ต้องเล่าก่อนเลยว่า เราเป็นคนหนึ่งที่ได้ก้าวเข้าสู่โลกแห่งเวทย์มนตร์จากการดูและอ่านแฮร์รี่ พอตเตอร์ เป็นหนังสือเรื่องแรกและเรื่องเดียวที่ทำให้เราอ่านจนจบได้ เรียกได้ว่าคลั่งไคล้สุด ๆ ทุกอย่างในชีวิตต้องเกี่ยวกะแฮร์รี่ จนกระทั่งวันหนึ่งเราได้ค้นพบว่า มันมีสวนสนุกที่จำลองโลกเวทย์มนตร์ที่เรารักอยู่จริง ๆ บนโลก ! ความฝันเล็ก ๆ ได้ถือกำเนิดขึ้น อยากจะไปเหยียบที่นั่นสักครั้งจัง และนั่นก็คือจุดเริ่มต้นของการผจญภัยครั้งนี้ย้อนเวลากลับไปช่วงปี 2017 เป็นช่วงปิดเทอมใหญ่หลังจากจบ ม.4 เป็นเวลาที่เหมาะสมที่เราจะไปทำตามความฝัน ! เราเก็บเงินค่าตั๋วเครื่องบินได้เองจากเงินค่าขนม ตั้งใจเก็บมาเป็นปี ๆ จนแม่อนุญาตให้ไป และด้วยความโชคดีที่มีน้าสาวอาศัยอยู่ที่นั่น เลยทำให้การเดินทางไม่ค่อยมีอุปสรรคอะไร วันนี้ที่รอคอยก็มาถึง เป็นวันหนึ่งในช่วงปลายเดือนมีนาคม วันที่เดินทางไกลบ้านที่สุดในชีวิต เรากับน้าสาวคนกลาง ออกเดินทางจากกรุงเทพ ไปยังวอชิงตัน ดีซี เป็นเวลาที่ยาวนาน เรียกได้ว่าขาชาและปากแห้งมาก ๆ เลยทีเดียว เมื่อมาถึงน้าคนเล็กและน้าเขยได้มารอรับอยู่แล้ว หลังจากกอดกันให้หายคิดถึง เพราะไม่ได้เจอกันมานาน ก็เดินออกไปขึ้นรถและขับกลับไปที่บ้านกัน เมื่อลงจากรถอย่างแรกเลยคือ สั่น 55555 มันอาจไม่หนาวมากสำหรับคนที่นี่ แต่สำหรับคนที่เพิ่งเคยเจออากาศหนาวเป็นครั้งแรกเรียกได้ว่าหนักเอาการ สิ่งที่ประทับใจอย่างแรกเลยคือ ดอกซากุระบานสะพรั่ง เป็นช่วงเทศกาล Cherry Blossom พอดิบพอดี สวยมาก ๆ เลย เวลาครึ่งเดือนแรกหมดไปกับการขับรถจากวอชิงตัน ดีซี เที่ยวที่ต่าง ๆ ที่ขับรถผ่าน อย่างเวอร์จิเนียร์ แวะไปเยี่ยมญาติของน้าเขยที่นิวเจอร์ซีย์ และข้ามไปเที่ยวชมแสงสีในเมืองใหญ่อย่างนิวยอร์ค เมื่อกลับจาก Road Trip ครั้งนี้ น้าคนกลางก็ได้กลับไทยไปก่อน เพราะต้องกลับไปทำงานต่อ เหลือแค่เราที่อยู่ต่อได้ เรา น้าสาวและน้าเขย ได้นั่งเครื่องจากวอชิงตัน ดีซี ไปยังฟลอริด้า ที่อยู่ค่อนไปทางใต้ และมีอากาศร้อนไม่ต่างจากไทยสักเท่าไหร่ เมื่อมาถึงก็ได้จัดการเช่ารถที่สนามบิน และเดินทางไปยังโรงแรม โรงแรมเรียกได้ว่าอยู่ตรงข้ามเป้าหมายใหญ่ของเราเลย แค่เห็นจากไกล ๆ ก็อดที่จะตื่นเต้นไม่ได้ พร้อมมากที่จะไปตะลุยเที่ยวในวันพรุ่งนี้ และที่ที่เราจะไปก็คือ Universal Orlando สวนสนุกใหญ่ระดับโลก ! น้าได้จองตั๋วเข้าสวนสนุกไว้ 3 วัน และสามารถไปได้ทั้งสองฝั่ง ทั้งฝั่ง Universal Studios