ถ้าพูดถึงเมืองในประเทศอิตาลี ส่วนใหญ่จะนึกถึง Rome, Milan, Venice แต่วันนี้ เจนนี่จะพาทุกคนไปรู้จักเมืองที่สุดยอดไม่แพ้ใคร นั่นคือเมือง "BOLOGNA" Bologna เป็นเมืองศูนย์กลางประจำเขตของ Emilia Romagna เป็นเมืองที่ความเจริญ เป็นหนึ่งในเมืองที่มีความพัฒนามากที่สุดของอิตาลี มีสีประจำเมืองคือ สีส้ม-เขียว(ปัจจุบัน เปลี่ยนเป็น ส้ม-ขาว) มองไปทางไหนก็เห็นแต่ตึกสีส้มเต็มไปหมด ถ้าพูดถึงอิตาลี ก็น่าจะนึกถึงสถาปัตยกรรมอันงดงาม ซึ่งเมือง Bologna สถาปัตย์สวยงามไม่แพ้ใครเลยนะ เจนนี่ขอบอกกก อย่างที่รู้ ๆ กันว่าร้านห้างของต่างประเทศเขา จะเป็นร้านที่อยู่ตามถนนในตัวใจกลางเมือง ซึ่งใจกลางเมืองของ Bologna คือ Piazza Maggiore เป็นลานกว้างศูนย์กลางการทำกิจกรรมต่าง ๆ เป็นสถานที่พักผ่อน มานั่งจิบกาแฟเพลิน ๆ เล่นกีตาร์ไปพลาง ๆ บอกได้เลยว่าถ้ามาใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ มีแต่คำว่าสนุกและชิวอย่างแน่นอน เจนนี่ขอ confirm!!! ที่ Bologna มีตึกคู่แฝดด้วยนะ มีชื่อว่า Due Torri เรียกได้ว่าเป็น land mark สำคัญของเมืองเลยก็ว่าได้ ตัวตึกจะสั้น 1 ตึกและสูงอีก 1 ตึก โดยตึกสูงนี่มีความสูงถึง 97.20 เมตรเลยนะ และ ทั้ง 2 ตึกแอบมีความเอียงเล็กน้อย คล้ายหอเอนเมือง pisa เลย สามารถขึ้นไปถ่ายรูปข้างบนได้นะ แค่ขึ้นบันได 498 ขั้นเอง แหะแหะ ถ้าทุกคนได้ไปที่เมืองนี้ ทุกคนน่าจะสังเกตเห็นว่าเมืองนี้ ตรงทางเดิน มีซุ้มประตูที่ดูโค้ง ๆ เหมือนกันหมด เขาเรียกซุ้มประตูอันนี้ว่า Portici ในภาษาอิตาลี โดย Portici อันนี้มีความยาวถึง 53 Km. เลยนะ โดยจุดสิ้นสุดของ Portici นี้ คือ San Lucca ขอบอกก่อนว่า เดินขึ้นเหนื่อยมากกก ภายใน san lucca สวยมาก มีรูปภาพของพระแม่มารีด้วย สำหรับสายชอบเที่ยวชมโบสถ์แบบคาทอลิก ควรมาเลยนะเจนนี่แนะนำ อยากแอบบอก 7ความลับของเมือง Bologna มีอะไรบ้าง ไปดูกันเลย 1. The three arrows 2. The 4 corners 4 หัวมุมนี้จอยู่ใกล้ๆ Piazza Maggiore เรียกว่า Palazzo del Podestà vault คือว่าถ้าพูดอยู่ตรงหัวมุมนี้ มุมของฝั่งตรงข้ามจะได้เสียงที่เราพูด สุดยอดไปเลยมั้ยล่ะนี่ 3. A Little Venice in Bologna ถ้าทุกคนไปตรงถนน Piella street จะเห็นหน้าต่างเล็ก ๆ อยู่บ้านหนึ่ง เมื่อคุณได้เปิดมันออก จะพบเห็นวิวสายแม่น้ำเล็ก ๆ ที่ให้ความรู้สึกคล้าย ๆ กับเมืองแห่งสายน้ำของ venice เลยละ (ต้องดูช่วงด้วยนะ ถ้าไปตอนน้ำแล้งนี่อาจจะได้เห็นแต่พื้นดินนะ) 4. Canabis protectio 5. The finger of Neptune นิ้วของ Neptune ดูเผิน