ปักหมุดอีสาน "ท่องเที่ยว" 5 พระธาตุศักดิ์สิทธิ์ หลังกราบ "หลวงพ่อคูณ"
วันนี้ต้องจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ พุทธศาสนิกชนคนไทยต่างก็เดินทางไปกราบลา "หลวงพ่อคูณ" ที่จังหวัดขอนแก่น เพื่อวางดอกไม้จันทน์ และร่วมพิธีพระราชทานเพลิงสรีรสังขารในช่วงกลางคืน พอเสร็จสิ้นภารกิจ หลายคนมีแพลนจะ "ท่องเที่ยว" ต่อในขอนแก่น หรือในจังหวัดใกล้เคียง
ไลฟ์สไตล์ไทยรัฐ จะชวนไปชม "สถานที่ท่องเที่ยว" เอาใจสายบุญ เป็นพระธาตุชื่อดังองค์ต่างๆ ในภาคอีสาน ส่วนจะมีที่ไหนน่าสนใจบ้าง? มาเช็กทางนี้เลย...
1. พระมหาธาตุแก่นนคร
ถ้าคุณมาท่องเที่ยว ในเมืองขอนแก่น สถานที่ที่ควรมาเช็กอินให้ได้สักครั้งในชีวิตก็คือ "พระมหาธาตุแก่นนคร" วัดหนองแวงพระอารามหลวง ตั้งอยู่ริมบึงแก่นนคร อ.เมือง จ.ขอนแก่น
วัดแห่งนี้เป็นวัดเก่าแก่ของขอนแก่น มีอายุมากว่า 200 ปี ขณะที่พระมหาธาตุแก่นนครเพิ่งสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2539 เนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงครองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี มีความสวยงามอย่างยิ่ง ความสูง 80 เมตร บริเวณยอดจำลองแบบมาจากยอดพระธาตุพนม
พุทธศาสนิกชนและนักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมภายในพระมหาธาตุแก่นนครได้ทั้ง 9 ชั้น ทุกชั้นมีความสวยงามและน่าสนใจ มีฐานสี่เหลี่ยมกว้างด้านละ 50 เมตร เรือนยอดทรงเจดีย์จำลองแบบจากพระธาตุพนม
โดยเฉพาะบริเวณชั้นบนสุด เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ที่สามารถเดินขึ้นไปกราบไหว้ขอพรได้ แต่พื้นที่ค่อนข้างแคบ ต้องสลับกันเข้าไป จุดนี้เป็นจุดสูงสุดของพระธาตุ ทำให้สามารถมองเห็นวิวบึงแก่นนครและตัวเมืองขอนแก่นได้ 360 องศา วิวสวยอลังการมากทีเดียว
พิกัด : วัดหนองแวง ถ.กลางเมือง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น
เวลาทำการ : ทุกวัน เวลา 08.00-18.00 น.
2. พระธาตุขามแก่น
อีกหนึ่งพระธาตุสำคัญในจังหวัดขอนแก่นที่อยากแนะนำ คือ "พระธาตุขามแก่น" เป็นปูชนียสถานของจังหวัดขอนแก่น บ้านขามเคยเป็นเมืองมาตั้งแต่สมัยโบราณ เป็นเวลาประมาณ 2,000 ปี ตั้งแต่ พ.ศ 500 ต่อมาเจ้าเมืองสุวรรณภูมิ ชื่อ เพี้ยเมืองแพน (ปัจจุบันคือ จังหวัดร้อยเอ็ด) ได้มาตั้งเมืองขามแก่นที่ บ้านขาม ในพุทธศตวรรษที่ 5
มีตำนานว่า แต่เดิม ณ ที่นี้เป็นที่รกร้างว่างเปล่า ต่อมาเมื่อเริ่มมีชาวบ้านเข้ามาหักล้างถางพง จับจองที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัยนั้น ชาวบ้านพบว่ามี "ตอมะขาม" ที่ตายแล้วเหลือแต่แก่นอยู่ต้นหนึ่ง แต่ต่อมามีคณะสงฆ์อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ เดินทางผ่านมาและพักแรมแถวตอมะขามตาย ปรากฏว่าวัดต่อมา ตอมะขามกลับมีการแตกใบ ผลิดอก น่าอัศจรรย์ใจ ชาวบ้านจึงเกิดความเคารพบูชา และร่วมกันสร้างเจดีย์ครอบตอมะขามนั้นไว้ พร้อมกับบรรจุพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า 9 ประการ ไว้ในนั้นด้วย
พิกัด : วัดเจติยภูมิ บ้านขาม หมู่ที่ 1 ตำบลบ้านขาม อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น
เวลาทำการ : ทุกวัน เวลา 08.00-17.00 น.