และ Islands of Adventure (ตอนนี้มีส่วนที่เป็นสวนน้ำเปิดใหม่แล้วชื่อ Volcano Bay ตอนที่ไปยังสร้างไม่เสร็จเลย ;-;) เช้าวันรุ่งขึ้น อาบน้ำแต่งตัว และรับประทานอาหารเช้าบุฟเฟ่ต์ที่ทางโรงแรมเตรียมไว้ให้ หลังจากนั้นก็เดินทางไปสวนสนุกโดยรถกอล์ฟของโรงแรม เขามีบริการรับส่งไปสวนสนุกด้วย สะดวกมาก ๆ พอไปถึงก็ต่อแถวเข้า ด้วยความที่เราไปก่อนเวลาเปิด ก็จะเจอกองทัพคนมหาศาล ที่มีจุดมุ่งหมายเดียวกันก็คือสวนสนุกแห่งนี้ เมื่อเข้าไปแล้วก็ต้องถ่ายรูปกับลูกโลก ซิกเนเจอร์ของเค้าสักหน่อย เมื่อเดินมาเรื่อย ๆ ตามฝั่ง Universal Studios ก็มาเจอกับสิ่งแรกที่ทำให้เราร้องกรี๊ดในใจ สิ่งนั้นก็คือ รถเมล์อัศวินราตรี และบ้านเลขที่ 12 กริมโมลด์เพลซ บ้านของซีเรียส แบล็ค พ่อทูนหัวของแฮร์รี่นั่นเอง เค้าว่ากันว่า ถ้าไปเคาะประตูบ้าน จะได้ยินเสียงหรือมีคนมาเปิดหน้าต่างด้วยแหละ ไอเราก็ไปเคาะสิ แต่จำไม่ได้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า 5555 เดินมาไม่ไกลนักเราเดินมาถึงโซนตรอกไดแอกอนที่ทุกคนคุ้นเคย มีทั้งร้านหม้อใหญ่รั่ว ธนาคารกริงกอตส์ ร้านขายไม้กายสิทธิ์โอลลิแวนเดอร์ ร้านขายของตลกของเฟร็ดกับจอร์จ และอีกมากมาย สีหน้าคนตื่นเต้นและปลื้มปริ่มมาก ๆ ก็จะประมาณนี้ เดินชมตามตรอกไปเรื่อย ๆ ถ่ายรูปบ้าง เข้าไปร้านขายของบ้าง รู้สึกมีความสุขมาก เหมือนฝันเป็นจริง เข้าไปชมร้านหม้อใหญ่รั่วสักหน่อย รั่วสมชื่อเลยแหละ5555 ข้างในก็จะขายอาหารและเครื่องดื่มให้นั่งทานได้จริง ๆ มาถึงธนาคารธนาคารกริงกอตส์ ข้างบนจะมีมังกรตัวใหญ่เกาะอยู่ เจ้าตัวนี้แหละที่อยู่ในหนัง น้องพ่นไฟได้ด้วยนะ ไอร้อนมาถึงข้างล่างเลย 5555 เดินเข้าไปจะเป็นเหล่าก็อบลินนั่งทำงานอยู่ เหมือนจริงจนแอบกลัว :-; เข้าไปจนสุดจะเป็นเครื่องเล่น เหมือนฉากที่แฮร์รี่ รอน และ เฮอร์ไมโอนี่ บุกเข้าไปขโมย ฮอร์ครักซ์ ที่ตู้นิรภัยของธนาคาร ภาคเครื่องรางยมทูตเลย สุดมันส์มาก ๆ สมจริงสุด ๆ หลังจากสำรวจโซนตรอกไดแอกอนหมดแล้วอย่างคร่าว ๆ เราก็พร้อมที่จะไปโรงเรียนที่เราใฝ่ฝัน นั่นก็คือ...ฮอกวอตส์นั่นเอง ! ปราสาทฮอกวอตส์ตั้งอยู่ฝั่ง Islands of Adventure การจะข้ามไปได้เราต้องนั่งรถไฟสายด่วนฮอกวอตส์ไป ซึ่งเราก็ได้จองตั๋วที่ครอบคลุมให้เดินทางข้ามไปมาทั้งสองปาร์คไว้แล้ว อย่างแรก ต้องไปยังสถานีคิงส์ครอส สถานีรถไฟอันเก่าแก่ของเมืองลอนดอน ประเทศอังกฤษ ที่ถูกเนรมิตมาตั้งไว้ในสวนสนุกแห่งนี้แล้ว ! เข้าไปยังชานชาลา 9 3/4 เพื่อขึ้นรถไฟสายเดียวที่มุ่งสู่โรงเรียนของเรา รอสักพัก ก็ขึ้นไปจับจองที่นั่งว่างกันเลยยย ! หน้าต่างในรถไฟจะเป็นจอที่เล่นวิดีโอวิวทิวทัศน์ให้เรารู้สึกไม่เบื่อระหว่างการเดินทาง และรู้สึกสมจริงมากยิ่งขึ้น ไม่นานนักก็ได้มาถึงสถานีปลายทาง นั่นก็คือหมู่บ้านฮอกส์มี้ดนั่นเอง ! หมู่บ้านใกล้ ๆ ปราสาทฮอกวอตส์ ที่เหล่านักเรียนฮอกวอตส์ชอบมากัน มีหลากหลายร้านที่ขึ้นชื่อ และสิ่งที่ขาดไม่ได้ก็คงจะเป็นบัตเตอร์เบียร์ ของดีของโลกเวทย์มนตร์ แต่เบียร์นี้ไม่มีแอลกอฮอล์นะ พูดอย่างนั้นแล้วก็ไปชิมเลยดีกว่า จะว่ายังไงดี รสมันแปลกใหม่ไม่เคยเจอมาก่อน5555 แต่แอบติดใจครีมข้างบนที่ทำเป็นฟอง จนต้องซื้อซ้ำรอบสอง มันอร่อยจริงๆนะ ครีมข้างบนอะ :-: อยากกินอีก ทุกคนอาจจะสงสัยทำไมชุดเปลี่ยน เรากลับมาอีกวันที่สองค่ะ ได้ถ่ายกะนายสถานีด้วย น่ารักมากๆเลยยยย เดินเล่นในหมู่บ้าน แวะร้านค้า ดูของสะสมต่างๆ ได้ติดไม้ติดมือมาเยอะแยะเลย มีสิ่งพิเศษอีกอย่าง คือ เราสามารถส่งโปสการ์ดจากฮอกส์มี้ดไปถึงที่บ้านได้ด้วยค่ะ เราเลยลองเขียนถึงตัวเองและน้องชาย ส่งกลับไปที่บ้านที่ไทย ตอนกลับไปโปสการ์ดก็มาถึงพอดี รู้สึกตื่นเต้นมาก ๆ เหมือนได้รับข้อความจากเราในอดีตเลยย จากนั้นเดินมาบริเวณหน้าปราสาทจะมีลานเล็ก ๆ ไว้แสดงโชว์ที่จะมีเป็นรอบเวลา เราได้ดูโชว์กบ(?)ร้องเพลงประสานเสียง และโชว์จากเหล่านักเรียนโบซ์บาตงกับเดิร์มสแตรงก์ ได้ถ่ายรูปกับพวกเค้าด้วย เขินมาก5555 ข้างปราสาทจะมีเครื่องเล่นรถไฟเหาะเล็กๆ ผจญภัยป่าต้องห้าม ซึ่งบอกตรง ๆ ว่าเราไม่ได้เล่น ไม่กล้าขึ้นรถไฟเหาะค่ะ แม้จะไม่ได้น่ากลัวมากก็ตาม 5555 ขอข้ามไปเครื่องเล่นที่เราชอบมากที่สุดเลยละกันนะคะ มันอยู่ในปราสาทฮอกวอตส์ ขอบอกว่าคิวยาวมากกก รอหลายชั่วโมงจริงๆ แต่มาแล้วก็ต้องได้เล่น เมื่อคิวเรามาถึง ก็เข้าไปเลยค่ะสามคนน้าหลาน เข้าไปนั่ง เราก็จะหมุนไปหมุนมา ลอยไปเจอหลายฉาก มีทั้งภาพสามมิติ และเป็นของประกอบฉากจริงๆ เจอทั้งการแข่งควิดดิช ทั้งมังกร และที่กลัวมากคือผู้คุมวิญญาณมันใกล้มากจนหลอนเลยค่ะ ;-; แต่ออกมาแล้วรู้สึกชอบมาก ๆ อยากเล่นอีกรอบ แต่น้าสองคนบอก ขอบาย เล่นแล้วมึนหัว มันคงไม่เหมาะกับผู้ใหญ่เท่าไหร่อะนะ 5555 เราเลยไปต่อแถวเล่นใหม่อีกรอบคนเดียว โชคดีที่แถวสั้นกว่ารอบก่อนเยอะมากๆ ไม่งั้นต้องรออีกนานเลย รีวิวเครื่องเล่นโซนแฮร์รี่ พอตเตอร์ทั้งหมดก็จะประมาณนี้ค่ะ แต่ยังไม่หมดเพียงแค่นี้ จะมาเล่าความลับที่ไม่ลับของไม้กายสิทธิ์ให้ได้รู้กัน ซึ่งอาจจะมีทั้งคนที่รู้และไม่รู้ว่าไม้กายสิทธิ์ที่เราซื้อจากร้านค้าภายในสวนสนุก สามารถนำมา interact กับจุดต่างๆภายในสวนสนุกได้ด้วย ! ราวกับเราใช้เวทย์มนตร์ได้จริง ๆ โดยต้องสังเกตจากสัญลักษณ์ซึ่งจะมีลักษณะเป็นหมุด ฝังอยู่บนพื้นตามสถานที่ต่าง ๆ โดยบนหมุดจะบอกคาถาและท่าทางที่เราต้องทำเพื่อให้เกิด interaction ขึ้น ซึ่งจุดที่ใช้ได้จะมีบอกอยู่ในแผนที่ที่มาพร้อมกับกล่องใส่ไม้กายสิทธิ์ที่เราซื้อมานั่นเอง แต่บางจุดอาจจะเป็นจุดพิเศษซึ่งไม่ปรากฏบนแผนที่ได้เช่นกันกลไกการทำงานของไม้กายสิทธิ์ เมื่อมาในโลกของวิทยาศาสตร์การทำงานของมันไม่ได้มีความซับซ้อนอะไรมากมาย เป็นระบบที่เกี่ยวข้องกับหลักการทำงานของ Photoelectric Sensor หรือการใช้งานเซนเซอร์เพื่อตรวจจับวัตถุด้วยแสง ซึ่งจะมีอุปกรณ์หลักที่สำคัญอยู่ 2 อย่างก็คือ ตัวส่งแสง (Emitter) และตัวรับแสง (Receiver) เป็นตัวที่ทำหน้าที่รับส่งคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ในที่นี้จะเป็นรังสีอินฟาเรด จากหลอด LED โดยกลไกนี้จะเป็น Photoelectric Sensor แบบ Retroreflective mode ซึ่งจะมีอุปกรณ์ส่งแสง และรับแสง อยู่ฝั่งเดียวกัน โดยถูกซ่อนไว้อยู่หลังฉาก และต้องมีแผ่นสะท้อนแสง (Reflector) อยู่ฝั่งตรงข้าม ซึ่งก็อยู่บนปลายของไม้กายสิทธิ์นั่นเอง แสงที่ถูกปล่อยออกมาจากตัวส่งแสง จะถูกปล่อยออกมาตลอดเวลา เมื่อมีคนมาใช้ไม้กายสิทธิ์ทำการร่ายมนตร์ตามท่าทางที่กำหนดไว้ แสงที่ส่องมานั้น ก็จะตกกระทบลงบนแผ่นสะท้อนแสงบนปลายไม้กายสิทธิ์ และสะท้อนกลับไปยังตัวรับแสง โดยมีกล้องบันทึกการเคลื่อนไหวของลำแสงนั้นเป็นภาพ และนำไปประมวลผลกับรูปแบบท่าทางที่ได้มีการบันทึกไว้ในระบบ หากมีรูปแบบท่าทางที่คล้ายคลึงหรือตรงกัน ก็จะทำให้เกิด interaction ขึ้นกับบริเวณนั้นราวกับมีเวทมนตร์ จบกันไปแล้วนะคะกับการรีวิวสวนสนุกแฮร์รี่ พอตเตอร์ ที่สนุกสนาน(สนุกแหละเนอะ) และแอบสอดแทรกวิทยาศาสตร์ไปนิดหน่อยด้วย การรีวิวครั้งนี้ใช้ประสบการณ์ส่วนตัวที่ได้พบเจอมา ซึ่งมันก็นานแล้วพอสมควร อาจจะมีผิดพลาดได้ หากมีข้อมูลผิดพลาดประการใดต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ แหล่งอ้างอิง :อ้างอิง 1อ้างอิง 2อ้างอิง 3อ้างอิง 4อ้างอิง 5เครดิตภาพ :ภาพปก โดย เจ้าของบทความภาพที่ 1-26 โดย เจ้าของบทความเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !