3 ตัวช่วยที่นักท่องเทียวต้องรู้ "เที่ยวยังไงให้ปลอดภัยจาก PM 2.5" หลังผ่านพ้นช่วงพีคของสถานการณ์โควิด-19 ผู้คนต่างก็ออกเดินทางท่องเที่ยวกันมากขึ้นหลายคนเตรียมแผนกอบโกยความสุขจากการเดินทางท่องเที่ยวในพื้นที่ต่าง ๆ ช่วงเทศกาลปีใหม่เพราะนอกจาก จะมีวันหยุดต่อเนื่องหลายวันแล้ว ยังเป็นช่วงที่สภาพอากาศในหลายพื้นที่เย็นสบาย แต่สิ่งที่นักท่องเที่ยวมักจะลืมนึกถึงในการท่องเที่ยวช่วงปลายปีก็คือ “ภัยร้ายจากฝุ่นขนาดเล็ก PM2.5” ที่อาจส่งผลกระทบรุนแรงจนทำให้เกิดมะเร็งปอดได้เลยทีเดียว ดังนั้นหากเตรียมวางแผนเดินทางท่องเที่ยวจึงต้องคิดต่อไปด้วยว่าจะ เที่ยวยังไงให้ปลอดภัยจาก PM 2.5 ท่องเที่ยวให้ปลอดภัยด้วย 3 ตัวช่วยลดความเสี่ยง PM2.5 1. เลือกพื้นที่ท่องเที่ยวเป็นธรรมชาติ เป็นปัจจัยสำคัญอันดับแรกที่จะช่วยให้มั่นใจว่าพื้นที่ที่จะอยู่แผนการเดินทางท่องเที่ยวนั้น ปลอดภัยจากค่าฝุ่น PM2.5 เพราะพื้นที่เหล่านี้จะไม่มีปัจจัยของการเกิดฝุ่น PM 2.5 ทั้งการจราจรที่ติดขัดทำให้ควันจากไอเสียรถยนต์, มลพิษจากโรงงานอุตสาหกรรม และการก่อสร้าง และยิ่งเลือกพื้นที่ที่ถูกโอบล้อมไปด้วยป่าเขา ธรรมชาติ หรือเป็นพื้นที่ตามเกาะแก่งในทะเล เช่นเขื่อนรัชชประภา (เขื่อนเชียวหลาน), ภูเก็ต และตามอุทยานธรรมชาติในพื้นที่ต่าง ๆ ก็จะทำให้ได้รับอากาศบริสุทธ์อย่างเต็มที่ ภาพจุดชมวิวเสม็ดนางชี ภาพเขื่อนรัชชประภา 2. ใช้เว็บและแอปพลิเคชั่นเฝ้าระวังมลพิษทางอากาศ ปัจจุบันคนส่วนใหญ่นิยมตรวจสอบและวางแผนพื้นที่ที่จะเดินทางท่องเที่ยวด้วยเว็บไซต์ https://www.iqair.com ซึ่งสามารถเลือกพื้นที่ที่ค่าฝุ่น PM2.5 อยู่ในระดับต่ำเพื่อวางแผนการท่องเที่ยวอย่างมั่นใจว่าปลอดภัยจากฝุ่นจิ๋วแน่นอน รวมถึงการดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นกลุ่มนี้มาไว้บนโทรศัพท์มือถือเพื่อตรวจสอบสภาพอากาศก่อนที่จะท่องเที่ยว เช่น Air4Thai ซึ่งเป็นแอปพลิเคชั่นของกรมควบคุมมลพิษ ที่จะมีฟังก์ชั่นให้ตรวจสอบค่า PM 2.5 ทั้งในปัจจุบันและเป็นค่าคาดการณ์ในช่วง 1 สัปดาห์ รวมถึงยังสามารถเลือกพื้นที่ที่ต้องการตรวจสอบได้อีกด้วย ดังนั้นหากใช้การประเมินสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ล่วงหน้าด้วยแอปพลิเคชั่นกลุ่มนี้ควบคู่ไปด้วย ก็จะช่วยทำให้วางแผนการเดินทางท่องเที่ยวได้อย่างปลอดภัยมากขึ้น เพราะหากค่าของ PM 2.5 อยู่ระดับเกินมาตรฐานหรือเป็นอันตรายต่อร่างกายแล้ว ก็ควรเปลี่ยนแผนเดินทางหรือเลือกพื้นที่อื่นแทน นอกจากแอปพลิเคชั่น Air4Thai แล้ว ก็มีแอปพลิเคชั่นตอื่น ๆ ให้เลือกโหลดมาใช้งานอีกมากมาย อาทิ Global Air Quality สำหรับช่วยตรวจสอบสภาพอากาศและค่าฝุ่นจิ๋วทั่วโลก เพื่อช่วยวางแผนเดินทางต่างประเทศได้ดีขึ้นเช่นเดียวกัน ภาพแอปพลิเคชั่น Air4Thai 3. หน้ากากอนามัยชนิด N95 หรือ N99 แม้ว่าผู้คนยุคปัจจุบันจะมีความคุ้นชินกับการใช้หน้ากากากอนามัยเพื่อป้องกันโควิด -19 อยู่แล้ว แต่หน้ากากอนามัยทั่วไปนั้นไม่สามารถป้องกันฝุ่นจิ๋ว PM2.5 ได้มากนัก หากจะป้องกัน PM2.5 ต้องเลือกใช้หน้ากากอนามัยชนิด N95 ซึ่งจะสามารถกรองฝุ่นได้อย่างน้อย 95% หรือ N99 ก็จะกรองได้สูงถึง 99% เลยทีเดียว ดังนั้นหากต้องการเพิ่มความมั่นใจว่าปลอดภัยจาก PM2.5 ก็สามารถเลือกใช้หน้ากากกลุ่มนี้ ในช่วงที่ต้องอยู่กลางแจ้ง หรือในขณะที่อยู่ในพื้นที่ใจกลางเมืองซึ่งอาจมีความเสี่ยงที่มีค่าฝุ่น PM2.5 ในระดับที่เกินกว่ามาตรฐาน เพียงใช้ 3 ตัวช่วยเหล่านี้ในการวางแผนและการเดินทางท่องเที่ยว ก็จะทำให้มั่นใจได้ว่า ฝุ่นจิ๋ว PM2.5 จะไม่ทำให้แผนเก็บเกี่ยวความสุขจากการเดินทางท่องเที่ยวต้องสะดุดลงแน่นอน #เที่ยวยังไงให้ปลอดภัยจาก PM2.5 เครดิตภาพปก Chait Goli/Pexels ภาพที่ 1 จาก tawatchai07/freepik ภาพที่ 2-5 โดยผู้เขียน ส่องที่เที่ยว พิกัดลับห้ามพลาด มุมถ่ายรูปสวยที่ทรูไอดีคอมมูนิตี้