3. พระธาตุนาดูน
ในอดีตพื้นที่บริเวณนี้ของเมืองมหาสารคาม เคยเป็นที่ตั้งของนครจำปาศรีมาก่อน มีการขุดพบหลักฐานทางประวัติศาสตร์ โบราณคดีที่แสดงถึงความเจริญรุ่งเรืองในอดีต ขุดค้นพบโบราณวัตถุต่างๆ มากมาย ที่สำคัญคือ...มีการขุดพบสถูปบรรจุพระบรมสารีริกธาตุบรรจุในตลับทองคำ เงิน และสำฤทธิ์ ซึ่งสันนิษฐานว่ามีอายุอยู่ในพุทธศตวรรษที่ 13-15 เก่าแก่สมัยทวารวดี
รัฐบาลจึงอนุมัติให้ดำเนินการก่อสร้าง "พระธาตุนาดูน" ขึ้นในเนื้อที่ 902 ไร่ โดยบริเวณรอบๆ จะมีพิพิธภัณฑ์ทางศาสนาและวัฒนธรรม สวนรุกขชาติ สวนสมุนไพร ซึ่งตกแต่งให้เป็นสถานที่สำคัญทางพุทธศาสนา
การเดินทาง : จากตัวเมืองมหาสารคาม โดยใช้เส้นทางหมายเลข 2040 ผ่านอำเภอแกดำ อำเภอวาปีปทุม แล้วเลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 2045 ถึงอำเภอนาดูน ทางลาดยางตลอด ห่างจากตัวเมืองประมาณ 65 กิโลเมตร
พิกัด : บ้านนาดูน อำเภอนาดูน จังหวัดมหาสารคาม
วัน-เวลาทำการ : ทุกวัน เวลา 06.00 - 18.00 น.
4. พระธาตุยาคู
"พระธาตุยาคู" หรือ "พระธาตุใหญ่" เป็นหนึ่งในโบราณสถานที่พบในเขตกาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นเมืองโบราณที่มีการขุดค้นพบหลักฐานต่างๆ มากมาย พระธาตุยาคู เป็นเจดีย์ที่ใหญ่ที่สุดของกาฬสินธุ์ ภายในของพระธาตุองค์นี้ ชาวบ้านเชื่อกันว่า มีอัฐิของพระเถระที่ชาวเมืองเคารพนับถือบรรจุอยู่
ส่วนฐานเป็นรูปสี่เหลี่ยมย่อมุม ประดับด้วยปูนปั้น มีบันไดทางขึ้น 4 ทิศ เป็นสถาปัตยกรรมสมัยทวารวดี ถัดขึ้นมาเป็นเจดีย์ทรงแปดเหลี่ยม ซึ่งเป็นรูปแบบเจดีย์ในสมัยอยุธยา ส่วนองค์ระฆังและส่วนยอด เป็นสถาปัตยกรรมสมัยรัตนโกสินทร์ จากลักษณะดังกล่าวขององค์พระธาตุฯ ที่ผสานรูปแบบการก่อสร้างไว้ถึง 3 สมัย
การเดินทาง : ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 214 จากตัวเมืองกาฬสินธุ์ ไปทางจังหวัดร้อยเอ็ด ระยะทาง 19 กิโลเมตร หรือจากตัวอำเภอกมลาไสย ไปตามถนนหน้าโรงเรียนกมลาไสยประมาณ 6 กิโลเมตร ถึงสี่แยกบ้านเสมา ให้เลี้ยวขวาเข้าถนนลูกรังอีกประมาณ 500 เมตร
พิกัด : พระธาตุยาคู ต.หนองแปน อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์
วันและเวลาทำการ: ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 - 16.30 น.
5. พระมหาเจดีย์ชัยมงคล
ปิดท้ายกันที่ "พระธาตุมหาเจดีย์ชัยมงคล" เป็นมหาเจดีย์ขนาดใหญ่ที่วิจิตรพิสดาร ใช้ศิลปกรรมร่วมสมัยระหว่างภาคกลางและภาคอีสาน เป็นการผสมกันระหว่างพระปฐมเจดีย์และพระธาตุพนม ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า รวมทั้งอัฐิธาตุของเกจิอาจารย์ชื่อดังสายอีสาน และยังเป็นศูนย์กลางในการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน
พระมหาเจดีย์ชัยมงคลออกแบบโดยกรมศิลปากร เป็นสีขาวตกแต่งลวดลายตระการตาด้วยสีทองเหลืองอร่าม รายล้อมด้วยเจดีย์องค์เล็กทั้ง 8 ทิศ สร้างในเนื้อที่ 101 ไร่ กว้าง 101 เมตร ยาว 101 เมตร ความสูง 101 เมตร มีให้ชม 5 ชั้น ได้แก่
- ชั้นที่ 1 เป็นห้องโถงกว้างใหญ่ โอ่อ่า ผนังจารึกนามทานาธิบดีต่างๆ
- ชั้นที่ 2 เป็นห้องโถงโอ่อ่า ผนังติดตั้งรูปพระพุทธประวัติ ลวดลายไทยวิจิตรพิสดาร
- ชั้นที่ 3 เป็นที่ประดิษฐานรูปพระณาจารย์ ปราชญ์ อีสานในอดีต เป็นรูปเหมือนสลักหินอ่อน
- ชั้นที่ 4 จัดเป็นพิพิธภัณฑ์แสดงวัดวาอาราม หลวงปู่ศรี
- ชั้นที่ 5 บันไดเวียน 119 ชั้น เป็นห้องโถงรูประฆัง 8 เหลี่ยมบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ
พิกัด : วัดผาน้ำทิพย์เทพประสิทธิ์วราราม ต.ผาน้ำย้อย อ.หนองพอก จ.ร้อยเอ็ด
วันและเวลาทำการ: ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 - 16.30 น.
ไหนๆ ก็เดินทางขึ้นอีสานแล้ว แวะไปไหว้พระขอพร กราบสัการะสิ่งสักดิ์สิทธิ์รับปีใหม่ก็ดีนะ เพื่อความเป็นสิริมงคลของตัวเอง.
ที่มา : thai.tourismthailand, i-san.tourismthailand, วัดหนองแวง, ททท., JDchaimongkol