พระพุทธไสยาสน์ หรือที่เราเรียกกันง่าย ๆ ว่า พระนอน เป็นพระพุทธรูปประจำคนเกิดวันอังคาร พระนอนโดยส่วนใหญ่ที่เราเห็นก็มักจะอยู่ในอิริยาบถนอนตะแคง เอามือรองรับพระเศียรไว้ แต่ในความเป็นจริงแล้ว พระนอนยังแยกย่อยออกไปอีกหลายอิริยาบถ มีที่มาจากตอนต่าง ๆ ในพุทธประวัติ อย่างเช่นพระนอนในรูปแบบที่เราคุ้นเคยสุดจะเรียกกันว่าปางโปรดอสุรินทราหู มาจากพุทธประวัติตอนที่พระพุทธเจ้าเนรมิตพระวรกายให้ใหญ่โตกว่าอสุรินทราหูที่ยึดมั่นถือมั่นว่าตนนั้นตัวใหญ่และไม่แสดงอาการอ่อนน้อมต่อพระพุทธเจ้า (อาจเป็นที่มาว่าทำไมหลาย ๆ วัดมักสร้างพระนอนให้มีขนาดใหญ่โต) อีกปางก็คือปางปรินิพพานซึ่งคงไม่ต้องอธิบายอะไรมาก ก็มาจากพุทธประวัติตอนพระพุทธเจ้าปรินิพพาน บทความนี้จะนำเสนอพระนอนที่สำคัญ ๆ หรือน่าสนใจในเขตกรุงเทพมหานคร บางองค์อาจจะอยู่ในอิริยาบถอื่นที่ไม่ค่อยพบ หรืออยู่ในวัด ในสถานที่ที่ลึกลับ ไม่ใช่จะพบหรือรู้จักได้ง่าย ๆ ด้วย ๑.พระพุทธไสยาส วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร เขตพระนคร กรุงเทพมหานครพระนอนองค์สำคัญที่สุดองค์หนึ่งของไทย ถือว่ามีขนาดใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ ชาวต่างชาติหลายคนที่มาเมืองไทยก็เพื่อจะมาชมพระนอนองค์นี้ รัชกาลที่ ๓ โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้น ณ บริเวณที่เคยเป็นวังของพระองค์เจ้าหญิงกุ หรือ กรมหลวงนรินทรเทวี (น้องสาวของรัชกาลที่ ๑) *พระพุทธไสยาส วัดพระเชตุพนฯ แหล่งข้อมูลของทางวัดมักสะกดเป็น ไสยาส ไม่ใช่ ไสยาสน์ เคยอ่านบทความของพระรูปหนึ่งในวัดนี้ระบุว่า ถ้าเขียนไสยาสน์ จะเหมือนเป็นการนำไปสนธิกับคำว่า อาสน์ ที่หมายถึงการนั่ง จึงไม่นิยมสะกดว่าไสยาสน์ พิกัด : https://maps.app.goo.gl/UzbGZE4z9kJVkUcD9 ๒.พระพุทธไสยาสน์นารถชนินทร์ ชินสากยบรมสมเด็จ สรรเพชญพุทธบพิตร วัดราชโอรสารามราชวรวิหาร เขตจอมทอง กรุงเทพมหานครวัดราชโอรสารามเป็นวัดประจำรัชกาลที่ ๓ นอกจากจะสร้างโดยผสมผสานศิลปะจีนอันเป็นพระราชนิยมในรัชกาลที่ ๓ แล้ว วัดนี้ยังมีพระนอนที่องค์ใหญ่ที่สุดในฝั่งธนบุรีด้วย มีนามว่า “พระพุทธไสยาสน์นารถชนินทร์ ชินสากยบรมสมเด็จ สรรเพชญพุทธบพิตร” ประดิษฐานในพระวิหารหลังใหญ่หลังพระอุโบสถ พิกัด : https://maps.app.goo.gl/urcsDfAj8kBMNbK6A๓.พระไสยา วัดบวรนิเวศราชวรวิหาร เขตพระนคร กรุงเทพมหานครเป็นพระนอนศิลปะสุโขทัยที่มีพุทธลักษณะงดงาม พระนอนองค์นี้เป็นปางปรินิพพาน สังเกตได้จากการที่หลับพระเนตร (พระปางปรินิพพานบางองค์มือจะตกข้างหมอนด้วย ให้นึกถึงเวลาดูละครในฉากคนตายแล้วมือตกลงบนเตียงนั่นแหละ) สำหรับพระไสยาองค์นี้ รัชกาลที่ ๔ ทรงพบขณะทรงผนวชแล้วธุดงค์ไปถึงสุโขทัย ต่อมาจึงให้อัญเชิญมาที่วัดบวรนิเวศแห่งนี้ ประดิษฐานที่พระวิหารพระศรีศาสดาซึ่งเปิดเฉพาะวันพระหรือวันสำคัญทางศาสนาเท่านั้นพิกัด : https://maps.app.goo.gl/hvnTtkW2QfG7i6br9๔.พระพุทธบัณฑูรมูลประดิษฐ์สถิตไสยาสน์ วัดเศวตฉัตรวรวิหาร เขตคลองสาน กรุงเทพมหานครพระนอนเก่าแก่สมัยอยุธยา อายุเกือบ ๒๐๐ ปี ตอนที่ผมไปวัดนี้ครั้งแรกในปี พ.ศ.๒๕๕๖ องค์พระอยู่ในสภาพทรุดโทรมและประดิษฐานกลางแจ้ง มีแค่หลังคาคลุมเล็กน้อยเท่านั้น แต่ขณะนี้กำลังมีการสร้างพระวิหารครอบองค์พระอยู่ องค์พระก็ได้รับการบูรณะด้วย ซึ่งในวัดเศวตฉัตรนี้ก็ไม่ได้มีสิ่งน่าสนใจแค่องค์พระนอนเท่านั้น แต่ยังมีพระประธานในพระอุโบสถที่เป็นพระพุทธรูปปางนาคปรกด้วย ภาพถ่ายเก่า ปี ๒๕๕๖พิกัด : https://maps.app.goo.gl/EZ77dLmNAq1EBK797 ๕.พระนอน วัดบางบอน เขตบางบอน กรุงเทพมหานครสำหรับพระนอนองค์นี้อาจจะไม่ได้เป็นที่รู้จักมากนัก แต่สิ่งที่น่าสนใจคือปางขององค์พระครับ คือเป็นปางโปรดสุภัททะ ที่มาของพระพุทธรูปปางนี้คือช่วงสุดท้ายก่อนที่พระพุทธเจ้าจะปรินิพพาน ได้มีชายคนหนึ่งนามว่าสุภัททะมาขอเข้าเฝ้าเพื่อถามสิ่งที่ตนสงสัยเป็นครั้งสุดท้าย และได้ขอบวชก่อนที่จะสำเร็จเป็นพระอรหันต์ในคืนนั้น นับเป็นพระภิกษุรูปสุดท้ายที่ได้บวชกับพระพุทธเจ้าพิกัด : https://maps.app.goo.gl/zrFnsV8wZMips9dN6 ๖.พระนอน วัดสวนพลู เขตบางรัก กรุงเทพมหานครวัดสวนพลูเป็นวัดที่ถูกห้อมล้อมด้วยอาคารและโรงแรมย่านบางรัก แต่ในวัดนี้ก็มีศิลปกรรม สถาปัตยกรรมที่สวยงามมากมาย โดยเฉพาะหมู่กุฏิขนมปังขิง นอกจากนี้ในวัดยังมีพระนอนองค์ใหญ่ ซึ่งเป็นปางทรงพระสุบิน สังเกตได้จากมือที่จะอยู่ในอิริยาบถที่เอาหลังมือวางไว้ใต้คาง มีที่มาจากพุทธประวัติก่อนที่พระพุทธเจ้าจะตรัสรู้ ได้ทรงพระสุบินทั้งหมด ๕ ประการ เมื่อทรงทำนายฝันด้วยพระองค์เองแล้วก็ได้ความว่าจะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าพิกัด : https://maps.app.goo.gl/hC7VrtzUAqHkDxMP6 ๗.หลวงพ่อสุขสบาย หรือ หลวงพ่อประสบสุข วัดราชคฤห์วรวิหาร เขตธนบุรี กรุงเทพมหานครพระนอนองค์นี้อยู่ในอิริยาบถนอนหงาย เป็นพระพุทธรูปปางถวายพระเพลิง มีพระมหากัสสปะนั่งสักการะอยู่ที่เบื้องพระบาท ก็มีที่มาจากพุทธประวัติตอนถวายพระเพลิงที่จุดไฟเท่าไรก็ไม่ติด จนกระทั่งพระมหากัสสปะที่อยู่ระหว่างการธุดงค์กลับมาถึง ถวายสักการะเบื้องพระบาทแล้วไฟก็ติดขึ้นเอง สำหรับประวัติการสร้างพระองค์นี้นั้น บ้างก็ว่าสมเด็จพระเอกาทศรถโปรดเกล้าฯ ให้สร้างเพื่อแก้เคล็ดในช่วงเกิดโรคระบาด หรือบ้างก็ว่าพระยาพิชัยดาบหักให้สร้างเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้ข้าศึกที่สังหารไปช่วงทำสงครามพิกัด : https://maps.app.goo.gl/7ex7egedrvxmATGR6 ๘.พระนอน วัดใหม่วิเชียร เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานครพระนอนองค์นี้ต้องเรียกได้ว่าซ่อนอยู่กลางชุมชน อยู่ในวัดร้างที่ปัจจุบันเหลือเพียงวิหารพระนอน แต่ก็ได้รับการบูรณะใหม่จนอยู่ในสภาพดี ใช้เป็นที่จัดพิธีทางศาสนาของชุมชน องค์พระสร้างมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ ๒ พระพักตร์เป็นแบบหน้านิ่งไม่แสดงอารมณ์หรือที่เรียกกันว่า หน้าหุ่น ซึ่งนิยมในช่วงต้นกรุงรัตนโกสินทร์ การจะเข้าสักการะองค์พระต้องติดต่อหัวหน้าชุมชนวัดใหม่วิเชียรพิกัด : https://maps.app.goo.gl/ZaDU5SARvmRSiYwJA ๙.พระนิพพานทรงญาณ โรงเรียนวัดราชาธิวาส เขตดุสิต กรุงเทพมหานครสำหรับพระนอนองค์นี้ประดิษฐานในห้องประชุมชั้น ๖ อาคารไชยันต์ โรงเรียนวัดราชาธิวาส สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ทรงเป็นผู้ออกแบบด้วยศิลปะกรีกประยุกต์ มีจุดประสงค์ในการสร้างเพื่ออุทิศพระกุศลแด่กรมหมื่นมหิศรราชหฤทัย ผู้ทรงอุทิศทุนทรัพย์ในการสร้างโรงเรียนนี้ แต่ยังไม่ทันแล้วเสร็จก็สิ้นพระชนม์เสียก่อน พุทธลักษณะของพระองค์นี้เป็นปางทรงพระสุบินแบบเดียวกับพระนอนวัดสวนพลู พิกัด : https://maps.app.goo.gl/FVrVufrpbyJFKWdMAสำหรับบทความนี้ก็จบลงเพียงเท่านี้ครับเครดิตภาพ : Phonlakrit Sunthornphon (ถ่ายภาพเองครับ) อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !