หมู่บ้านเล็ก ๆ ในหุบเขา ที่อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลกว่า 1,776 เมตร ณ ดินแดนเมืองสามหมอก แม่ฮ่องสอน แน่นอนว่าคงต้องนึกถึง “หมู่บ้านรักไทย” กันแน่ ๆ และพวกเราก็ไม่พลาดที่จะมาเยือนเช่นกัน แม้จะใช้เวลาไม่นานมากนัก ไม่ถึง 2 ชั่วโมงด้วยซ้ำไป เนื่องจากคืนก่อนหน้านี้ เราค้างคืนกันที่ปางอุ๋ง และที่นี่ก็อยู่ห่างจากปางอุ๋งเพียง 7 กิโลเมตรเท่านั้น ก็เลยตกลงกันว่า ...ไปกินก๋วยเตี๋ยวยูนนานที่บ้านรักไทยกันเถอะพวกเรา เมื่อเข้ามาในเขตหมู่บ้านแล้ว เราก็ไม่รอช้า ที่จะจอดรถใต้ร่มไม้เล็ก ๆ ข้างหลักกิโลน้อยแทบจะทันที เพราะมีที่จอดรถว่างอยู่ 1 ที่นั่นเอง! ... แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นสำคัญ พวกเราอยากถ่ายภาพสวย ๆ ไว้เป็นหลักฐานการมาเยือนถิ่นนี้มากกว่า จะเห็นได้ว่าท้องฟ้ากลายเป็นสีฟ้าเข้ม เพราะย่างเข้าสู่ต้นฤดูหนาวอย่างเป็นทางการ ตัดกันอย่างลงตัวกับทิวต้นไม้ใหญ่สีเขียว และสะท้อนเงามายังอ่างเก็บน้ำที่ใสสะอาด เป็นสัมผัสแรกที่บอกได้เต็มปากว่าประทับใจมาก ๆ หากเราทอดสายตาไปยังอีกฟากฝั่ง ก็จะเห็นว่ามีภูเขาลูกใหญ่ โอบกอดหมู่บ้านรักไทยแห่งนี้เอาไว้ และในแต่ละจุดเตรียมพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวกันอย่างเต็มที่ ซึ่งช่วงที่เรามาเที่ยวตอนนี้ คือต้นเดือนพฤศจิกายน จึงยังไม่มีนักท่องเที่ยวมากนัก แต่จะสังเกตได้ว่า หนุ่มสาวขาลุยทั้งไทยและต่างชาติ จะขี่มอเตอร์ไซค์ขึ้นมาเที่ยวกันไม่ขาดสาย บ้างก็แวะร้านน้ำชากาแฟ ไม่ก็ร้านข้าว บ้างก็นั่งทอดอารมณ์ที่ศาลาริมอ่างเก็บน้ำ เป็นภาพที่มองดูแล้วได้อารมณ์สโลว์ไลฟ์ไปอีกแบบแฮะ … ปะ! หิวแล้ว เราไปร้านก๋วยเตี๋ยวยูนนานฝั่งโน่นกันเถอะ จากภาพด้านบน เราได้ขับรถอ้อมมายังอีกฝั่งกันแล้วนะ ร้านนี้จะเป็นร้านแรกสุดในแถวนี้ รสชาติก๋วยเตี๋ยวบอกเลยว่าอร่อยมาก ๆ พวกเราซดน้ำซุปกันแทบไม่เหลือ ก็ไม่ได้หิวขนาดนั้นหรอก แต่อร่อยจริง ๆ นะ ... ที่สำคัญ! ชามละ 35 บาทเท่านั้น ยังไงก็อยากให้เพื่อน ๆ ที่มีโอกาสได้มาที่นี่ มาลองชิมกันนะ เพราะคุณป้ามีของแถมร้อน ๆ มาให้ด้วย คือชาร้อน 3 รสชาติ 3 เหยือก และแน่นอนว่า เราถูกปาก “ชายอดน้ำค้าง” เอามากๆ เพราะมีรสชาติหวานนิด ๆ และหวานติดปาก ก็เลยอุดหนุนคุณป้าซะเลย ส่วนเพื่อน ๆ ก็อุดหนุนผลไม้แช่อิ่มกันถุงใหญ่ด้วยเหมือนกัน วิวด้านหน้าร้านก๋วยเตี๋ยวยูนนาน ก็คือ “ลีไวน์รักไทยรีสอร์ท” มุมถ่ายภาพมหาชน ที่ใครๆ ก็ต้องเก็บภาพกลับไปเป็นที่ระลึก แต่ด้วยความที่พวกเรามีเวลากับที่แห่งนี้เพียงน้อยนิด