สวัสดีค่ะเพื่อน ๆ ช่วงระยะเวลานี้สถานการณ์เริ่มผ่อนคลายขึ้นบ้างแล้ว หลาย ๆ จังหวัดก็เริ่มมีการปลดล็อกกันบ้างแล้วค่ะ ซึ่งผู้เขียนเชื่อว่าหลาย ๆ คนเริ่มมองหาที่ท่องเที่ยวเพื่อพักผ่อนหย่อนใจกันบ้างแล้วใช่ไหมคะหลังจากที่เครียดกับสถานการณ์โรคระบาดกันมายาวนานหลายเดือน แต่ถึงอย่างไรเราก็ต้องให้ความร่วมมือกับภาครัฐนะคะในการปฎิบัติมาตรการต่าง ๆ เพื่อความปลอดภัยของทุก ๆ คนค่ะ แต่เมื่อมีการปลดล็อกสถานที่ท่องเที่ยว เราก็อยากจะผ่อนคลายกันบ้างใช่ไหมหละคะ ซึ่งผู้เขียนเองก็เป็นหนึ่งในนั้นค่ะ เมื่อคิดได้อย่างนั้นก็เลยชวนเพื่อนแบบปัจจุบันทันด่วนเป็นทริปไฟไหม้มาก ๆ เลยค่ะ😅 โจทย์คือ “ทะเล” แต่ว่ารอบนี้ผู้เขียนมีเวลาน้อยมากจึงหาที่เที่ยวใกล้ ๆ ใช้เวลาเดินทางไม่นาน ให้เพื่อนเปิดหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ตและจองที่พักจากเว็บไซต์ค่ะ เราก็บอกเพื่อนไปว่าที่ไหนก็ได้ขอเป็นที่พักติดทะเลได้หมดเลย เพื่อนก็ดำเนินการโดยด่วนเลยค่ะ จองเสร็จสรรพ เมื่อได้ที่พักเรียบร้อยแล้วเพื่อนบอกว่าเตรียมเก็บกระเป๋าไปกันเลยค่ะ เมื่อได้ยินอย่างนั้รจะรออะไร ไปค่ะ ไปเที่ยวกัน 😅เราได้ที่พักกันที่ บางเสร่ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ค่ะ จากนั้นก็ตั้ง GPS ไปกันเลย ผู้เขียนเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวนะคะก็จะสะดวกสบายหน่อย ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมงหน่อย ๆ ค่ะ บางเสร่ นั้น เป็นหมู่บ้านชาวประมงค่ะ ตั้งอยู่ที่ตำบลบางเสร่ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ยังมีความเงียบสงบอยู่นะคะ ตอนแรกมาถึงตรงทางเข้าที่พักแอบตกใจเพราะเห็นคนเยอะมาก แอบคิดประมาณว่าเราหนีความวุ่นวายมาเจอความวุ่นวายรึเปล่านะ😅 แต่ตรงนั้นเป็นตลาดค่ะ คนเลยเยอะหน่อย แต่พอเข้าไปถึงที่พักก็เงียบสงบดีค่ะ เพราะนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวที่นี่ต้องการ ใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย ดำเนินชีวิตอย่างช้า ๆ สบาย ๆ ชิลล์ ๆ บางคนก็มาเป็นครอบครัว บางคนก็มากับเพื่อน บางคนก็มาแบบคู่รักค่ะ baan tah on the sea (บ้านต๊ะออนเดอะซี) ที่พักของเราค่ะ ไปถึงก็สำรวจบริเวณรอบ ๆ ที่พักกันก่อนเลยค่ะ ห้องพักต่าง ๆ ทั้งด้านซ้ายและด้านขวาจะมองเห็นวิวทะเลจากทางระเบียงห้องของตัวเองค่ะ ทางด้านหลังของที่พักเป็นที่นั่งชมวิวมีทั้งแบบนั่งหย่อนขามองทะเล มีทั้งเปล ทั้งโต๊ะไม้หินอ่อน สนามหญ้าเทียม และแบบเป็นที่นั่งในซุ้มก็มีนะคะ ทางด้านหลังของที่พักมีสะพานทอดยาวลงไปในทะเลให้เดินเล่นหรือจะปั่นจักรยานก็ได้นะคะที่นี่เขามีจักรยานให้ปั่นฟรีค่ะ และมีที่สำหรับนั่งกินลมชมวิวและรับประทานอาหารใช่ช่วงเย็น จะมีโต๊ะและที่นั่งสำหรับลูกค้าที่มาพักที่นี่ค่ะ สามารถสั่งอาหารของทางร้านมานั่งทานได้ด้วยนะคะ หรือซื้อเข้ามานั่งทานก็ได้ค่ะ รึใครจะมีอาหารทะเลมาปิ้งย่างก็ได้นะคะ แต่ต้องปิ้งย่างในจุดที่เขากำหนดให้เท่านั้น ซึ่งทางที่พักมีเตาและถ่านไว้บริการค่ะชุดละ 100 บาท ที่พักห่างจากตลาดประมาณ 1 กิโลเมตรค่ะสามารถปั่นจักรยานไปได้ค่ะ อาหารทะเลสด ๆ ก็มีขายนะคะ พอเช็คอินเข้าห้องพักก็สำรวจห้องพักของเราซะหน่อย😂ว่าเป็นไงบ้าง บรรยากาศภายในห้องพักโดยรวมก็ประมาณนี้ค่ะ ห้องพักสะอาดสบายตาและยังดูใหม่อยู่นะคะ มีจาน ชาม ช้อน และมีที่ล้างจานให้ด้วยค่ะ เก๋ไปอีก😁 สำรวจห้องพักภายในเรียบร้อยแล้ว ก็ออกมานั่งกินลมชมวิวหลังห้องเราค่ะ ซึ่งระเบียงหลังห้องจะมีที่นั่งไว้ให้ค่ะ เราสามารถซื้อหรือสั่งอาหารมาทานได้ หรือถ้าจะสั่งอาหารหรือซื้ออาหารไปนั่งทานบริเวณด้านนอกที่เขาจัดไว้สำหรับลูกค้าก็ได้ค่ะ แต่บังเอิญว่าผู้เขียนโชคดีค่ะช่วงเย็นหลังจากที่ไปซื้อของกินกลับมาแล้วฝนตกพอดีเลย ก็เลยได้นั่งกันหลังห้องตัวเองนี่หละ กินไปมองวิวไปได้บรรยากาศอีกแบบนึงค่ะ😅ฝนตกเลยอดนั่งตรงนี้ตอนทานอาหารเลย😅 แต่วิวหลังห้องเราก็สวยนะคะนั่งทานอาหารไปมองวิวไปคุยกันไปเพลิน ๆ ค่ะ ฝนหยุดประมาณสองทุ่มเราก็ออกไปเดินเล่น และก็มีหลาย ๆ คนออกไปนั่งเล่น และสั่งอาหารหรือนำอาหารมาทานรอบดึกกัน นั่งทานอาหาร นั่งคุยกันไป บรรยากาศหลังฝนตกสดชื่นดีนะคะ อากาศเย็นสบายเลยหละคะ ตอนดึก ๆ ก็จะมีลูกค้าที่มาพักที่นี่มาตกปลา ตกหมึก ที่ปลายสะพานค่ะ ซึ่งทางที่พักมีเบ็ดไว้ให้เช่าด้วยนะคะ ราคาประมาณ 100 บาทค่ะ พอตอนเช้าตื่นมาดูพระอาทิตย์ขึ้นกันค่ะ บรรยากาศยามเช้าผู้เขียนโชคดีมากได้ห้องฝั่งทางที่พระอาทิตย์ขึ้นพอดีเลยได้เห็นวิวดี ๆ วิวสวย ๆ และถ่ายรูปมาอวดเพื่อน ๆ ค่ะ นั่งมองพระอาทิตย์ได้สักพัก ท้องก็เริ่มร้อง อาการหิวก็เริ่มมาเตือนแล้วค่ะ อ้อ! ลืมบอกไปค่ะว่าห้องพักที่ผู้เขียนพักนั้นไม่มีอาหารเช้าให้นะคะ เลยต้องหาทานเองหรือจะสั่งกับทางที่พักก็ได้นะคะ แต่ผู้เขียนเลือกที่จะไปหาอาหารเช้าทานเองในตลาดค่ะ ปั่นจักรยานไปตามถนนของหมู่บ้านเพื่อที่จะได้เห็นวิถีชีวิตของคนที่นี่ด้วย เพราะเสน่ห์ของตลาดยามเช้าของแต่ละพื้นที่นั้นน่าสนใจไม่น้อยเลยหละคะ ปั่นจักรยานลัดเลาะไปตามถนนของหมู่บ้านก็จะเห็นว่าบางบ้านก็จะขายอาหารทะเลแห้งเป็นของฝาก บางบ้านก็ขายกาแฟ บางบ้านก็จะขายอาหาร มีหลากหลายค่ะ ปั่นไปเรื่อย ๆ จนถึงตลาด เริ่มมองหาอะไรกิน หิวมากมายค่ะ เติมพลังกันซะหน่อย มื้อเข้าเราเลือกต้มเลือดหมูข้าวเปล่าค่ะ ร้อน ๆ ตอนเช้า ราคาไม่แพงนะคะชุดละ 40 บาทเอง แถมรสชาติอร่อยอีกด้วย ได้เยอะด้วยค่ะอิ่มมาก ๆ 😋 หลังจากที่กินอิ่มเรียบร้อยแล้ว เราก็จะไปดูวิถีชีวิตของชาวประมงที่นี่กันค่ะ เราไปที่ สะพานเทียบเรือกลุ่มประมงบางเสร่ ค่ะ ปั่นจักรยานเข้าไปได้เลยอยู่ไม่ไกลกันมากค่ะห่างจากตลาดประมาณเกือบ 1 กิโลเมตรค่ะ อยู่ติดกับหมู่บ้านเลย ระหว่างทางปั่นจักรยานเข้าออกเพื่อน ๆ ระมัดระวังรถที่วิ่งเข้าออกตลอดเวลาด้วยนะคะ บริเวณสองข้างของสะพานจะมีเรือจอดเทียบอยู่เยอะเลยค่ะ ตลอดความยาวของท่าเลยหละคะ จอดเรียง ๆ กันไว้ ปลาหมึกสด ๆ ขึ้นจากเรือใหม่ ๆ เลยหากเราสนใจเราสามารถติดต่อขอซื้อได้ตรงนั้นเลยนะคะ จากนั้นเราก็กลับที่พักเพื่ออาบน้ำแต่งตัวและเช็คเอาท์ เพื่อที่ไปเที่ยวต่อ แพลนไว้ว่าเราจะแวะเที่ยวระหว่างทางขากลับค่ะ เป้าหมายต่อไปของเราก็คือ หาดบางเสร่ค่ะ หาดบางเสร่ อยู่ติดกับ สะพานเทียบเรือกลุ่มประมงบางเสร่ ห่างกันประมาณ 1 กิโลเมตรเท่านั้นเองจริง ๆ ปั่นจักรยานไปได้นะคะ แต่ว่าผู้เขียนแวะในช่วงขากลับค่ะ คือประมาณว่าแวะเที่ยวระหว่างทางไปเรื่อย ๆ หาดบางเสร่ เป็นหาดที่เงียบสงบมากเลยนะคะ มีนักท่องเที่ยวไม่หนาแน่น มานั่งเป็นแบบครอบครัว ไม่มีเก้าอี้ผ้าใบ ส่วนใหญ่คนที่มาเที่ยวจะเตรียมเสื่อเตรียมผ้าใบสำหรับปูนั่งมาเอง เตรียมของกินมาหรือจะซื้อจากตลาดมากินกัน เพราะบริเวณรอบหาดไม่ค่อยมีของขายมากนัก ที่นี่ยังเน้นความเงียบสงบค่ะ ถ่ายรูป เช็คอิน นั่งเล่นริมหาดอยู่พักใหญ่เลยหละค่ะ ชายหาดที่นี่สงบคนไม่พลุกพล่าน เหมาะกับการพักผ่อนหย่อนใจมาก ๆ เลยนะคะ หลงรักที่นี่แล้วหละซิเรา คงต้องซ้ำอีกแน่นอนเลย นอกจากท้องฟ้าจะแจ่มใสแล้วยังได้ภาพที่มีทั้งวิวทะเลหาดทรายและเรือประมงอีกด้วยค่ะ ประทับใจที่นี่มาก ๆ เลย หลงรักเลยหละต้องมาอีกรอบหรืออีกหลาย ๆ รอบอย่างแน่นอนค่ะ😁 จากนั้นเราก็ไปต่อค่ะ สถานที่ต่อไปคือร้านกาแฟ ซึ่งไหน ๆ เราก็มาเที่ยวสัตหีบแล้ว เราต้องไปเยือนร้านกาแฟที่อยู่ริมทะเลกันค่ะเห็นแต่เขารีวิวกัน ร้านกาแฟ Cafe’ Amazon อยู่ในฐานทัพเรือสัตหีบเลยค่ะ อยู่ห่างจากบางเสร่ประมาณ 18 กิโลเมตร ซึ่งก็เป็นทางผ่านที่เราจะกลับอยู่แล้วค่ะ แวะซะหน่อย😁 แต่น่าเสียดายค่ะ ช่วงที่เราไปร้านเขายังไม่เปิดให้นั่งทาน เขาให้สั่งกลับได้อย่างเดียว แต่ก็สามารถเดินถ่ายรูปบริเวณรอบ ๆ ได้ค่ะ เราก็เลยได้รูปมาแค่บริเวณรอบนอกค่ะ ไว้ค่อยไปใหม่คราวหน้า😜 เดินถ่ายรูปได้สักพักใหญ่ ๆ ก็ถึงเวลาที่จะต้องกลับจริง ๆ แล้วหละค่ะไม่งั้นคงจะมืดระหว่างทางแน่ ๆ เลย ทริปนี้ผู้เขียนประทับใจสุด ๆ เลยหละคะ เพราะเป็นทริปแบบปัจจุบันทันด่วนทริปไฟไหม้มาก ๆ ถึงจะมีเวลาน้อยแต่ความประทับใจมากมายเหลือเกินค่ะ บางเสร่เป็นที่เที่ยวที่น่าสนใจมากเลย ใครได้ไปเยือนคงจะหลงเสน่ห์ที่แห่งนี้เหมือนกันกับผู้เขียนแน่ ๆ ค่ะ และคงเป็นสถานที่ที่หลายคนได้ไปแล้วจะต้องไปซ้ำหลายรอบอย่างแน่นอน อยากจะแนะนำเพื่อน ๆ นะคะหากมีโอกาสลองไปสัมผัสบรรยากาศที่บางเสร่ดูสักครั้งแล้วทุกคนจะติดใจค่ะ ซึ่งเป็นที่เที่ยวที่อยู่ใกล้กรุงเทพมากขับรถประมาณ 2 ชั่วโมงก็ถึงแล้ว หรือใครจะไปแบบ เช้าไปเย็นกลับก็ได้นะคะ ปล.ภาพถ่ายทั้งหมดโดยผู้เขียน