ใกล้ถึงสิ้นปีเข้าไปทุกที ช่วงเวลาแห่งการพักผ่อนที่ใครหลายคนต่างเฝ้ารอคอย ประเทศญี่ปุ่นถือเป็นหนึ่งในสถานที่ ที่คนไทยหลายคนต่างต้องการเดินทางไปเยี่ยมเยือนและใช้เวลาแห่งการพักผ่อน วันนี้เราจึงตั้งใจมาแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวทรงคุณค่าทางวัฒนธรรม ลำดับต้นๆของประเทศญี่ปุ่น ที่นอกจากท่านจะได้เดินทางไปเพื่อพักผ่อนให้สบายกายแล้ว ยังถือเป็นการเดินทางไปรับพร ณ สถานที่ศักดิ์สิทธิ์อันขึ้นชื่อของญี่ปุ่นให้สบายใจกลับมาอีกด้วย ศาลเจ้าเมจิ (Meiji Shrine) คือศาลเจ้าเก่าแก่ที่มีอายุมากกว่าร้อยปีในนามลัทธิชินโต หากท่านใดต้องการเยี่ยมชมวีถีชีวิตหรือรูปแบบวัฒนธรรมที่ให้กลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่นโบราณมากๆ เราขอแนะนำให้ท่านเดินทางมาสถานที่แห่งนี้ค่ะ บรรยากาศและความขลังยังคงปกคลุมทั่วทุกหย่อมหญ้า การันตรีด้วยอายุยืนยาวที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น ศาลเจ้าแห่งนี้ ตั้งอยู่ในย่านฮาราจูกุ ณ เมืองโตเกียว ซึ่งถือเป็นเมืองแห่งแฟชั่น สถานที่ท่องเที่ยวของวัยรุ่นที่คนทั่วโลกรู้จักเป็นอย่างดี ที่แม้ความเจริญจะแผ่ขยายตัวเป็นวงกว้างมากแค่ไหน ศาลเจ้าเมจิก็ยังคงความสงบร่มรื่นและคงกลิ่นอายธรรมชาติเอาไว้ได้ โดยท่านสามารถเดินทางมาไหว้ขอพรโดย รถไฟ JR สาย Yamanote แล้วลงที่ สถานี Harajuku หรือรถไฟใต้ดินโตเกียวเมโทร สาย Chiyoda หรือ Fukutoshin แล้วลงที่สถานี Meiji Jingumae (สถานีฮาราจูกุ) เมื่อมาถึงแล้ว ท่านจะต้องข้ามสะพานหินมาก่อนจึงจะพบกับปากทางเข้าที่มีเสาไม้ใหญ่ ที่มีชื่อเรียกว่า เสาโทริอิ ซึ่งถูกทำขึ้นจากไม้ท่อนใหญ่และเคยถูกฟ้าผ่าเสียหายมาแล้วครั้งหนึ่ง จากนั้นจึงได้รับการทำขึ้นใหม่เป็นครั้งที่ 2 เรียกได้ว่าเป็นเสาที่ทำขึ้นจากไม้ท่อนใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น บางตำรากล่าวว่าการสร้างเสาไม้ขนาดใหญ่นี้ ได้รับทั้งแรงพลังของมนุษย์และเทพเจ้าร่วมกันจึงสร้างสำเร็จได้ เสาโทริอินี้ คือซุ้มประตูบานแรกก่อนที่เราจะถึงศาลหลักค่ะ ซึ่งเราต้องเดินเข้าด้านในอีกประมาณ 15-20 นาที ศาลอายุร้อยปีนี้ สร้างขึ้นเพื่อสักการะจักรพรรดินีแห่งยุคเมจิ หลังพระองค์ได้สิ้นพระชนม์ลง ผู้ที่มีความเคารพศัทธาต่อราชวงค์จึงได้เรียกร้องให้มีการสร้างศาลแห่งนี้ขึ้นมา ถัดจากเสาโทริอิแล้ว สองข้างทางก่อนถึงศาลหลักด้านใน เราจะได้พบกับต้นไม้สูงใหญ่เรียงขนาบข้างกันไป ไม้ใหญ่ช่วยให้ร่มเงาแก่นักท่องเที่ยวและผู้ศรัทธาได้ตลอดเส้นทาง เราขอแนะนำให้ท่านเดินทางมาที่นี่ในช่วงเช้าจะดีที่สุดค่ะ เนื่องจากเส้นทางเดินเท้า ชวนให้เหงื่อตกได้เลยทีเดียว ระหว่างเส้นทางเดินเราจะได้พบกับแลนด์มาร์คที่พบเห็นกันได้บ่อยๆจากภาพถ่ายของผู้ที่มาเที่ยวญี่ปุ่น นั่นก็คือถังสาเก/ถังไวน์รูปแบบต่างๆ ที่ช่วยเพิ่มความสวยงามให้สถานที่และเป็นจุดถ่ายภาพที่นักท่องเที่ยวนิยมเป็นอย่างมาก โดยถังเหล่านี้ได้รับบริจาค จากผู้ที่ศรัทธาไว้ใช้เพื่อความเป็นศิริมงคลในโอกาสพิธีต่างๆ เมื่อเดินชมวิวทิวทัศน์มาจนถึงซุ้มทางเข้าที่ 