ชุมชนริมน้ำประแส เป็นแหล่งท่องเที่ยวระยองเชิงวิถีที่มากี่ทีก็ไม่มีเบื่อ ครั้งนี้จะพาเที่ยว 1 วัน แบบเช้าจรดเย็นแบบ Slow Life กับ 4 จุดเช็คอิน บนเส้นทางเที่ยววิถี ที่ประแส กันค่ะตลาดบ้านเก่าริมน้ำประแส เราเริ่มต้นกันที่นี่ ที่ตลาดเช้าซึ่งเป็นตลาดชุมชนเล็กๆ ที่มีเสน่ห์ มีนักท่องเที่ยวแวะเวียนมาอย่างสม่ำเสมอ แต่ไม่หนาแน่นมากนัก แนะนำให้มาเดินเล่น หาอะไรทาน ซื้อขนมติดมือไปบ้าง อร่อยทุกอย่าง (เดี๋ยวเราจะต้องไปเดินกันยาวๆ) และของที่พลาดไม่ได้คือ เคยตากแห้ง ที่หน้าตาเหมือนกุ้งแต่ตัวเล็กกว่า เรารู้ว่ากะปิทำมาจากเคย แต่เคยหน้าตาเป็นอย่างไร สามารถมาทำความรู้จักได้ที่นี่ ถ้ามาช่วงฤดูผลไม้ จะมีชาวสวนนำผลไม้มาขายเอง ราคาไม่แพงเลย ล่าสุดได้หิ้วหมอนทองมา 2 ลูกแบบไม่ต้องคิดเลยค่ะ กิโลละ 100 บาทเอง ถ้ามีเวลามากหน่อยสามารถเดินเล่นดูบ้านเก่าโบราณและผลงานกราฟิตี้ถ่ายรูปเก๋ๆ กันได้ด้วย หรือจะมาพักโฮมสเตย์ก็น่าสนใจไม่น้อยวัดตะเคียนงาม มีต้นตะเคียนคู่อายุกว่า 500 ปี ที่ต้นใหญ่มาก ชาวบ้านเรียกต้นตะเคียนเจ้าแม่และต้นตะเคียนเจ้าพ่อ สายมูต้องลองมากราบไหว้ ทำบุญสักการะขอพร ที่บริเวณศาลด้านข้างต้นตะเคียน จะขอให้ประสบความสำเร็จ ร่ำรวย ทำมาค้าขายดี การสอบ ขอพร หรือขอหวยต่างๆ ถ้าได้สัมฤทธิ์ผล ก็อย่าลืมนำของสวยงาม ผ้าแพรชุดไทย เครื่องประดับ เครื่องสำอางต่างๆ มาถวายเจ้าแม่ตะเคียนกันด้วยนะคะ หรือจะมานั่งเล่นก็มีม้าหินอ่อนให้พักผ่อนใต้ร่มเงาต้นตะเคียนร่มรื่นดี ด้วยความที่คุณลุงบอกว่าทุเรียนลูกนึงต้องทานวันนี้นะ ก็เลยมานั่งทานแบบไม่ขอแบ่งเจ้าแม่ตะเคียนค่ะทุ่งโปรงทอง ไปต่อกันที่ป่าชายเลนผืนที่ใหญ่ที่สุดของจังหวัดระยอง มีสะพานเดินศึกษาธรรมชาติเป็นระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร เราจะต้องจอดรถยนต์ในจุดรับฝากและต่อรถสามล้อชาวบ้าน ควรติดน้ำเปล่ามาด้วยสักขวด จะซื้อกับแม่ค้าตรงทางเข้าก็ได้ ช่วงแรกจะเป็นทุ่งต้นโปรง ที่มีสีเขียวสะท้อนแสงแดดเป็นสีทองสวยงามแปลกตา แต่ว่าชีวิตต้องสู้แดดกันนิดนึง เมื่อเดินมาได้สักพัก ถึงศาลเจ้าพ่อแสมผู้ ก็จะมีป้าๆ เสนอทางเลือกให้นักท่องเที่ยวที่ท้อใจ จะไม่เดินต่อแล้ว ให้นั่งเรือชมธรรมชาติกลับ ก็เป็นตัวเลือกที่น่าหวั่นไหว มาครั้งเดียวเที่ยวทั้งทางเดินและได้ล่องเรือชมบรรยากาศทางน้ำด้วย แต่จะไม่ได้เห็นต้นแสมยักษ์นะ ต้องเดินไปต่ออีกหน่อย จะมีจุดให้นั่งพักเป็นระยะ แล้วก็มีต้นโกงกางสวยๆ หอดูนก/ชมวิว ให้ถ่ายรูปเล่นได้ตลอดทาง สิ่งที่ชอบมากที่สุดเวลามาที่นี่ก็คือความสวยงามสีสันของธรรมชาติที่แตกต่างไปตามฤดูกาล และการสูดหายใจรับอากาศที่ต้นไม้ได้ฟอกให้เราได้อย่างเต็มปอด แม้อากาศจะร้อนบ้าง เหนื่อยบ้าง แต่ก็สดชื่น และ เมื่อเดินไปสุดทางแล้ว เดินกลับไม่ไหว ก็มีรถสามล้อเครื่องชาวบ้านดักรอรับให้บริการไปส่งถึงที่จอดรถยนต์ไม่ต้องกังวล สามล้อพ่วงก็เป็นเอกลักษณ์ของชุมชนย่านนี้มากๆ นะคะ มาแล้วต้องมีโอกาสได้ใช้บริการ ถ้าจะขอเขาลองขับก็ตกลงกันเอาน้าอนุสรณ์เรือรบหลวงประแส เดินต่อจากสุดทางสะพานศึกษาธรรมชาติของทุ่งโปรงทองมาอีกหน่อยก็ถึง เรือรบหลวงประแส หรือเรือ 412 เป็นเรือรบหลวงเก่าที่ปลดประจำการจากในสมัยของสงครามเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ แต่ก่อนจะไปถึงเรือรบแวะพักผ่อนเติมพลังด้วยอาหารทะเลก็มีบริการให้เลือกอยู่หลายร้าน บรรยากาศก็ร่มรื่นลมพัดเย็นเชียวค่ะ จากนั้นก็สามารถไปถ่ายรูปและขึ้นไปเที่ยวเล่นบนเรือได้ หรือจะนั่งชิวชมวิวทะเลปากน้ำประแสก็ได้ จุดเรือรบนี้สามารถขับรถยนต์มาถึงได้เลยนะคะ แต่ผู้เขียนชอบใช้เวลาเดินดูนั่นดูนี่ไปเรื่อย เดินมาถึงแล้วเราก็นั่งเล่นพักผ่อน หายเหนื่อยแล้วก็เดินกลับทางเดิมข้อแนะนำในการเดินบนเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ควรมีน้ำดื่มและขนมติดมาทานเล็กน้อย ระหว่างทางเดินอย่าลืมทักทายให้กำลังใจเพื่อนร่วมทางนะคะ เหนื่อยก็พัก ไม่มีความจำเป็นต้องรีบ ไปเรื่อยๆ มีความสุขกับธรรมชาติรอบตัวค่ะ ภาพถ่ายโดยผู้เขียน#เที่ยวระยอง #เที่ยววิถี #เที่ยวธรรมชาติ #เที่ยวประแส อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !