ขึ้นชื่อว่า "เสน่ห์" ในความหมายของการจะแนะนำท่านผู้ผ่านมาพาเลี้ยวเข้าวัดก็คงจะดูไม่สุภาพและไม่งามตามธรรมเนียมครรลองคลองธรรมของคนพุทธเท่าใดใช่ไหมครับ ท่านผู้อ่านทราบไหมครับว่า ในยุค 4.0 นี้อย่าว่าแต่พวกเราโยม ๆ ที่จะต้องปรับตัวนะครับ หลวงพี่หลวงพ่อสมภารวัดที่เป็นผู้นำทางด้านศาสนามิใช่ผู้นำในพิธีกรรมแบบเก่า ๆ ที่เน้นการสวดมนต์รับปัจจัยจากญาติโยมแล้วนะ วัด หรือ สถานที่ทางศาสนาทุกวันนี้ เป็นทั้งที่พักพิงทางกาย ทางใจ และทางอารมณ์ รวมถึงสังคม มิใช่ว่าเพิ่งจะมีแนวคิดแต่มีมานานแล้ว หากแต่ทว่า พวกเราเพิ่งจะมาพบเจอกันก็ต่อเมื่อโลกออนไลน์มันพาพวกเราเข้าไปในวัดด้วยนั่นล่ะครับ ท่านอาจจะเคยเห็นหลวงพี่สะพายกล้องที่บ่าแทนย่าม ถ่ายภาพสวยชัด มืออาชีพ และมีทักษะทางคอมพิวเตอร์ นั่นล่ะครับ คือ ศักยภาพที่พวกเราเห็นแต่ว่า มันคงไม่ทำให้ใครหลายคนตัดสินและหันหลังให้วัดใช่ไหมครับ ที่ต้องกล่าวเกริ่น เยิ่นย้อมา เพียงเพราะว่า คำว่า เสน่ห์ ในความเป็นวัดที่ให้ความหมายงอกงามไปกว่า การเป็นสถานที่จัดกิจกรรม เช่น บวชพระ เผาผียังไงล่ะตากฟ้า อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม ที่ผมกำลังก้ม ๆ เงย ๆ ถ่ายรูปริมแม่น้ำนครชัยศรี หรือ เรียกว่า แม่น้ำท่าจีน เจ้าพระยาก็ว่าได้ หากผ่านสุพรรณบุรีเขาก็เรียกว่า แม่น้ำสุพรรณบุรี ต้นทางโน้นมาจากชัยนาทครับ และมีปลายทางสู่เจ้าพระยา แม่น้ำสายนี้คนแุถวนี้เรียกแม่น้ำท่าจีน แน่นอนครับ ยามสุริยากำลังอัสดงเช่นนี้ แสงพระอาทิตย์เย็น ๆ ตกผ่านแม่น้ำกระทบผนังหลังคา ศาลา โบสถ์ หากเราให้อารมณ์มองไปชมสิ่งรอบตัวเราบ้าง ผมว่า ผมเห็นความงาม ยามเย็น ๆ เช่นนี้เหมือนกันนะครับเพื่อน ๆ วัดแห่งนี้ เป็นวัดฝ่ายมหานิกาย หมายความให้เข้าใจสำหรับคนที่อ่านสีจีวรพระไม่ออก ก็คือ วัดที่นุ่งห่มจีวร สีส้ม หรือ สีเหลือง ๆ นั่นล่ะครับ โดยทั่วไปจะเข้าใจเช่นนั้น มีประวัติว่า ความเป็นลานตากฟ้า จริง ๆ แล้ว มีเรื่องเล่าในครั้งอดีตว่า มีเรือพ่อค้าชาวจีน แล่นผ่านมาปรากฎว่าเรือล่ม พ่อค้าชาวเรือนำเสื้อผ้ามาตากที่ลานกว้างแห่งนี้ ซึ่งปัจจุบัน ก็ยังแสดงให้เห็นว่า ลานตากผ้า แต่เดิมนั้น ก็ยังเป็นลานจนทุกวันนี้ ครับ เสียงเพี้ยนจากตากผ้า มาเป็นลานตากฟ้า จนถึงปัจจุบัน และยังเป็นชื่อของ ตำบลลานตากฟ้า ในอำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐมอีกด้วย กิจกรรมยามเย็น ๆ ของผมวันนี้ คือพาลูกออกมาให้อาหารปลา ที่วังมัจฉาหน้าวัดครับ ซึ่งผมเคยมาครั้งก่อนโน้น