2 ของศาล ซึ่งเป็นทางเข้าอาคารหลัก ท่านจะได้พบกับซุ้ม Temizuya ที่มีกระบวยตักน้ำและบ่อน้ำไว้ให้ท่านแวะล้างมือ ล้างปากก่อนก้าวเข้าสู่สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ดินแดงแห่งเทพเจ้าของชาวญี่ปุ่นค่ะ น้ำที่ใช้ล้างสะอาดมากกกและเย็นมากนะคะ เราล้างนานเลยกว่าจะเข้าไปด้านใน โดยจะมีขั้นตอนการล้างง่ายๆคือ ล้างมือซ้าย > ล้างมือขวา > ล้างปาก โดยการตักน้ำรินใส่มือซ้ายของเราเอง แล้วจึงนำน้ำจากมือซ้ายล้างปากเรา > ล้างมือซ้ายอีกที > ล้างกระบวยตักน้ำ หลังจากล้างมือล้างปากด้วยน้ำเย็นสะอาดเรียบร้อยแล้ว ก็เดินลอดซุ้มประตูเข้าเดินเยี่ยมชมด้านในกันได้เลย โดยจะมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้แวะสักการะกันหลายที่มากๆ สามารถใช้เวลาด้านในนั้นเพื่อเยี่ยมชมวัฒนธรรมโบราณได้เลยค่ะ ศาลเจ้าแห่งนี้จะมีการประกอบพิธีกรรม โอนิคคุไซ หรือการถวายอาหารแก่เทพเจ้า ที่เกิดขึ้นเวลา 08:00 และ 14:00 นาฬิกาของทุกวัน นอกจากพิธีโอนิคคุไซแล้ว ศาลเจ้าเมจิยังเป็นที่นิยมสำหรับการประกอบพิธีแต่งงานของชาวญี่ปุ่นอีกด้วย ในวันที่เราเดินทางไป เราได้พบขบวนแต่งงานด้วยค่ะ จากคำบอกเล่าที่เราได้รับฟังมา คู่บ่าวสาวที่เราพบในวันนั้นคือทายาทของผู้ทรงอิทธิพลในญี่ปุ่นเลยทีเดียว, ตื่นเต้นมาก เหมือนได้หลุดเข้าไปในซีรีย์โบราณเลยทีเดียว เดินเล่นอยู่พักใหญ่ก็พบกับอีกหนึ่งแลนด์มาร์คที่ทั้งชาวไทยและชาวญี่ปุ่นชื่นชอบ คือราวแขวนแผ่นไม้ Ema ที่เราสามารถเขียนคำอธิษฐานในสิ่งที่ใจปรารถนาจากศาลเจ้าเมจิ หรือจะเขียนคำอวยพรลงไปก็ได้ จากนั้นจะนำไปห้อยไว้ที่ราวไม้รวมกัน ในราคาแผ่นละ 500 เยนโดยประมาณ ด้านในจะมีศาลาศักดิ์สิทธิ์ คาเฟ่ ร้านอาหาร จุดแวะพัก นิทรรศกาลและจุดขายของที่ระลึกให้เราได้ใช้เวลาอยู่ที่นั่นอย่างเพลิดเพลินเลยทีเดียว และหนึ่งสิ่งที่ขาดไม่ได้ของผู้มาเยี่ยมเยือนสถานที่แห่งนี้คือวัตถุมงคลค่ะ ที่นี่มีทั้งจุดดูดวงและขายเครื่องรางค์ที่มีชื่อเสียงหลากหลายรูปแบบ ทั้งด้านความรัก การงาน การเงิน การศึกษา มาถึงที่นี่แล้วสามารถซื้อกลับไปไว้พกติดตัวเสริมดวงเฮงได้เลย หากท่านใดสนใจรายละเอียดเชิงลึก สามารถเข้าเยี่ยมชมเว็บไซด์ของศาลเจ้าเมจิได้เลยนะคะ >>> จิ้มตรงนี้ <<< ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามมาถึงตรงนี้ด้วยนะคะ ขออวยพรให้วันหยุดยาวที่จะถึงนี้ของทุกท่าน เป็นวันพักผ่อนที่มีความสุขค่ะ เรายังคงมีเรื่องราวที่น่าสนใจอีกมากมาย อย่าลืมติดตามกันต่อไปด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ : ) เครดิตภาพทั้งหมด โดยผู้เขียนบทความอื่นๆของ Nanara - ณนารารีวิว DoubleA V-Shape หน้ากากทางการแพทย์ที่หายใจสะดวก จริงไหม?ชวนกางเต็นท์ Countdown @ทุ่งดอกบัวตอง แม่เมาะ จ.ลำปางพื้นไม้ไวนิล SPC กระเบื้องยางที่ไม่ใช่กระเบื้องยาง คุณภาพดีกว่า!แจกสูตรเด็ด! ข้าวผัดอเมริกัน ทำเองง่าย อร่อยได้ที่บ้าน7-11 Community ห้องลับเมาท์มอยของกินของใช้ในเซเว่น อะไรดีอะไรใหม่ ต้องรู้ ต้องคุย ต้องแชร์