ่งวันแบบเรา เพราะตอนแรกคิดว่าจะใช้เวลาเดินทางนาน ที่ไหนได้ถึงไวมาก ทางขับขึ้นไปไม่ได้ยากเลยรถเก๋งขับไปได้สบายๆ เราเลยเช็คอินเข้าที่พักที่ไม่ได้จองไว้หาเอาดาบหน้าฮ่าๆ ที่พักโอเค แต่จำชื่อไม่ได้ นั่งเล่นกันกินข้าวกันนอนหลับกัน แล้วรอเย็นๆ จึงขึ้นไปถ่ายรูปเล่นกัน ให้ธรรมชาติเยียวยาจิตใจ ทิ้งความเหน็ดเหนื่อยไว้สักพัก DAY 2 : รอพระอาทิตย์ขึ้น เลือกไม่ได้ขึ้นไปสุดยอดดอยเพราะเดี๋ยวไม่ได้รูปมุมนี้ เช้ามืดเราจองรถนำเที่ยวขึ้นไปบนภูจ้าเพราะไม่อยากขับรถขึ้นไปเอง พอไปถึงจะมีจุดจอดรถแล้วเราต้องเดินขึ้นไปเอง เดินเหนื่อยใช้ได้เลยหอบมากอากาศถ่ายเทน้อย ก็แอบบงงๆว่าเอ๊ะ เมื่อคืนยังดูเงียบๆ แล้วเช้านี้คนมาจากไหนเยอะเลย เด็กๆ ที่อยู่แถวนั้นก็จะมาเต้น มาร้องเพลง มาถ่ายรูปด้วยก่อนไปโรงเรียน น่ารักกกกกก หมดไปหลายร้อยเลย วันนึงรวยอะ สมมุติได้คนละ 20 รวยๆ อิอิ น้องเห็นรูปนี้น้องคงโกรธ ฮ่าๆ DAY 3: ไร่ชาฉุยฟง กลับลงมาจากภูชี้ฟ้าช่วงสายๆ ไม่รุ้จะไปไหนต่อ เลยเสิร์ทดูในกูเกิ้ล ได้ที่นี่มา ไร่ชา เราก็ไปต่อกันที่ไร่ชาฉุยฟง ขับไปมั่วๆ แปปเดียวถึงจ้า สวยนะ เหมาะกับการถ่ายรูปเก๋เก๋ ชิคชิค ไร่ชากว้างมาก ถ่ายรูปเสร็จ กินสิ รออะไร ต้องลองมาถึงถิ่นชาเขียวที่ใหญ่ในไทยต้องลองนะ อร่อยมาก สดชื่น DAY 4 : แวะพัก ก่อนจะเล่าร้านที่น่ารักๆ เราขอเล่าเรื่องที่พักนิดนึงนะ ไม่ควรทำตามแบบนี้นะ แต่ถ้าใครชิลไม่ซีเรียสจัดเลย อย่าไปวางแผนเยอะปล่อยไปตามธรรมชาติ แล้วมันจะสนุก เรื่องมีอยู่ว่า คืนที่ 3 กว่าจะได้ที่นอน แทบแย่เพราะการไม่มีแผน เพราะลงมาจากเขาเพิ่งรู้ว่าช่วงที่ไปเค้ารับปริญญากัน ที่พักเลยเกือบเต็มหมด เกือบไม่มีที่นอนแล้วไหมหล่ะ ดีนะมีที่พักเหลือแบบดูในรีวิวมันไม่น่านอนเลย ขับรถไปดูพอเห็นสถานที่จริงเฮ้ย มันโอเค สวยกว่าในรูปอีก น่าจะมีคนไปรีวิวให้ดีๆ เจ้าของใจดีมาก ที่พักน่ารัก แล้วเราก็จำชื่อไม่ได้อีกละ ฮ่าๆ โอย จำอะไรได้มั่งเนี่ย รูปก็ไม่ถ่ายมา คืนที่ 4 ไม่พลาดแล้วเย่ๆ ที่พักสวยออกมาจากในเมืองนิดๆ แต่โอเคเลย สวยสมชื่อ La-moon ใครชอบสไตล์นี้แนะนำจ้า เดอะวอนเดอเรอร์ The Wanderer ร้านกาแฟอีกร้านที่แนะนำ ร่มรื่นมาก อยู่ริมแม่นำ้เลย บรรยากาศดี อาหารอร่อย กาแฟดี มีเมนูให้เลือกเยอะมาก ลองไปแวะชิมกันดูค่ะ การเดินทางไม่ยากค่ะ อยู่ในเมืองขับรถสบายๆ ร้านจะอยู่ติดกับแม่น้ำ พอเดินเข้ามาถึงตัวร้าน ตกแต่งได้น่ารักมากๆค่ะ ที่นั่งเยอะแยะมาก เลือกนั่งได้ตามใจชอบเลยค่ะ ชอบตรงนี้ มีมุมให้ถ่ายรูปเยอะเลยค่ะ มีเลี้ยงห่านด้วย น่ารัก น้องหมาน่ารักมาก หล่อเชียว ดาราประจำร้านเลยนะเนี่ยตัวนี้ น้อง น่ารักกกกกก วิ่งตามไปถ่ายเดินหนีตลอด ปิดทริปจ้า นอนพักผ่อนอีกคืนเช้าค่อยกลับ จริงๆ มีรูปเยอะมาก แต่ลงแค่นี้ก่อนละกันที่ถ่ายมานี้ไม่ได้ส่วนได้ส่วนเสียใดๆจ้า เที่ยวตามใจฉันล้วนๆ กว่าจะตกลงกันได้ก็ตีกับเพื่อนๆ ตลอดทาง แต่นี่แหละเป็นธรรมดา อย่างน้อยในวันแย่ๆ เหงาๆ ก็ยังมีเพื่อน จะมากจะน้อยก็เพื่อน อ่านแล้วก็ลองชวนเพื่อนหรือคนรู้ใจไปเที่ยวกัน จะได้หายเหนื่อย ไว้จะมารีวิวใหม่นะจ๊ะ