วัดเป็นสถานที่ที่แสดงให้เห็นถึงความศรัทธาของพุทธศาสนิกชน วัดทุก ๆ ที่ล้วนมีประวัติศาสตร์อยู่เสมอ และในวันนี้เราก็จะพาเพื่อน ๆ ไปท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ นับเป็นอีกสถานที่หนึ่งที่น่าเที่ยวในช่วงเทศกาลวันปีใหม่เช่นกัน ยิ่งถ้าใครชื่นชอบในเรื่องของประวัติศาสตร์วัฒนธรรมแล้วนั้น ยิ่งต้องมาลองเยี่ยมชมกันเลยค่า วันนี้เราจะไปกันที่ "วัดสิงห์" ตำบลสามโคก อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี นั่นเองค่าา "วัดสิงห์" คือวัดที่มีอายุมายาวนานมาก คาดว่าก่อตั้งมาตั้งแต่สมัยอยุธยา แต่ปรากฎในพงศาวดารครั้งแรกตอนสมัยรัชกาลที่ 2 ภายในวัดมีโบราณสถานและโบราณวัตถุที่น่าสนใจมากมายเลยค่ะ อาทิ ศาลาดิน, โกศพญากราย, พระพุทธรูปปางมารวิชัย และพระพุทธรูปหลวงพ่อเพชรปางไสยาสน์ วัดแห่งนี้ถือว่าเป็นวัดมอญอีกแห่งหนึ่งนะคะ โดยจะสังเกตได้จากการที่มีเสาหงส์กับธงตะขาบอยู่บริเวณประตูวัด สำหรับศาลาดินหรือวิหารโถงนั้น ตกแต่งอย่างสวยงาม โดยศิลปะในการตกแต่งนั้นได้รับอิทธิพลมาจากหลากหลายช่วงเวลาในประวัติศาสตร์เหมือนกันค่ะ ภายในศาลาดินจะเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัย ด้านหลังของพระพุทธรูปปางมารวิชัยก็จะมีซุ้มเรือนแก้วซึ่งมีภาพจิตรกรรมตั้งแต่สมัยอยุธยา โดยเป็นภาพตอนที่พระพุทธเจ้าเสด็จกลับดาวดึงส์ หลังจากที่เยี่ยมพระราชมารดาของท่านเสร็จ และด้านหน้าของซุ้มเรือนแก้วจะเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปหลวงพ่อเพชรปางไสยาสน์ด้วยค่ะ เพื่อน ๆ สามารถเข้าไปกราบไหว้และชมศิลปกรรม จิตรกรรมจากอดีตที่แสนยาวนานและมีคุณค่ามาก ๆ ได้ภายในวัดแห่งนี้เลยนะคะ อีกสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจในเชิงวัฒนธรรมในอดีตคือกระเบื้องบนหลังคาศาลาดินค่ะ ปกติแล้วนั้นเวลาปูกระเบื้องบนหลังคา กระเบื้องแผ่นสุดท้ายจะทำให้เกิดช่องว่างเล็ก ๆ ซึ่งง่ายต่อการที่เหล่านกตัวน้อย ๆ จะเข้าไปสร้างรังมาก ๆ แต่จะเห็นได้ว่ากระเบื้องแผ่นสุดท้ายของศาลาดินแห่งนี้จะมีลักษณะพิเศษออกไป กลายเป็นกระเบื้องที่อุดรูเช่นนี้แทน ซึ่งเป็นแนวคิดที่ชาญฉลาดมาก ๆ ของคนในยุคสมัยนั้นเลยค่ะ นอกจากนี้ภายในศาลาดินยังมีพระแท่นบรรทมของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย (รัชกาลที่ 2) ด้วยนะคะ ซึ่งจากข้อมูลนั้น