สวัสดีค่ะผู้อ่านทุกท่าน ช่วงนี้สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศจีนเริ่มเป็นที่สนใจมากขึ้น หลังจากประกาศฟรีวีซ่าให้กับชาวไทยไปไม่นานนี้ และเชื่อว่าหลายคนที่สนใจอยากไปเที่ยวประเทศจีน สายธรรมชาติ อาจมีเป้าหมาย ที่มณฑลเสฉวนกัน นั่นคือ อุทธยานแห่งชาติย่าติง Yading ใช่ไหมคะ หลายคนอาจไปมาแล้ว หรือว่ากำลังจะไป วันนี้เรามีข้อมูลเกร็ดเล็กน้อยมาฝากกัน เผื่อว่าเพื่อนๆหลายคนในใจระหว่างทางเข้าอุทธยาน เราจะได้เจอกับบ้านเรือนที่มีลักษณะทางวัฒนธรรมที่แตกต่างออกไปถ้าเพื่อนๆได้สังเกตุดูดีๆ ที่นี่จะมีบ้านรูปทรงลักษณะแบบทิเบตอยู่ค่อนข้างเยอะ เพราะว่าที่นี่เป็นที่อยู่ของชาวพื้นเมืองที่มีเชื้อสายทิเบตกระจายตัวอาศัยอยู่กันละแวกนี้กันค่ะซึ่งระหว่างที่เราไปเราได้แชร์รถกับเพื่อนๆนักท่องเที่ยวชาวจีน เขาคุยกันไปมาว่า อยากจะเข้าไปชมบ้านของคนขับรถที่มีบ้านรูปทรงทิเบตนี้กัน เราโอเคไหมถ้าจะแวะไปก่อนเข้าอุทธยาน เพราะว่าบ้านรูปแบบนี้มักจะไม่เปิดให้ใครได้เข้าไปดูได้ง่ายๆนักเพราะว่าชาวบ้านพื้นเมืองจริงๆขี้อาย และพูดภาษาจีนกลางไม่ชัดนัก แต่คนขับรถพาทุกคนไปชมบ้านแม่เขาที่อยู่แบบดั้งเดิมจริงๆ เมื่อเราได้มีโอกาสไปก็เลยนำภาพมาฝากเพื่อนๆที่อยากรู้กันค่ะ เมื่อเข้าถึงทางเข้าหมู่บ้านที่เป็นชุมชนชาวทิเบตจริงๆ เขาบอกว่าส่วนใหญ่จะต้องมีกงล้ออธิษฐานหรือ prayer wheel อยู่ค่ะ ถ้าเห็นสัญลักษณ์แสดงว่าคุณได้เข้าสู่หมู่บ้านของคนทิเบตแล้ว ซึ่งทางเข้าหมู่บ้านจะมีอาคารหนึ่งเล็กๆที่สร้างเอาไว้ให้คนในละแวกนี้มาหมุนกงล้ออธิฐานกันค่ะ ซึ่งตอนที่ไปชาวบ้านที่เดินผ่านไปมาก็แวะกันทุกคนตอนที่เราไปเขาถือโอกาสพาไปชมรอบๆด้วย ว่าคนแถวนี้ปลูกเห็ดหอมแล้วตากแห้งเอาไว้กินฤดูอื่นด้วย เพื่อนชาวจีนที่ร่วมทางกับเราบอกว่าที่บ้านคนขับรถทำเอาไว้กินเอง อร่อยมากๆ จนต้องของซื้อกันเลยค่ะระหว่างเขาชี้ให้ดูว่ายังต้องมีฝืนกักตุนไว้ตลอดเพราะว่าอะไรเดี๋ยวไปเฉลยกันด้านในบ้านค่ะ ภายในบ้านภายในตัวบ้านจะแบ่งเป็นสองชั้น เราไม่แน่ใจว่าทุกหลังจะจัดระบบแบบบ้านของคนขับรถที่พาเราไปดูไหมนะคะ เขาจะแยกเป็นสองส่วนอัตโนมัติค่ะ ชั้นล่างจะเป็นที่เลี้ยงสัตว์ เขาบอกว่าเอาไว้เลี้ยงเวลาที่อากาศหนาวมาก กลัวสัตว์หนาวตาย ส่วนด้านบนจะเป็นที่พักอยู่อาศัยของคนค่ะเมื่อเปิดประตูเข้าไป เราจะเจอกับบันไดขนาดใหญ่ให้เดินขึ้นไปด้านบน ข้างล่างจะมืดมากเพราะเป็นที่เลี้้ยงสัตว์ มีดินและฟางอาหารสัตว์อยู่ด้าานล่างซึ่งเขาบอกว่าเอาไว้ใช้หน้าหนาวหรือบางคืนก็พาสัตว์ที่เลี้ยงเข้ามานอนในบ้านชั้นล่างนี้ขนาดเราไปช่วงกลางวันยังมีแสงสว่างอยู่บางส่วนเท่านั้น ถ้าใครสังเกตุดีๆถ้าขับรถผ่านแนวทิเบตมักจะไม่เคยเจอผู้คน จนบางครั้งเรายังสงสัยเลยค่ะว่ามีคนอยู่ไหมบ้านนี้ดูเงียบมากๆ พอเข้ามาแล้วถึงกับอ๋อ เขาบอกว่าเดี๋ยวนี้บ้านแบบนี้มักจะเหลือแต่เด็กกับคนแก่ หลังๆคนหนุ่มสาวไปทำงานในเมืองกันหมด ซึ่งบ้านของคนขับรถก็ไม่ได้อยู่ที่นี่แต่อยู่ในเมืองที่รับพวกเราออกมา นี่ก็ถือโอกาสได้มาเยี่ยมแม่กับลูกชายพอดีฟืนที่กองอยู่ด้านล่างเยอะๆ เอามาใช้เพื่อก่อเตาแบบทิเบตแบบนี้ ที่เอาไว้ทั้งทำอาหารและให้ความอบอุ่นในบ้านค่ะ เพราะว่าที่นี่อากาศเย็นมาก แม้ว่าจะเป็นบ้านแนวทิเบตแต่เขาก็ยังสนใจความเชื่อเพราะในบ้านจะมีไม้แกะสลักตามกำแพงเกี่ยวกับศาสนาอยู่เลยค่ะระหว่างที่ได้เข้าไปเยี่ยมบ้านแบบทิเบตของคนขบรถนำเที่ยวของเราในครั้งนี้บอกเลยค่ะว่า รู้สึกได้เลยว่าพวกเขาดีใจมากๆ ที่มีนักท่องเที่ยวอยากเห็นบ้านแบบชนเผ่าแนวนี้ ยิ่งเขารู้ว่าเรากับเพื่อนเป็นคนไทยก็ยื่งดีใจค่ะ นอกจากจะได้รับมิตรภาพดีๆแล้ว เรายังได้ทดลองกินน้ำชานมเค็มเป็นครั้งแรกด้วยค่ะ เป็นยังไงกันบ้างค่ะกับบทความที่เรานำมาฝากเพื่อนๆ หวังว่าจะทำให้ครั้งหน้าใครได้มีโอกาสไปเที่ยวเมืองจีนในละแวกนี้เมื่อเห็นบ้านทรงทิเบตจะเข้าใจความเป็นอยู่มากขึ้นนะคะ ข้อมูล : Mallibellภาพประกอบ : Mallibell อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !