ฝนตกเราก็ชอบเหม่อ หน้าเธอเราก็ชอบมอง ฝนตกจางๆ ยังไม่บางเท่าเงินในกระเป๋าสตางค์เวลาฝนตกให้รีบหาที่พัก แต่ถ้าอยากได้ที่รักให้รีบมาหาเรา เอาหละครับฝนแรกของปีได้มาเยือนพวกเราแล้ว สถานที่ท่องเที่ยวใกล้ กรุงเทพ ฯ อีกที่หนึ่งสำหรับผู้คนที่ต้องการพักจากแสงสีฟ้าบนหน้าจอ แล้วไปโลดแล่นเดินเล่นต่อท่ามกลางธรรมชาติและป่าเขียว กับเส้นทางเดินเท้าบนสะพานไม้ที่ทอดยาวไปในระยะทางประมาณ 2.6 กิโลเมตรแบบจุก ๆ หรือจะเดินเพียง 200 เมตร ก็จะถึงจุดหมายที่แสนสวยสดกับเวิ้งต้นโปรงทอง ที่ขึ้นเรียงรายกันนับพันต้นซึ่งเป็นจุดไฮไลท์ของที่นี่ ใช่ครับเรากำลังจะชวนทุนท่านที่หลงผิด (ต้องถูกสิ) เข้ามาอ่านบทความนี้ ไปเที่ยว "ทุ่งโปรงทอง" จังหวัดระยองกันครับ ทุ่งโปรงทอง จังหวัดระยอง อยู่ภาคตะวันของประเทศสยาม สามารถมาเที่ยวได้ตลอดทั้งปี และที่สำคัญ “เข้าฟรี” สะดวกสบายเอารถยนต์มาเองก็มีที่จอดให้บริการเสียค่าบริการเพียงคันละ 20 บาท และนั่งรถสามล้อของชาวบ้านที่มาให้บริการ (คนละ 5 บาท/ เที่ยว) เพื่อไปยังปากทางก่อนจะเริ่มออกเดิน หรือไม่ก็สามารถเดินเท้าจากจุดจอดรถมาได้ (ไม่ไกลมาก) และนอกจากกิจกรรมเดินทอดน่องเพลิดเพลินชมธรรมชาติที่เป็นแพลนหลักแล้ว ยังมีกิจกรรมอื่น ๆ ให้สามารถเลือกทำได้อีกด้วย อาทิเช่น นั่งเรือชมธรรมชาติ นั่งเรือไปปล่อยปู เป็นต้น แต่สำหรับวันนี้…เราจะพาทุกท่านไปทำอะไรกันบ้างไปรับชมกัน...จากจุด Start เพียงหนึ่งอึดใจยังไม่ทันได้เหนื่อยก็ถึงจุดหมาย เดินเพียง 200 เมตรเท่านั้นเราก็จะพบ ต้นโปรงทองที่ขึ้นสูงเป็นระนาบถูกจัดวางเรียงรายเป็นระเบียบ สามารถมองออกไปได้ไกลสุดสายตา ใบที่มีสีเขียวอมเหลืองทองช่างตัดกับขอบสีฟ้าได้อย่างลงตัว ตัวอักษรสีขาว “@ ทุ่งโปรงทอง…ระยองฮิ” โดดเด่นบนแบล็คกราวเขียวสดเป็นอย่างดี ถ้าหากมีโอกาสมาตอนแดดร่มลมตกกว่านี้ ที่นี่นับเป็นอีกที่หนึ่งที่เหมาะแก่การถ่ายภาพอย่างดีเลยทีเดียวหากเดินตรงมาอีกหน่อยจะมีหอคอยที่เราสามารถเดินขึ้นไปชมวิวแบบมุมสูงได้ด้วย หอคอยจะอยู่ทางซ้ายมือเมื่อเราเดินเข้าไปด้านใน มุมนี้จะเห็นวิวไกล ๆ เผื่อใครชอบก็สามารถแวะขึ้นมาชมกันได้หลังจากดื่มด่ำกับบรรยากาศความสดเขียวจนสบายตาที่มาพร้อมกับแสงแดดที่แสนจ้าของเที่ยงวันกันแล้ว จุดถัดไปคือ ศาลเจ้าพ่อแสมผู้ หากท่านใดเป็นสาย "มูเตลู" กันแล้วล่ะก็ ที่นี้ก็ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง เพราะเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิตามความเชื่อของชาวบ้านและคนในชุมชนของละแวกนี้ที่นับถือกันมา ถัดไปจากจุดหมายนี้บรรยากาศบนเส้นทางสะพานไม้ก็ยังพอร่มรื่นเหมือนเดินลอดผ่านซุ้มอุโมงค์ต้นโกงกางที่ขึ้นสูงปกคลุมเหมือนโอบอุ้มเราเอาไว้ นอกจากต้นโกงกาง และพระเอกอย่างต้นโปรงทอง ก็ยังมีต้นลำพู ต้นแสม ต้นตะบูนดำ โปรงแดง และพันธุ์ไม้ป่าชายเลนอีกหลากหลายชนิด ที่มีป้ายชื่อแปะไว้ให้เราทำความรู้จักทักทาย say hi กันได้ และหากเดินต่อไปอีกสักหน่อย เราก็จะพบกับอีกหนึ่งจุดไฮไลท์ที่ใคร ๆ ก็ต้องมาแวะชม ที่นั่นก็คือ ก็คือ “ต้นแสมยักษ์” ที่แผ่กิ่งก้านสาขาโชว์ความกว้างใหญ่อลังการอวดโฉมให้เราได้ชักภาพกันอีกจุดหนึ่ง ถัดจากต้นโกงกางยักไป ก็จะพบกับทางแยกที่ถ้าเดินหน้าต่อก็คงจะตกน้ำป๋อมแป๋มเพราะเส้นทางเป็นแบบตัว T หากเราเลี้ยวขวาจากจุดแยกนี้สามารถเดินไปถึงเรือรบประแสได้ด้วย และถ้าออกซ้ายก็จะวนกลับไปที่เดิมที่เคยเดินมา (และรับรองว่าขวาร้ายซ้ายดีเผื่อใครอยากเดินแต่เราพอแล้ว) ความเงียบของวันธรรมดาช่างเป็นช่วงเวลาที่เรารู้สึกสงบและจดจ่อกับธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ เราเปลี่ยนแผนกันนิดหน่อยตอนแรกว่าจะเดินกลับ แต่เมื่อตอนมาบริเวณใกล้ ๆ ศาลเจ้าพ่อแสมผู้ เราได้คำเชิญชวน โฆษณา ลดแลกแจกแถมกับโปรโมชั่นพิเสษกับการล่องเรือชมธรรมชาติ ไปดูปูก้ามดาบที่ชูก้ามสู้แสงตะวัน ชมฝูงค้างคาวแม่ไก่บนยอดไม้ ชมหาดทรายดำ ฯ ในราคาพิเศษคนละ 50 บาท ไม่รอช้าเอาสิครับ และยิ่งโชคดีลุงกัปตันผู้นำทางของเราแกก็อัธยาศัยดีแนะนำความรู้ต่าง ๆ อย่างละเอียด นั่งเรือรับลมทะเลที่พัดประทะหน้าไปตามคลองที่เชื่อมกับทะเล สองข้างทางเป็นต้นไม้ป่าชายเลนที่ขึ้นเขียวตระการตา มีกลุ่มนกสีแปลก ๆ บินโฉบเกาะกิ่งไม้ให้เราได้ยลโฉม ได้เห็นกระรอกตัวสีแดงอมส้มสดใสกระโดดหยอกล้อเล่นข้ามกิ่งไม้กันไปมา และอีก 1 ไฮไลท์ของที่แห่งนี้ บ้านปากคลอง 100 ปี เส้นทางที่เรือโลดแล่นไปตามร่องน้ำ คดโค้งไปตามทางภาพเบื้องหน้ายังคงสร้างความสงบในหัวใจแม้เครื่องยนต์กลไกจะส่งเสียงดังคำรามก็ตามแต่บรรยากาศวันธรรมดาแบบนี้นับว่าคุ้มค่ามากเลยทีเดียว ขากลับเรือจะไปส่งที่ปากทางที่มาก็ได้ แต่เราเลือกกลับมาลงที่เดิมบริเวณศาล เพราะอยากเดินกลับไปทุ่งโปรงทองอีกสักครา ก่อนเดินทางกลับก็ว่าจะแวะหาอะไรลงท้อง มีร้านอาหารที่เรามองไว้ตั้งแต่ตอนมาอยู่บริเวณปากทาง ร้านมีชื่อว่า ร้านผู้ใหญ่เจี๊ยบ เมนูที่เขาแนะนำขึ้นชื่อก็น่าจะเป็นก๋วยเตี๋ยวผัดปู ที่หน้าตาออกคล้ายจะเป็นผัดไทยที่ใส่ปูนิ่มเป็นวัตถุดิบ ส่วนเรื่องรสชาติเราว่าเยี่ยมเลย เพราะเส้นที่เหนียวนุ่มผสมกับรสเปรี้ยว-หวาน-เผ็ด กันอย่างลงตัวแบบไม่ต้องปรุงเพิ่ม ส่วนอีกเมนูที่เราสั่งมาสู้กับอากาศร้อนแบบนี้คือ เกาเหลาปลาอินทรีย์ มากับข้าวเปล่า เน้นหนักท้องเสียงหน่อย และรสชาติปลาที่ไม่คาวนี่คือสวรรค์ของการกินแล้วอิ่มท้องล้อรถหมุนกลับบ้านได้ สำหรับใครว่าง ๆ นอกจะแวะเข้ามาอ่านบทความนี้แล้ว เราเชื่อว่าหากผ่านมาที่นี่น่าสนใจทีเดียว One day trip กับคนที่คุณรัก กิจกรรมในครอบครัวของคุณจะไม่น่าเบื่ออีกต่อไป งั้นผมขออนุญาตไปสตาร์ทรถเปิดแอร์รอก่อนนะครับ ไม่งั้นผู้บัญชาการทางบ้านจะบ่นร้อนเอาก่อน สวัสดีครับ พิกัด : ทุ่งโปรงทอง ต. ปากน้ำประแส อ.แกลง จ.ระยอง https://maps.app.goo.gl/5yPhDLSKR7JYK3jc6เวลาทำการ : เปิดทุกวัน 06:00 - 18:00 น.ข้อแนะนำ : เตรียมหมวก ร่มแว่นกันแดด เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !