“เก็บเรื่องมาเล่า โดยหนุ่ม สุทน” สุขกายสุขใจเมื่อได้กราบบูชารูปหล่อ "หลวงปู่เปี่ยม" แห่งวัดใต้เมืองกาญจนบุรี ทักทายกันวันพฤหัสที่ 2 มิถุนายน 2565 คิคิ เมื่อไปมาแล้วก็ต้องเขียนเล่าเรื่องให้ท่านผู้อ่านทุกท่านอ่านแล้วไปเที่ยวกันเองนะจ๊ะ ขอเริ่มต้นเล่าประวัติความเป็นมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันของ "วัดใต้" จนมาเป็น "วัดไชยชุมพลชนะสงคราม" โดยเริ่มต้นที่ วัดไชยชุมพลชนะสงครามเรื่องที่ 1 วัดใต้ เป็นชื่อของหมู่บ้านใต้ปากน้ำแพรกหรือริมน้ำแควใหญ่และแควน้อยไหลรวมกันไปลงเขื่อนแม่กลองหรืออีกนัยยะหนึ่งวัดใต้ตั้งอยู่ทางด้านใต้ของเมืองกาญจนบุรีหรือเมืองปากแพรกมีสองวัดด้านซ้ายและด้านขวาคือ "วัดเหนือหรือวัดเทวสังฆาราม" สำหรับ วัดใต้หรือทุกวันนี้คือ "วัดไชยชุมพลชนะสงคราม" เล่าขานกันเองว่ามีมาตั้งแต่กรุงศรีอยุธยาตอนปลายสันนิษฐานว่าผู้จัดสร้างวัดใต้คือพระยาตาแดง แต่อย่างไรก็ตามดูตามปี พ.ศ. 2328 น่าจะตรงกับสมัยแผ่นดินกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น แล้วได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาในปี พ.ศ. 2484 หรืออาจเป็นไปได้ว่าสร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยาเพราะเมื่อครั้งกรุงศรีอยุธยาตอนปลายในปี พ.ศ. 2309 เล่าขานว่ากองทัพพม่าเข้ามาทางด่านเจดีย์สามองค์มาตั้งทัพริมน้ำ "วัดใต้" แล้วยกกองทัพเข้าล้อมเกาะเมืองกรุงศรีอยุธยาวัดไชยชุมพลชนะสงคราม เป็นวัดติดแม่น้ำ บรรยากาศร่มรื่น เย็นสบายเรื่องที่ 2 สมัยแผ่นดินกรุงรัตนโกสินทร์ ครั้งนั้นเรียกสงครามเก้าทัพกองทัพกรุงรัตนโกสินทร์มาตั้งทัพบริเวณวัดใต้เช่นกันเพื่อประกอบพิธีบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์โดยการตั้งเป็นศาลเพียงตาเพื่อสู้รบกันกับกองทัพพม่ากรุงรัตนโกสินทร์ต้องชนะสงครามแม่น้ำแควใหญ่สำหรับเรื่องราวที่ 3 เข้ามาในปี พ.ศ. 2427 ตรงกับสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาล 5 มีพระภิกษุสงฆ์อุปสมบทชื่อทองคำหรือกาลเวลาต่อมาคือ "หลวงปู่เปี่ยม อินทสโร" ตามฉายาของท่านพอรับตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดใต้หรือวัดไชยชุมพลชนะสงครามแล้วก็เป็น "พระครูวิสุทธิรังษี" ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์หรือพระภิกษุปฏิบัติธรรมด้านวิปัสสนากรรมฐาน ได้ชื่อมีวิชาอาคมแกร่งกล้าสมบูรณ์ด้วยเมตตากรุณาแต่ชาวบ้านกล่าวว่าท่านเป็นนักเลงพูดจริง ทำจริง ทำให้นักเลงหัวไม้เมื่อครั้งกระนั้นเกรงขาม "หลวงปู่เปี่ยมหรือท่านพระครูวิสุทธิรังษี" ต่อมาสมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรมพระยาวชิรญาณวโรรสวัดบวรนิเวศน์วรวิหารในเมืองหลวงกรุงรัตนโกสินทร์เสด็จตรวจวัดต่าง ๆ ในเขตเมืองกาญจนบุรีและตรวจวัดใต้ครั้งนั้นได้ทรงต่อท้ายให้หลวงปู่เปี่ยมเป็น "พระครูวิสุทธิรังษี ชินศาสนโสภีสังฆปาโมกข์" พระครูวิสุทธิรังษี ชินศาสนโสภีสังฆปาโมกข์" (หลวงปู่เปี่ยม)"เมื่อถึงวาระสุดท้าย "หลวงปู่เปี่ยม" ท่านก็จากไปอย่างสงบหรือมรณภาพด้วยวัยชราเมื่อวันที่ 4 เมษายน ปี พ.ศ. 2490 สิริอายุ 85 ปี อุปสมบทมา 63 พรรษา เมื่อครั้งหลวงปู่เปี่ยมเป็นเจ้าอาวาสวัดใต้หรือวัดไชยชุมพลชนะสงครามนั้นท่านได้สร้างวัตถุมงคลให้ญาติโยมนำไปบูชา เช่น ตะกรุด ลูกอม เหรียญหลวงปู่เปี่ยม ผ้ายันต์และผ้าประเจียก เป็นต้น ถือว่าเป็นเครื่องรางของขลังเมื่อครั้งกระนั้นส่วนน้ำมนต์ของหลวงปู่เปี่ยมใช้ดื่ม ใช้อาบแก้คุณไสยศาสตร์เล่าขานว่าสุดยอดมาก ๆ หลวงปู่เปี่ยมสำหรับเรื่องที่ 4 ท่านผู้อ่านทุกท่านไปท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม "วัดใต้หรือวัดไชยชุมพลชนะสงคราม" ตั้งอยู่ที่ถนนไชยชุมพล ตำบลบ้านใต้ อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี!!! พอจอดรถยนต์แล้วหนุ่ม-สุทนแนะนำให้แวะตามจุดต่าง ๆ ภายในบริเวณวัดโดยเริ่มต้นที่ จุดที่ 1 กราบบูชาพระบรมธาตุประดิษฐานในมณฑป กราบขอพรพระบรมสารีริกธาตุได้ภายในมณฑปมณฑป รูปทรงสวยงาม สะอาดสบายตาน่ามองครับพระบรมสารีริกธาตุจุดที่ 2 เข้าพระวิหารหรือพระอุโบสถหลังเก่าด้านหน้าประดิษฐาน "หลวงพ่อทันใจ" กราบขอพรให้ประสบผลสำเร็จเช่น เรื่องหน้าที่การงาน การสอบเข้ารับรายการ ส่วนในพระวิหารประดิษฐานองค์พระพุทธรูปเก่าแก่คือ "หลวงพ่อศิลาแลง" เป็นพระพุทธรูปยืนปางประทานพรสันนิษฐานว่าเป็นสมัยขอม ขอพรได้เช่นกัน เช่น ขอให้มีโชคลาภ ให้ตนเองและครอบครัวมีความสุขหรือการค้าการลงทุน เป็นต้น สำหรับหนุ่ม-สุทนนั่งด้านหน้าองค์พระพุทธรูปต้องบอกตรง ๆ ว่าคล้าย ๆ มีพลังด้วยจิตใจสงบนิ่งอธิษฐานขอพรเหมือนมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์มองเราเพราะสงบเงียบจริง ๆ เป็นความเชื่อแต่ละคนไปสัมผัสได้ครับ พระวิหารหลังเก่าประดิษฐาน "หลวงพ่อทันใจ"หลวงพ่อทันใจ องค์ด้านหน้าสำหรับจุดธูปเทียนบูชา"องค์หลวงพ่อทันใจ" ด้านในพระวิหารส่วนจุดที่ 3 ขอบอกพลาดโอกาสไม่ได้คือ วิหารประดิษฐานรูปหล่อ "หลวงปู่เปี่ยม อินทสโร" รูปหล่อท่านชาวประชาชนทั้งหลายไปปิดทององค์ท่านมากครับ ส่วนการขอพรเรื่องความปลอดภัยและที่สำคัญที่สุดคือเรื่องขอให้มีบุตรเล่าขานกันมาว่าส่วนใหญ่จะได้มีบุตรสมใจนึกใครที่แต่งงานแล้วยังไม่มีบุตรรีบเร่งไปขอพรกับหลวงปู่เปี่ยมกันได้ครับวิหารประดิษฐานรูปหล่อ "หลวงปู่เปี่ยม อินทสโร"สำหรับจุดที่ 4 ท่าน้ำวัดใต้หรือวัดไชยชุมพลชนะสงคราม ทำบุญไหว้พระพุทธรูปและสิ่งศักดิ์สิทธิ์แล้วต้องทำทานให้อาหารปลาในแม่น้ำแควใหญ่ที่ไหลผ่านไปรวมกันกับแม่น้ำแควน้อยเรียกว่าปากแพรกไปลงเขื่อนแม่กลองแล้วไหลผ่านเมืองกาญจนบุรี-ราชบุรี ไปลงปากอ่าวแม่กลองหรือสมุทรสงคราม "บริเวณท่าน้ำ" ถ้าไปเป็นคู่รักคิคิถ่ายรูปแบบคู่รักกระหนุงกระหนิงให้เพื่อน ๆ อิจฉาขอบอกวิวทิวทัศน์สวยงามมากท่าน้ำวัดใต้หรือวัดไชยชุมพลชนะสงคราม ทำทานด้วยการให้อาหารปลาได้ครับน่าท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมครับ "วัดใต้หรือวัดไชยชุมพลชนะสงคราม" เป็นวัดสวยงาม เงียบสงบ วิวทิวทัศน์ริมน้ำบรรยากาศสดชื่น เย็นสบาย มองวิวริมน้ำมีเรือนแพมีเรือยนต์ลากจูงไปเรื่อย ๆ ตามลำน้ำแควน้อย สำหรับผู้สนใจท่องเที่ยวทางน้ำเป็นหมู่คณะพักผ่อนในเรือนแพก็น่าสนใจไปลองแพในลำน้ำแควน้อยเมืองกาญจนบุรี แล้วฝากติดตามฟังรายการ "กินเที่ยวทั่วไทยไปกับพี่หนุ่ม-สุทน รุ่งธัญรัตน์" ทางคลื่นข่าว fm 100.5 mhz ฟังเรื่องเล่าประวัติศาสตร์ วิถีชุมชน วัฒนธรรมและอาหารถิ่นของชุมชนได้ทุกวันอาทิตย์เวลา 10.10-11.00 น. "กินเที่ยวทั่วไทย เที่ยวเมืองไทยไม่ไปไม่รู้ ถ้าอยากรู้ต้องออกเดินทางไป...กับ...ผมหนุ่ม-สุทน” ขอบคุณและสวัสดีครับชมวิวทิวทัศน์ สวยงามได้ที่ท่าน้ำหน้าวัดไชยชุมพลชนะสงครามเรื่องและภาพโดย : หนุ่ม-สุทน รุ่งธัญรัตน์แฟนเพจเฟซบุ๊ค : https://www.facebook.com/sutonfm100.5/#ติดตามฟังเรื่องราวการเดินทางเที่ยวทั่วไทยทางคลื่นข่าว100.5fm ทุกวันอาทิตย์เวลา 10.10-11.00 น. #ติดต่อวิทยากรด้านการท่องเที่ยวได้ที่ได้ที่แฟนเพจเฟซบุ๊ค#เที่ยวเพลิน #เก็บเรื่องมาเล่าโดยหนุ่มสุทน #bigmaptravel #Tourism local life ชุมชนเพื่อการท่องเที่ยวไทยยั่งยืน 7-11 Community ห้องลับเมาท์มอยของกินของใช้ในเซเว่น อะไรดีอะไรใหม่ ต้องรู้ ต้องคุย ต้องแชร์