ก็เลยได้ภาพมุมกว้างแบบนี้นี่แหละ กดชัตเตอร์รัว ๆ กันเลยทีเดียว ... คุณป้าที่ร้านก๋วยเตี๋ยวเล่าให้ฟังว่า พื้นที่สูง ๆ บนตึกใหญ่หลังคาสีน้ำตาลเข้มด้านฝั่งโน่น เป็นสถานที่บูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของหมู่บ้านรักไทยแห่งนี้ ที่สำคัญ! ผู้หญิงห้ามขึ้นเด็ดขาด จะมีเจ้าหน้าที่ของหมู่บ้านคอยเฝ้าอยู่ ดังนั้นก็ไม่ต้องห่วง หากเผลอเดินขึ้นไปโดยที่เราไม่ได้ตั้งใจ ฝั่งซ้ายมือของร้านก๋วยเตี๋ยว มองออกไปไกล ๆ ตรงโน่น คล้ายจะเป็นท่ารถของที่นี่ เพราะมีรถสองแถวสีเหลืองจอดรอผู้โดยสารอยู่ และที่นี่มีรถเข้า-ออก วันละ 2 เที่ยว เหมือนกับที่ปางอุ๋ง โดยท่ารถจะอยู่ที่ตลาดสายหยุดในตัวเมืองแม่ฮ่องสอน การเดินทางมาที่บ้านรักไทย เรียกได้ว่าสะดวกในระดับดีเลย แม้ว่าจะไม่มีรถส่วนตัว ก็เดินทางมาได้ไม่ยาก แต่ก็ดูเหมือนจะเหมาะกับผู้ที่มีเวลาในการท่องเที่ยวมากสักหน่อย เพราะจะได้มีเวลาในการอยู่กับธรรมชาติได้นาน ๆ ไง ... ดี๊-ดี ... หมู่บ้านรักไทยแห่งนี้ ถูกขุนเขาโอบล้อมไว้ทั้งหมด และดูแลกันเองแบบอบอุ่น คุณป้าร้านก๋วยเตี๋ยว (อีกแล้ว ... อ้างป้าอีกแล้ว) เล่าให้ฟังว่า ที่พักทั้งหมดนี้ เป็นของคนในหมู่บ้าน ไม่อนุญาตให้คนนอกเข้ามาปลูกสร้าง ดังนั้นที่พัก ร้านอาหารและเครื่องดื่มในแต่ละจุด ชาวบ้านต่างก็ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงกันเอง บางจุดเป็นที่ส่วนกลางของหมู่บ้าน ก็จะมีการจับสลากเพื่อแบ่งสรรพื้นที่ให้เช่าในการค้าขาย และต้อนรับนักท่องเที่ยวอย่างเรา ๆ นี่แหละ ... นั่งฟังแล้วก็ให้ความรู้สึกที่อบอุ่นดีเหมือนกันแฮะ ท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงาม หมู่บ้านเล็ก ๆ ที่ดังไกลมาก วันนี้ได้รู้แล้วว่า 2 ชั่วโมงที่พวกเราผ่านมาเยือน แม้จะไม่ได้ภาพมุมสวย ๆ เหมือนคนอื่นเขามากนัก ... แต่เราได้ภาพเกือบ 360 องศา มาฝากเพื่อน ๆ เชียวนะ แล้วเราก็คิดเอาไว้ในใจแล้วหละ ว่าเราจะกลับมาที่นี่อีกครั้งแน่นอน เพราะ ... บ้านนี้มีรัก บ้านรักไทย ... แนะนำการเดินทางและการเข้าที่พื้นที่ 1.ใช้ทางหลวง 1095 เชียงใหม่-ปาย-แม่ฮ่องสอน 2.รถยนต์ส่วนตัว ผู้ขับขี่ควรมีความชำนาญอย่างมากในการขับขึ้น-ลงเขา 3.มีรถโดยสารเข้า-ออก วันละ 2 รอบ ขึ้นรถที่ตลาดสายหยุดในตัวเมืองแม่ฮ่องสอน 4.หากพักที่ อ.ปาย สามารถเช่ารถยนต์ หรือรถมอเตอร์ไซค์ ขับขึ้นมาเที่ยวแบบไป-กลับได้ 5.มีทั้งห้องพัก และที่กางเต๊นท์ ในราคาที่แตกต่างกันไป หากไม่ได้จองไว้ แนะนำให้วนรถสอบถามให้ทั่วบริเวณก่อน เพราะอาจได้ที่พักในราคาที่ไม่แพงมากนัก