วันนี้จะมาแนะนำ 5เทคนิคดีๆ พาลูกน้อยเที่ยวขึ้นเครื่องบิน แบบไม่มีน้ำตา ไม่ร้องไห้เสียงดังรบกวน ซึ่งเหมาะกับลูกน้อยช่วงอายุ 8เดือน ถึง 2ขวบ !!! แล้วช่วงอายุอื่นๆละคะ? สำหรับลูกน้อยที่อายุต่ำกว่า 8 เดือน เรายังสามารถควบคุมน้องได้ เพราะน้องยังเล็กมาก แต่พอถึงช่วงวัยที่เริ่มเกาะยืน มีพัฒนาการมากขึ้น เริ่มเรียนรู้สิ่งต่างๆรอบข้างมากขึ้น ทำให้เด็กในช่วงวัยนี้ จะอยู่ไม่ค่อยนิ่ง และจะพยายาม เคลื่อนไหวตัวเองมากยิ่งขึ้น จึงทำให้ การไปไหนมาไหนต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ และ อย่างที่ทราบกันดี ว่าเวลาขึ้นเครื่องบิน ลูกน้อยจะต้องนั่งบนตักและทำการรัดเข็มขัด ซึ่งนั่นอาจจะทำให้ลูกน้อยในวัยที่อยากเรียนรู้ และอยู่ไม่นิ่งนั้น เริ่มอึดอัดได้ ซึ่งส่วนตัวเป็นคนพาลูกเที่ยวบ่อยมาก และใช้เทคนิคนี้เป็นประจำ มาดูกันค่ะว่า 5เทคนิคที่ว่านั้นมีอะไรบ้าง ที่จะไม่ทำให้ลูกน้อยของคุณร้องไห้ โยเย และสร้างความรำคาญให้คนรอบข้างได้อย่างไร ไปดูกันเลยค่ะ 1.พักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อ อารมณ์ที่ดี อย่างที่ทราบกันดีนะคะ สำหรับคนที่มีลูกน้อย ว่าเด็กจะต้องนอนหลับพักผ่อนในช่วงไหนบ้าง ซึ่งการจองเที่ยวบินก็ควรจองให้สัมพันธ์กับเวลาด้วย จริงๆก็มีสองวิธีนะคะ คือ ไปไฟลท์ที่ลูกน้อยสามารถไปนอนหลับบนเครื่องได้ กับ ให้ลูกน้อยนอนให้เต็มอิ่มก่อนที่จะออกเดินทาง ซึ่งก็เคยลองใช้มาทั้งสองวิธี ก็พบว่า การให้ลูกน้อยได้พักผ่อนนอนหลับก่อนเดินทางนั้นดีกว่า เพราะเค้าจะได้ไม่งัวเงีย และ ที่สำคัญคือ ลูกน้อยจะได้ออกมาพบโลกกว้างขณะเดินทางด้วยค่ะ เพราะลูกน้อยช่วงนี้เป็นวัยที่ชอบการเรียนรู้ อย่าปิดกั้นพัฒนาการลูกด้วยคำว่า “ยังเด็กยังไม่รู้เรื่อง” กันเลยนะคะ พาเดินทางกันต่อไปค่ะ เพิ่มความสัมพันธ์ที่ดีให้กับลูกน้อยค่ะ (สำหรับการเดินทางภายในประเทศไม่กี่ชั่วโมงนะคะ…ส่วนบินต่างประเทศมากกว่าหนึ่งชั่วโมงจะเขียนไว้อีกเรื่องนึงค่ะ) 2. เบี่ยงเบนความสนใจ เมื่อขึ้นเครื่องบินได้ที่นั่งเรียบร้อย ก่อนที่จะมีสัญญาณให้คาดเข็มขัด ก็ควรปล่อยให้ลูกน้อยได้สำรวจสิ่งใหม่ๆที่เค้าไม่เคยเห็นก่อน เพื่อ สร้างความคุ้นชิน หลังจากนั้นให้พยายามเบี่ยงเบนความสนใจลูกน้อย เพื่อให้เค้าได้มานั่งบนตักของเรา เป็นการเตรียมพร้อมที่จะรัดเข็มขัด ตรงนี้ เราอาจจะต้องใช้ของเล่น ที่คิดว่าลูกชอบ หนังสือที่มีภาพสีสันสดใส จุกหลอก ขวดนม หรือแม้แต่ขนมชิ้นเล็กๆ ซึ่งในขณะที่เครื่องขึ้นลง จะงดใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ เพราะฉะนั้นช่วงเวลานี้จึงเป็นช่วงเวลาเริ่มต้นความสนุก ในการพาลูกขึ้นเครื่องบินค่ะ 3. ความกดอากาศ ในขณะที่เครื่องบินกำลังขึ้น และ เครื่องบินกำลังลดระดับเพื่อที่จะลงจอดนั้น แน่นอนว่าลูกน้อยเราจะต้องเจอกับความกดอากาศ ยิ่งสูง ยิ่งอาจจะปวดหูและทำให้ลูกน้อยของเราหงุดหงิดร้องไห้ลั่นได้ เพราะเค้ายังกลืนน้ำลายไม่เป็น เพราะฉะนั้น พ่อแม่ที่เดินทางด้วยจะต้องเตรียมอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับลูกน้อย เช่น หูฟัง หรือ ถ้าสามารถเอาเข้าเต้ากินนมได้ ก็จะช่วยได้เยอะเลยค่ะ และจะต้องหมั่นสังเกตลูกน้อยเสมอนะคะ ว่าลูกน้อยจับหูบ่อยมั้ย หรือ มีสีหน้าท่าทางยังไง เพราะจะได้รับมือได้ ก่อนที่ลูกน้อยจะร้องไห้ลั่นจนไม่สามารถควบคุมได้ หากลูกน้อยมีอาการเหมือนจะร้องไห้ ให้ ไปทำตามคำแนะนำข้อสองนะคะ ช่วยได้เยอะเลยค่ะ 4. ความบันเทิง ปฏิเสธไม่ได้นะคะว่าสื่ออิเล็กทรอนิกส์จะสามารถควบคุมลูกน้อยเราได้อยู่หมัด และที่สำคัญคือ ลูกน้อยจะชอบมาก การเลือกสื่อความบันเทิงจึงควรให้เหมาะสมกับวัย และต้องอยู่ในความดูแลของพ่อแม่ตลอดเวลา การเปิดแค่ภาพ หรือคลิปด้วยเสียงเบาๆ ก็สามารถสร้างความสนใจให้ลูกน้อยอยู่นิ่งๆ ในขณะที่เครื่องกำลังบินอยู่บนความสูงเหนือท้องฟ้าหลายหมื่นฟุตได้สบายๆ แล้วค่ะ แต่ก็เหมาะกับการบินที่ใช้เวลาไม่เกิน1.30 ชม.นะคะ หากดูนานไปอาจจะส่งผลต่อสายตาลูกน้อยได้ค่ะ 5. อาหารการกิน ถ้าหากเราบินกับสายการบินที่ให้บริการอาหารฟรีในเที่ยวบิน ก็จะมีอาหารของเด็กน้อยอยู่ด้วยนะคะ ซึ่งเราสามารถแจ้งได้ตอนจองตั๋วกับสายการบิน ว่าเราแพ้อาหารอะไรบ้าง ก็สามารถที่จะแจ้งไปได้นะคะ หรือ เตรียมอาหารสำหรับลูกน้อยไปเองก็ได้นะคะ แต่แนะนำว่า อย่าให้ทานเยอะ เพราะ ลูกน้อยอาจจะอ้วกอาเจียนได้ค่ะ เพราะฉะนั้นก็ให้กินนิดหน่อย สลับกับ เล่นของเล่น ไปเรื่อยๆจนกว่าจะถึงที่หมายค่ะ เป็นไงบ้างคะ สำหรับเทคนิคที่เอามาฝาก หวังว่าคงจะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่ ที่คิดจะพาลูกน้อยเที่ยวด้วยเครื่องบินพอจะได้เป็นแนวทางเพื่อไปปรับใช้กับลูกน้อยของท่านเองไม่มากก็น้อยนะคะ สำหรับใครที่ต้องเดินทางช่วง COVID-19 นี้นะคะ ก็ขอให้เพิ่มเติมในเรื่องเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ และ หน้ากากอนามัยด้วยนะคะ ขอให้เดินทางปลอดภัยค่ะทุกคน