ๆ ก็เป็นแค่รูปปั้นโพไซดอนธรรมดาทั่ว ๆ ไป แต่ถ้าลองเปลี่ยนมุมมองของตัวเอง ไปยืนอยู่ตรงห้องและสมุด แล้วมองมายังรูปปั้นจากทางด้านหลังเอียง 45 องศาแล้วล่ะก็ ด้วยเพราะตำแหน่งนิ้วของโพไซดอนนี้ อาจจะทำให้คุณเปลี่ยนความคิดว่าเป็นรูปปั้นธรรมดานี้ไปเลย 6. The vase upon the two towers 7. Palazzo Poggi in Bologna ต่อมา มาพูดถึงอาหารดีกว่า ถ้าพูดถึงอิตาลี ก็ต้องแน่นอนว่าต้องเป็น พิซซ่า พาสต้า ต่าง ๆ และแน่นอนพาสต้าชื่อดังของ Bologna ที่คนรู้จักกันในชื่อ พาสต้าซอส Bolognese ก็ถูกกำเนิดมาจากที่นี่แหละ ซอส Bolognese ก็คือซอสมะเขือเทศมาผสมกับเนื้อ และปรุงรสให้อร่อย ทานคู่กับเส้นพาสต้า (ถ้าเป็นเส้น Tagliatelle แล้วจะอร่อยเหาะไปเลย!!!) โดยจะขอแนะนำร้านที่ทำ Pasta bolognese ที่อร่อย และยังทำเส้นสดเองด้วยนะ มีชื่อว่า " Bottega Portici " มี 2 สาขาภายในตัวเมือง สาขาแรก อยู่ใกล้กับ Due torre อีกสาขาอยู่ตรงถนน Via dell'indipendenza เจนนี่รับประกันความอร่อยเลย very good!!! อากาศร้อน ๆ มันก็ต้อง Gelato อย่างแน่นอน ซึ่งในตัวเมือง Bologna มีหลายร้านมาก แต่ถ้าจะเอาเด็ด ๆ เลย จะขอแนะนำร้าน "Gelateria Giani" อยู่ตรง via santa stefano อร่อยมากก มีรสชาติให้เลือกหลายหลายเลยนะ และอีกร้านนึง ต้องออกนอกตัวเมืองมาหน่อย อยู่ตรง via filippo terzi มีร้านชื่อ Gelato di paolo ร้านนี้ก็อร่อยมากเหมือนกัน สำหรับเอเชี่ยนอย่างเรา ๆ ก็ไม่ต้องกลัวว่ามาแล้วจะอดตาย เพราะที่นี่มีร้านอาหารเอเชี่ยนเยอะมาก โดยเฉพาะร้านอาหารจีน และญี่ปุ่น (สำหรับร้านอาหารไทยยังไม่มีนะ ) โอ้ มีชานมไข่มุกด้วยนะ สวนสาธารนะของที่นี่กว้างใหญ่มาก ๆ เด็กนักเรียนส่วนมากหลังเลิกเรียนก็จะมานั่งเล่น นอนเล่นที่สวนสาธารณะ วันเสาร์ อาทิตย์ ก็มานัดเพื่อนมาปิกนิกกัน มาเล่นกีฬากัน เรียกได้ว่าโมเมนต์แบบนี้หาที่ไทยได้ยากมาก ๆ เลย ถ้ามีโอกาสอยากให้ทุกคนลองมานะ สุดท้าย อยากพูดถึงถนนที่สายนักช็อปห้ามพลาดเด็ดขาด ก็คือ Via dell'Indipendenza เส้นถนนที่ขายเสื้อผ้าเต็มไปตลอดสาย ทั้งแบรนด์เนม และไม่แบรนด์เนม ถ้าเดินควรเดินช่วงกลางวัน ผู้คนยังไม่เยอะ แต่ถ้ามาช่วงเทศกาล ต้องระวังตัวดี ๆ นะ เพราะขโมยแอบเยอะพอสมควรเลย ก็ขอจบการรีวิว ชีวิตใน Bologna ของเจนนี่ไว้เพียงเท่านี้นะคะ หวังว่าทุกคนจะได้รับความสนุก และได้รู้จักเมือง Bologna นี้มากยิ่งขึ้น ถ้ามีโอกาสสักครั้งนึงในชีวิต ก็อยากให้ทุกคนได้มาสัมผัสกับเมือง Bologna นี้ค่ะ สวัสดีค่ะ เครดิตภาพภาพทั้งหมด : JenDuuk (ผู้เขียน)