อนุสาวรีย์เจ้าพ่อพญาคำลือ อาจจะดูไม่ค่อยคุ้นหูมากนัก สำหรับสายท่องเที่ยว แต่สำหรับสายเที่ยวอิงประวัติศาสตร์ คิดว่าน่าจะพอรู้ที่มาที่ไปอยู่บ้าง เพราะอย่างน้อย การที่มีอนุสาวรีย์ของท่าน ณ ที่แห่งนี้ ย่อมหมายความว่า ท่านต้องมีคุณูประการต่อสถานที่แห่งนี้อย่างแน่นอน ... ช่วงกลางบทความจะมีบอกเอาไว้ ส่วนตอนนี้ เราจะค่อย ๆ ไล่ไปทีละจุดก่อน สถานที่แห่งนี้คือ อ.แจ้ห่ม จ.ลำปาง อยู่ติดกับ “วัดอักโขชัยคีรี” ที่ถนนสายหลักลำปาง-แจ้ห่ม เป็นเส้นทางหลักอีกหนึ่งสาย ในการเดินทางไป “น้ำตกแจ้ซ้อน” หากใครเคยผ่านแถวนี้ ยังไงก็ต้องเห็นแน่นอน และเราก็มาอาศัยจอดรถที่ใต้ร่มไม้ใหญ่ เพื่อไปเที่ยวที่วัดอักโขด้านข้างติดกันนี่เลย … แต่ไหน ๆ ก็มาจอดรถที่นี่แล้ว เราก็ไม่พลาด ที่จะเดินขึ้นไปกราบท่านด้วย ทางเดินขึ้นลงมีทั้ง 2 ข้างซ้ายขวา กว้างขวาง สะอาด และสวยงามมาก เราเลือกเดินขึ้นทางซ้ายมือ เพราะใกล้กับที่จอดรถมากที่สุดแล้ว ช่วงนี้เป็นช่วงปลายปี ท้องฟ้าจึงเป็นสีคราม มองแล้วสดใสมาก แต่แอบแสบตาไปนิด เพราะแดงแรงไม่แพ้กัน เมื่อกราบท่าน พร้อมขอพรให้เดินทางปลอดภัยแล้ว เราก็หยุดอ่านประวัติท่านพักหนึ่ง ใจความสำคัญคือ เจ้าพ่อพญาคำลือ ท่านคือผู้ครองวิเชตนครหรืออำเภอแจ้ห่มแห่งนี้ ท่านเป็นราชนัดดาของพญางำเมืองแห่งเมืองพะเยา และท่านได้รวมไพร่พลต่อสู้รักษาเมือง จากการรุกรานดินแดนล้านนาของพม่า ทำให้เรามีแผ่นดินอยู่ตราบเท่าทุกวันนี้ อ้อมมาที่ด้านหลัง จะมีต้นกุหลาบหินปลูกเป็นแถวยาว ท่ามกลางกระเบื้องลายจุดอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย บริเวณนี้ร่มรื่นอย่างมาก เราเดินเล่นหลบร้อนอยู่แถวนี้สักพักเหมือนกัน ที่บริเวณนี้ร่มรื่นก็เพราะมีต้นโพธิ์ใหญ่ คอยให้ร่มเงา แต่ที่น่าสังเกตก็คือ ถุงที่ห้อยในภาพนี้คืออะไรมากกว่า เราหันซ้าย-หันขวา ก็มองไม่เห็นใครที่จะตอบได้ เลยเดาเอาว่า น่าจะเป็นเครื่องสักการบูชาต้นโพธิ์ ตามประเพณีท้องถิ่น เพราะต้นโพธิ์คือต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ แต่แปลกตรงที่เราไม่เคยเห็นการผูกในลักษณะนี้มาก่อนเลย ที่ด้านหลังของอนุสาวรีย์ เรามองเห็นป้ายหินอ่อนภายใต้ร่วมเงา 1 แผ่น ก็เลยยกมือไหว้ แล้วเข้าไปดูใกล้ ๆ รายละเอียดบอกเกี่ยวกับฤกษ์ยาม ในการสร้างอนุสาวรีย์แห่งนี้เอาไว้ โดยสร้างในปี 2527 นับระยะเวลาได้ราว 36 ปี (ปีนี้ 2563) เข้าใจว่าบริเวณนี้ จะเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของคนในพื้นที่ สังเกตจากทางเดินจะมีเก้าอี้ให้นั่งเล่นด้วย ช่วงเวลาที่เหมาะ ก็ต้องเป็นเช้าตรู่และเย็น ๆ โน่นเลย และสุดสายตาทางด้านโน่นคือสนามกีฬาเล็ก ๆ พร้อมเครื่องออกกำลังกาย ถัดไปคือโรงพยาบาลแจ้ห่มอีกที คนพื้นที่น่าจะมาใช้บริเวณนี้ในการออกกำลังกายกันด้วย อนุสาวรีย์เจ้าพ่อพญาคำลือ จะมีกำแพงต้นไม้ไม่สูงมากปลูกกั้นเอาไว้ และมีทางเข้า-ออก ดังในภาพ สถานที่แห่งนี้คือจุดที่ผู้ผ่านทาง ต้องยกมือขึ้นท่วมหัว แล้วกล่าวคำสาธุ 3 ครั้งเสมอ เพื่อความเป็นสิริมงคล และเป็นธรรมเนียมของคนไทยที่ปฏิบัติสืบต่อกันมา ในวันที่เราไม่รีบจนเกิน และมีเวลามากพอ เรามักจะแวะพักรถและกราบท่าน ณ ที่แห่งนี้เสมอ แม้ที่นี่จะไม่มีสิ่งเร้าใจใด ๆ แต่มีร่มไม้ใหญ่และความอุ่นใจให้เราเสมอนะ