แต่ด้วยความที่รีบมาจึงหลงลืมความงามข้างหน้าก็ว่าได้ วันนี้ขอเก็บรายละเอียดถี่ยิบมาเล่าสู่กันฟังตามอารมณ์นะครับ วัดแห่งนี้ ผมชื่นชมสมภารและพระลูกวัดตรงที่ท่านดูแลสุขภาวะด้านสิ่งแวดล้อม มีทัศนียภาพที่สวยงาม สะอาด และเป็นระเบียบมาก ๆ มีแมวเยอะร้องเหมียว ๆ เต็มไปหมดทว่า แม้เส้นขนแมวตกที่พื้นยังหาไม่เจอครับ สะอาดจริง ๆ นะ มองแล้วสบายตา สบายใจ ที่คือ บุญของพระที่ท่านจัดเตรียมไว้ให้เรา โดยไม่ต้องเข้าไปคุกเข่าอ้อนวอนขอพรเลยนะครับ ผมกับลูกชาย และคนอื่น ๆ ก็มาถ่ายรูปดูวิว ให้อาหารปลา ริมแม่น้ำซึ่งมีหน้ากว้างให้เราเดินแบบไม่ต้องแย่งพื้นที่กันเลยทีเดียว มีบริการอาหารปลาหยอดเหรียญ 10 บาท บริการด้วยนะครับ ได้เยอะจนเจ้าปลาต้องอิ่มอกอิ่มใจแน่ ๆ เลย มีปลาสวาย เบียดเสียดกันมางับ ๆ อาหารของเรา และน้ำไม่เน่าครับเพราะเป็นแม่น้ำธรรมชาติ นี่ไงครับ พูดยังไม่ขาดคำก็ยิ้มแฉ่งให้เลย งับ ๆ หลังจากให้อาหารปลาเสร็จแล้วก็เดินถ่ายรูปเล่น ช่วงเย็น ๆ ที่ผมไปพระอาทิตย์ใกล้จะตกดินพอดีครับจึงเก็บภาพริมฝั่งแม่น้ำท่าจีนมาฝากเพื่อน ๆ นี่ครับ นั่งเต๊ะท่า ชมปลา ชม ผักตบชวา เท่ห์ชะมัด มุมนี้หากไม่ใช่ผม แต่เป็นเพื่อน ๆ ที่อ่านแล้วแวะมาล่ะมันจะดูดีแค่ไหน คิดดูเอาละกันนะครับ อย่างที่ผมบอกว่า วัดนี้มีความเป็นระเบียบ สวยงาม ผมเดินเล่นหลังจากชมพระอาทิตย์ และกลัวอันตราย ตกน้ำด้วย อันนี้ต้องระวังนะครับหากมากับหนู ๆ อย่าละสายตาเด็ดขาดเลย อาจจะตกไปเป็นอาหารปลา เอาเป็นว่า ระมัดระวังให้มาก ๆ นะครับ ป่ะ ไปเดินเล่นลานวัดกันต่อ ผมขอลาก่อนนะครับ จริง ๆ การเที่ยววัดมันไม่ใช่การแสวงบุญเพื่อเอากำไรเข้าตัวเองด้วยหวังสรรรค์หรอกนะเพื่อน ๆ ผมว่า แค่เราได้ทำความคุ้นเคยกับความสบายใจ สบายกาย ที่วัดจัดเตรียมไว้ด้วยทัศนียภาพที่มีอยู่เดิมกับการเอาใจใส่ของเราและของคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องเองมันเอื้อเฟื้อต่อกันและกันที่จะทำลานธรรมให้เป็นแหล่งสุนทรีย์ เช่น การดูพระอาทิตย์ขึ้นลง อัสดงที่ริมน้ำหน้าวัด มันเป็นสุขแท้ และเมื่อสุขได้เช่นนั้น เราคงจะมีพลังออกไปสู้กับความทุกข์ที่จะเผชิญข้างหน้าได้ ผมว่ามันคือ ธรรมะ ที่พระท่านไม่ได้เทศน์ แต่ท่านจัดวางไว้ด้วยการบอกผ่านทัศนียภาพ ให้เราชม มานะครับสักครั้ง วัดลานตากฟ้า นครชัยศรี นครปฐม อีกหนึ่งวัดที่ผมหลงรักและมีเสน่ห์ ผมมีภาพที่ถ่ายด้วยตนเอง ทิ้งท้ายไว้ให้เห็น ลานตากผ้าเดิม ที่กว้างขวาง มาสู่ ลานตากฟ้า ในปัจจุบันมาฝากครับ ภาพถ่ายโดย : พ่อบักอินดี้