ผู้เขียนทราบว่าขาของพระแท่นบรรทมนั้นสลักเป็นลายสิงห์ และขอบเตียงของพระแท่นบรรทมนั้นสลักเป็นลายมังกรค่ะ แต่น่าเสียดายที่ผู้เขียนหาไม่พบค่ะ จึงไม่มีโอกาสได้เก็บภาพถ่ายโบราณวัตถุชิ้นสำคัญนี้มากฝาก เนื่องจากวันที่ไปยังเป็นช่วงที่อากาศร้อนจัดอยู่ จึงหลบตัวอยู่แต่ในศาลาดินเป็นหลัก .. หากใครต้องการชมโบราณวัตถุพระแท่นบรรทมก็สามารถสอบถามพระภายในบริเวณวัดได้นะคะ โกศพญากรายเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่มีความสำคัญมากในวัดแห่งนี้ พญากรายคืออดีตเจ้าอาวาสของวัดสิงห์ ซึ่งอยู่ในช่วงสมัยรัชกาลที่ 2 พญากรายคือเจ้าอาวาสท่านแรกที่ถูกเอ่ยถึงในพงศาวดาร จึงมีความสำคัญในเชิงประวัติศาสตร์เป็นอย่างมาก และสถาปัตยกรรมในการสร้างโกศพญากรายนี้ก็มีความโดดเด่นและงดงามอย่างเห็นได้ชัดเลยค่ะ เมื่อเยี่ยมชมโกศพญากรายเสร็จแล้วนั้น ก็จะเห็นว่าด้านหลังของโกศพญากรายนั้นจะเป็นวิหารน้อย ซึ่งด้านในก็จะมีพระพุทธรูปปางมารวิชัยและพระพุทธรูปอีกหลาย ๆ องค์ประดิษฐานอยู่ค่ะ สามารถเข้าไปเคารพและกราบไหว้ได้ตามศรัทธาเลยเช่นกันค่า นอกจากการเยี่ยมชมวัตถุโบราณในวัดแล้วนั้น เมื่อเดินไปข้างหน้าวัดและข้ามถนนไป จะจุดให้เยี่ยมชมโบราณวัตถุจำพวกเตาเผา เครื่องปั้นดินเผา และอิฐมอญด้วยนะคะ ซึ่งอิฐมอญจะเป็นมีลักษณะพิเศษคือจะมีการเจาะรูไว้ที่อิฐ คาดว่าเป็นการช่วยให้อิฐร้อนได้ไวขึ้นเมื่อนำไปเผา นับเป็นอีกหนึ่งความชาญฉลาดของคนในยุคสมัยนั้นอีกเช่นกันค่ะ ถือว่าเป็นอีกจุดเยี่ยมชมหนึ่งที่น่าสนใจในเชิงประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมมอญเป็นอย่างมากเลยค่ะ แต่เนื่องด้วยอากาศที่ค่อนข้างร้อนภายในวันนั้นประกอบกับเวลาที่ผู้เขียนมีจำกัด จึงทำให้ไม่ได้ไปเยี่ยมชมบริเวณนั้นเลยค่ะ น่าเสียดายเป็นอย่างมาก T^T คงต้องฝากเพื่อน ๆ ชาวทรูไอดีไปเยี่ยมชมและกลับมาแบ่งปันประสบการณ์กันแล้วหละค่ะ ~ หากเพื่อน ๆ ชาวทรูไอดีคนไหนกำลังหาที่ท่องเที่ยวใกล้ ๆ ในช่วงเทศกาลปีใหม่ก็สามารถไปเยี่ยมชมโบราณสถานและโบราณวัตถุกันที่วัดสิงห์ได้นะคะ เป็นวัดที่คนน้อย แต่มีคุณค่าในเชิงประวัติศาสตร์เป็นอย่างมากเลยค่า ในวันนี้ผู้เขียนคงต้องขอตัวลาไปก่อนนะคะ หวังว่าโอกาสหน้าจะได้มีโอกาสมาแบ่งปันประสบการณ์ดี ๆ และสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจให้เพื่อน ๆ กันใหม่นะคะ ~